ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
3h ·
8 เม.ย. 2565 เวลา 11.00 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับแจ้งว่า “#อาย” กันต์ฤทัย คล้ายอ่อน อายุ 30 ปี ถูกกลุ่มชายอ้างตัวเป็น #ตำรวจสันติบาล จำนวน 8 นาย ล่อลงออกมาจากห้องพัก อ้างว่ากันต์ฤทัยโพสต์เฟซบุ๊กเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ต้องการเจรจาตกลงไม่ให้โพสต์ลักษณะเช่นนี้อีกและต้องการให้ปิดบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวดังกล่าวไป ก่อนตำรวจจะพาตัวเธอไป สน.ลาดพร้าว แต่สุดท้ายหลังถึง ตำรวจได้ทิ้งเธอไว้และขับรถหนีออกไป เธอจึง #ลงบันทึกประจำวันและแจ้งความกลับเกี่ยวกลับฐาน "ใช้อำนาจมิชอบ" ไว้ที่ สน.ลาดพร้าว
.
.
เปิดไทม์ไลน์ “กันต์ฤทัย” ถูกล่อลงจากห้อง ข่มขู่ “#ถ้าไม่ยอมไป #จะอุ้มไป” พาตัวไป สน.ลาดพร้าว อ้างเจรจาความผิด ม.112 จากการโพสต์เฟซบุ๊ก ทั้งที่ไม่มีหมายจับ-ค้น ก่อนถูกปล่อยทิ้งไว้ที่ สน.
.
1. กันต์ฤทัยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ว่า เวลาประมาณ 10.00 น.ขณะที่เธอนอนหลับอยู่ในหอพักแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาเคาะห้องพักของเธอแล้วพูดในทำนองว่า “รถยนต์ของเธอไปเฉี่ยวชนรถยนต์ของกันต์ฤทัย ช่วยลงไปดูหน่อยได้ไหม” เธอจึงเดินที่ระเบียงเพื่อชะโงกดูรถของตัวเองซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถด้านล่าง ปรากฏว่ามีรถยนต์อีกคันจอดชิดท้ายในลักษณะคล้ายการเฉี่ยวชนจริงๆ เธอจึงรีบเดินลงมายังลานจอดรถทันที
.
2. เมื่อเธอลงมาถึงลานจอดรถ เธอเข้าไปตรวจดูท้ายรถยนต์ของตัวเอง แต่กลับไม่พบร่องรอยของการถูกเฉี่ยวชนใดๆ เมื่อหันหลังเพื่อจะเดินกลับขึ้นห้อง ก็พบว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 8 คนยืนล้อมอยู่ด้านหลัง โดยบอกกับเธอว่าพวกเขาเป็น “ตำรวจสันติบาล”
3. จากนั้นตำรวจนายหนึ่งได้ยื่นเอกสารบางอย่างให้เธออ่านดู เอกสารดังกล่าวเป็นรูปภาพโพสต์เฟซบุ๊กจากบัญชีส่วนตัวของกันต์ฤทัยเองจำนวนหลายโพสต์ด้วยกัน ซึ่งตำรวจอ้างว่าการโพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นการกระทำที่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ต้องการจะพากันต์ฤทัยไปเจรจาตกลงกันที่ สน.ลาดพร้าว เพื่อไม่ให้เธอโพสต์ข้อความในลักษณะนี้อีกและต้องการให้เธอปิดบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวดังกล่าวด้วย หากเธอยินยอมให้ความร่วมมือตำรวจก็จะไม่ดำเนินคดีใดๆ กับเธอ
4. กันต์ฤทัยไม่ยอมไป สน.ลาดพร้าวกับตำรวจ เนื่องจากเธอเห็นว่า ชายกลุ่มดังกล่าวไม่มีแสดงบัตรประจำตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ไม่มีหมายค้น หมายจับ หรือเอกสารใดๆ ตำรวจคะยั้นคะยอจะพาตัวเธอขึ้นรถไป และบอกกับเธอว่า “ถ้าไม่ยอมไป จะอุ้มไปให้ได้” แต่ขณะนั้นเธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นในข้างในเลย ตำรวจยินยอมให้เธอขับรถส่วนตัวตามไป สน.ลาดพร้าว ในระยะประชิดแทน
5. เมื่อมาถึง สน.ลาดพร้าว ในเวลาประมาณ 12.00 น. กันต์ฤทัยพบว่ามีมวลชนและผู้สื่อข่าวเดินทางมารออยู่ก่อนหน้าแล้วประมาณ 10 คน และกำลังมีมาสมทบอีกเรื่อยๆ เมื่อชายกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจสันติบาลดังกล่าวเห็นดังนั้น ก็ได้เดินมาบอกเธอว่า “จะไม่เจรจาด้วยแล้ว ให้เธอรอหมายจับอย่างเดียว” จากนั้นชายกลุ่มดังกล่าวก็ได้ขับรถออกไปทันที
6. กันต์ฤทัยพยายามโทรติดต่อหา พ.ต.ต.ครรชิต สีหะรอด ซึ่งเป็น 1 ในชายกลุ่มดังกล่าว ซึ่งได้ให้นามบัตรมีเบอร์โทรศัพท์ไว้ แต่ก็ไม่มีใครรับสายเลย เธอจึงเดินเข้าไปสอบถามตำรวจที่ประจำการอยู่ด้านใน สน.ลาดพร้าว แต่ตำรวจทุกนายก็ปฏิเสธการให้ข้อมูล บอกแต่เพียง “ไม่รู้เรื่อง”
7. กันต์ฤทัยรู้สึกงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นพอสมควร แต่ยังคงปักหลักรอที่ สน.ลาดพร้าว ต่อไปเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จนกระทั่งทนายความได้เดินทางไปถึงและแนะนำให้เธอลงบันทึกประจำวันไว้เกี่ยวกับการถูกกลุ่มชายซึ่งอ้างตัวว่าเป็นตำรวจข่มขู่คุกคามในวันนี้
.
.
กันต์ฤทัยแจ้งความกลับ ตร. 2 ข้อหา “#ปฏิบัติหน้าที่-#ใช้อำนาจโดยมิชอบ”
.
เวลา 13.12 น. กันต์ฤทัยพร้อมทนายความได้ลงบันทึกประจำวันและแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจสันติบาลทั้ง 8 นาย จากการถูกคุกคามและพาตัว สน.ลาดพร้าว โดยมี พ.ต.ต.ดิลก ปรีดาศักดิ์ พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว เป็นผู้รับเรื่องไว้
.
กันต์ฤทัยได้ให้รายละเอียดข้างต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยยื่นหลักฐานประกอบเป็นคลิปวิดีโอขณะถูกกลุ่มชายฉกรรจ์คุกคามและโน้มน้าวให้ยินยอมถูกพาตัวมา สน.ลาดพร้าว รวมถึงภาพถ่ายใบหน้า 1 ในชายกลุ่มดังกล่าวไว้ให้พนักงานสอบสวน และประสงค์ให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
.
เธอได้แจ้งความร้องทุกข์กับชายที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจทั้ง 8 ราย ใน 2 ข้อหาด้วยกัน ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 “เป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ” และมาตรา 157 “ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”
.
.
เจ้าตัวเผย ตร.ชาย 8 คน คุกคามหญิงคนเดียวที่ #ไม่ได้ใส่แม้ชุดชั้นใน ไม่ใช่ผู้พิกษ์ประชาชนแล้ว
.
หลังกันต์ฤทัยลงบันทึกประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว แล้วเสร็จ เธอได้เปิดเผยความรู้สึกเกี่ยวกับการถูกข่มขู่และคุกคามที่เกิดขึ้นในวันนี้ว่า เธอไม่ได้รู้สึกกลัวใดๆ เลยแม้แต่นิด เพราะการโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อวิพากษ์วิจารณ์สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ยังอยู่ในขอบเขตของกฎหมายนั้น ถือเป็นสิทธิและเสรีภาพที่สามารถทำได้
.
เธอกล่าวว่าการที่ชายฉกรรจ์ลุ่มดังกล่าวที่อ้างตัวว่าเป็น “ตำรวจสันติบาล” ไปข่มขู่ คุกคามเธอซึ่งเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว และขณะนั้นไม่ได้สวมใส่ชุดชั้นในด้านในแม้แต่ชิ้นเดียว ถือเป็นการกระทำที่ไม่สมควรและไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง ตำรวจมีหน้าที่พิทักษ์ดูแลประชาชนไม่ควรอย่างยิ่งที่จะทำเช่นนี้
.
เธอกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “#ถ้ากลัวแล้วหยุด #การต่อสู้ที่ผ่านก็จะเสียเปล่า จะถูกดำเนินคดี ถูกให้ใส่ EM หรืออะไรก็ไม่กลัวทั้งนั้น”
.
ในช่วงเย็นวันนี้ ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ได้เดินทางไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่หอพักของกันต์ฤทัยย่านลาดพร้าวเพื่อเก็บภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น อาทิ แผ่นป้ายทะเบียนรถ รูปพรรณสัณฐาน และอื่นๆ เพื่อนำมาประกอบการดำเนินคดีที่ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ด้วย
.
ทั้งนี้ กันต์ฤทัยเคยถูกดำเนินคดีจากการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2564 มาแล้ว 2 คดีด้วยกัน ได้แก่ การชุมนุมของกลุ่ม “ทะลุแก็ส” ที่ดินแดง ใน #ม็อบ29กันยา64 โดยถูกกล่าวหาว่าร่วมชุมนุมและร่วมกันปาสิ่งของใส่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ซึ่งขณะนี้อัยการยังไม่มีคำสั่งฟ้องแต่อย่างใด และคดีก่อความเดือดร้อนรำคาญ จากการชุมนุม #ม็อบ20มีนา64 ที่ท้องสนามหลวง ซึ่งภายหลังถูกเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 5,000 บาท ถือว่าคดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว
.
.
อ่านบนเว็บไซต์: https://tlhr2014.com/archives/42358
...