เมื่อ ‘ปูติน’ ชักจะเริ่มเป๋ เขาก็เริ่มฟาดหัวฟาดหาง ไม่ต่างกับอาการพวกเผด็จการที่เราได้เห็นบ่อยๆ แถวกะลาแลนด์ อาจมีลิ่วล้อสักคนสองคนคอยยกหาง เหมือนอย่างที่ ‘หนูแก้วและพืชมงคล’ พยายามทำให้ราชมิตรรัสเซียของพระบิดร
แน่นอนกลุ่มคนที่ปูตินกลัวที่สุดก็คือฝ่ายค้านของตัวเอง เขาพยายามกำจัดฝักฝ่ายการเมืองตรงข้ามเสมอมา แต่กำจัดอย่างไรก็ไม่หมด กลับยิ่งแข็งแกร่งและเพิ่มจำนวน เหมือนที่พรรคอนาคตใหม่ถูกทลาย แต่ครั้นเกิดใหม่ ‘ก้าวไกล’ กว่าเดิม
การที่ สน.บางขุนนนท์ออกหมายจับ รังสิมันต์ โรม ส.ส.ก้าวไกล จากการที่ไม่ได้ไปรับฟังข้อกล่าวหาคดีหมิ่นประมาทที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และมูลนิธิป่ารอยต่อเป็นโจทก์ เนื่องจากเขาติดประชุมสภา แจ้งขอเลื่อนแล้วตำรวจไม่ยอมให้เลื่อน
คราวนี้ออกหมายจับมุ่งกักกันตัวไว้ไม่ให้ประกัน แล้วเอาผิดให้ต้องโทษจำคุก ๓ ปี เป็นข้ออ้างให้พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.นั้น “กระทำการอย่างเกินเลยจากขอบเขตที่กฎหมายให้อำนาจ” ดังที่รังสิมันต์ซึ่งเป็นนักกฎหมายกล่าวตอบโต้
“หากทางเจ้าหน้าที่ยังดึงดันที่จะใช้กระบวนการออกหมายเรียกและหมายจับแบบนี้ เพื่อหาเรื่องกลั่นแกล้งผมต่อไป ผมก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อเจ้าหน้าที่” การใช้อำนาจโดยมิชอบ เพราะแรงกดดันของนาย ไม่ทำให้พ้นมลทิน
เช่นกันกับเหล่าทหารที่ปูตินส่งไปก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน ส่วนหนึ่งของยุทธวิธีต่อสู้กับความระห่ำของปูติน โดยรัฐบาลและประชาชนยูเครน ด้วยแรงสนับสนุนของยุโรปและอเมริกา เป็นการให้ความจริงแก่กำลังรบและประชาชนรัสเซีย ว่าพวกเขาถูกหลอกให้ไปเข่นฆ่าเพื่อนบ้าน
ไม่ว่าคำปราศรัยออนไลน์ของประนาธิบดี วโลดีเมียร์ เซเล็นสกี้ เป็นภาษารัสเซียต่อประชาชนในรัสเซีย หรือการออกคลิปปราศรัยของ อาร์โนลด์ ชว๊าร์เซเน็กเกอร์ อดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวานนี้ เนื้อหาตรงถึงชาวรัสเซีย เป็นการตอบโต้ที่ปูตินเจ็บ
เขาจึงออกแถลงบ้าง โหมโจมตี ‘แนวที่ห้า -The Fifth Column’ (หมายถึงฝ่ายตรงข้ามที่ไปร่วมมือกับศัตรู) ด่าสาดเสียเทเสียว่าเป็นผู้ทรยศต่อ (ชาติ) รัสเซีย ทำนองว่า ‘กินบนบ้านขี้บนหลังคา’ ซึ่ง Michael Elgort@just_whatever อธิบายว่า
ปูตินไม่ได้ชี้หน้าพวก ‘โอลิการ์ช’ (เศรษฐีทรงอิทธิพลที่ตอนนี้แห่กันไปพักผ่อนที่ดูไบ) แต่เจาะจงถึงฝ่ายค้านและฝ่ายตรงข้ามที่ไปลี้ภัยอยู่นอกประเทศ “พวกที่ทำเงินได้จากที่นี่แต่ไปอาศัยอยู่ที่โน่น...ตามวิลล่าส์ต่างๆ ในไมอามี่และแถบเฟร้นซ์ริเวียร่า”
เวลานี้ปูตินกำลัง ‘แสบผิว’ หลังจากประธานาธิบดี โจ ไบเด็น ของสหรัฐเอ่ยถึงเขาเป็นส่วนตัว (ไม่ใช่จุดยืนทางการ) ว่า “อาชญากรสงคราม” จึงเป็นที่กล่าวขวัญกันขึ้นมาเวลานี้ว่า จะเอาปูตินไปขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศได้ไหม
ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ไม่ใช่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเพิ่งออกคำสั่งจากการฟ้องร้องของยูเครน ให้รัสเซียถอนทหารทหารออกจากยูเครนทันควัน และก็ตามคาด ปูตินปฏิเสธที่จะยอมรับคำสั่งของศาลนี้ แม้จะมีพันธะในฐานะสมาชิก
ศาลยุติธรรมฯ ซึ่งทำคดีในส่วนที่เกี่ยวกับความประพฤติและความรับผิดชอบของรัฐ แต่ศาลอาญาฯ จะทำคดีการละเมิดโดยบุคคล ส่วนใหญ่เป็นผู้นำประเทศที่รุกราน หรือผู้ปกครองเข่นฆ่าทำร้ายประชาชนบางส่วน ศาลนี้ทั้งรัสเซียและสหรัฐไม่ยอมลงนามรับอำนาจศาล
ปัญหาของศาลระหว่างประเทศ อันมีมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกอยู่ที่ ไม่มีกำลังตำรวจไว้คอยบังคับคดี ตัดสินแล้วขึ้นอยู่กับประเทศสมาชิกที่เกี่ยวข้องคดีจัดการบังคับให้ หากเป็นกรณีระหว่างประเทศก็อาจจะเป็นกลุ่มประเทศช่วยกัน ดังเช่นยุโรปและสหรัฐทำอยู่แล้ว
ทว่าเมื่อเป็นคดีเกี่ยวกับบุคคล จำเป็นที่ต้องใช้ประเทศสมาชิกซึ่งบุคคลที่ละเมิดนั้นอาศัยอยู่หรืออยู่ในขอบข่ายอำนาจจัดการให้ ตามพันธะหน้าที่ ตัวอย่างเคยมีมาแล้ว เช่นการจัดตั้งตุลาการพิเศษ (Tribunal) ในกรณียูโกสลาเวีย และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรวันด้า
หลายกรณีในยูเครนซึ่งเป็น ‘อาชญากรรมสงคราม’ ที่ วลาดิเมียร์ ปูติน เป็นผู้บงการ ต้องรับผิดชอบโดยตรง การยิงระเบิดใส่โรงละครในมาริอูโปล อันทำให้พลเรือนยูเครนที่เข้าไปหลบภัยในนั้นนับพันคน เสียชีวิตจำนวนมาก จัดเป็นความผิดอันหนึ่ง
รวมถึงการยิงขีปนาวุธใส่โรงพยาบาล สถานดูแลหญิงตั้งครรภ์ และโรงพยาบาลเด็ก ซึ่งมีการเสียชีวิตของประชาชนธรรมดาอีกมากมาย และการที่กำลังทางทหารของรัสเซียใช้ระเบิดความร้อนในท้องที่อยู่อาศัยชาวเมืองหลายแห่ง
เหล่านั้นล้วนเป็นความผิดอาชญากรรมสงครามโดยตรงที่ติดตัวปูตินไปตลอดชีวิต เมื่อไรเขาหมดอำนาจ ก็สามารถตั้งตุลาการอาชญากรรมสงครามขึ้นพิพากษาคดีได้ ไม่มีอายุความ แม้แต่ดำเนินคดีต่อวิญญานก็ยังได้ เผด็จการไทย หรือผู้ปกครองเหี้ย มๆ ทั้งหลายพึงสำเหนียก
(https://www.bbc.com/news/world-60690688, https://twitter.com/Schwarzenegger/status/1504426844199669762, https://twitter.com/just_whatever/status/1504144895501557762, https://www.facebook.com/charnvit.ks/posts/5570126946335020 และ https://prachatai.com/journal/2022/03/97716)