วันพฤหัสบดี, มกราคม 05, 2560

คนที่มีหน้าที่ป้องกันประเทศกับคนที่มีหน้าที่พัฒนาประเทศ ควรเป็นคนละคนกัน





มัวแต่นั่งเขียนผังโมเดลปฏิรูปน่ะสิ เลยไม่ทันวางแผนสกัดกั้นน้ำท่วมใต้รอบสอง

ก็ไหนเคยตราหน้ารัฐบาลชุดก่อนของสมหญิง คนที่เดี๋ยวนี้พวกทั่นเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอนักหนา ต้องส่งนอกเครื่องแบบเป็นฝูง คอยติดตามถ่ายรูปอย่าง ‘ไม่เนียน’





จำได้นะ จีบปากว่าเค้าไม่ได้วางแผนป้องกันให้ดี น้ำถึงได้ท่วมใหญ่กรุงเทพฯ ปี ๕๔ น่ะ

ปีนี้น้ำท่วมใต้หนักเป็นประวัติการณ์ในรอบ ๑๐ ปี ไม่เห็นใจคนใต้แล้วหรือ แหม่งนี่ ถ้าเป็นอีสานท่วมหนักบักโกรกอย่างนี้แล้วรัฐบาลเฮียตู่เฉไฉละก็ จะไม่แปลกใจเลย





คุณวาสเค้าว่า “บิ๊กตู่ไม่ได้ไปไหนปีใหม่ แต่ใช้เวลาเขียนโมเดลตั้ง ‘คณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ’ ระยะ ๒ นี่ล่ะ” (@WassanaNanuam)

ก็ไม่รู้ตั้งสภาปฏิรูปฯ ไว้ทำหออะไร พอเขาเสนอใช้ ม.๔๔ นิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งจำนวนมากยังติดกักอยู่ในคุก เลวร้ายยิ่งกว่าคุกขี้ไก่เขมร ถึงสะอาดกว่าแต่ว่าเชื้อโรคระงม เลือดเป็นพิษระบาด ‘ตู่’ อีกคน จตุพร พรหมพันธุ์ กำลังย่ำแย่ไม่รู้จะต้องหยองหรือเปล่า

เรื่องปฏิรูปนี่ที่จริงง่ายจะตายเหมือนตะหานเป็นนายกฯ ประเทศไทยนั่นละ พอดีมีคนไปตอบไว้ที่ทวิตคุณวาส ‘@BangkokDemox ‏@Didactic2014’ เขียนว่า “คนที่มีหน้าที่ป้องกันประเทศกับคนที่มีหน้าที่พัฒนาประเทศ ควรเป็นคนละคนกัน

คนที่ท่านเลือกมาทำ ‘งานปฏิรูป’ ควรจะเป็นคนที่รู้เรื่องรู้ราว หรือไม่ก็รู้ที่มาที่ไป...มีคนบอกให้ดูตัวอย่างสองเรื่อง ที่อาจดูไม่เข้าท่า แล้วยังดูถอยหลัง

๑.ปฏิรูปสื่อ/กระจายการถือครองคลื่นความถี่ (น่าสงสัย กสทช. ด้วย ว่ามีคนที่เห็นปัญหาจนต้องปฏิรูปต้องแก้ไข สักกี่คน)...

หรือว่าในการปฏิรูปนี้ หลักการมีแค่ว่า จะแก้ไข/ปรับปรุง/เปลี่ยนแปลงอะไร ยังไงก็ได้ ยกเว้น ‘หม้อข้าว’ ของบางฝ่าย จะไปแตะต้องหม้อข้าวของเขาไม่ได้ ใช่มั้ย”

เสร็จจากนั่งเขียนโมเดล หลังปีใหม่ทั่นยู้ธก็ไปเขย่งแต่งเพลง ‘สะพานควาย’ ซะอีก โคตร busy

วันนี้ (๕ มกรา) ไทยรัฐบอกว่า “ใต้อ่วม หลายพื้นที่มีสภาพจมบาดาล เมืองคอนหนักสุด” ไล่อ่านกันเองนะว่าหนักหน่วงขนาดไหน ทั้งที่นครศรีฯ พัทลุง ตรัง กระบี่ ยะลา ปัตตานี

(http://www.thairath.co.th/content/828306#ข่าวหน้า1#ไทยรัฐ)

“ผลจากน้ำท่วมหนัก! บขส.ประกาศ หยุดเดินรถ ๖ เส้นทางภาคใต้ผ่านทุ่งสง หลังระดับ #น้ำท่วมสูง รถโดยสารไม่สามารถผ่านได้” (@Pat_ThaiPBS)





รึว่า จะรอฉวย ‘เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส’ ใช้ปริมาณน้ำท่วมเป็นเครื่องทดสอบประสิทธิภาพเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า รุ่น S26T ลำเดียวมูลค่า ๑๓,๕๐๐ ล้านบาท ที่กองทัพเรือเตรียมการประกวดราคาจัดซื้อจากจีนมหามิตรใหม่ (ที่มีเสียงเล่าขานว่าใจป้ำทิปไม่อั้น)

ซึ่ง วีระ สมความคิด ผู้ซึมซับคุกเขมร (และคงยังแค้นพรรค ปชป. ไม่หาย) ตั้งข้อสังเกตุ “กระบวนการคัดเลือกที่โปร่งใสและเป็นธรรมจริงหรือไม่...





ทั้งความโปร่งใสในกระบวนการจัดหา ความพยายามนำขีดความสามารถของยุทโธปกรณ์หลักไปเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับความร่วมมือเพื่อดำรงเสถียรภาพของรัฐบาล”

เขาเตือนให้ด้วยว่า “ระวังให้ดี มันเคยมีบทเรียนมาแล้ว...อาจจะเป็นเหมือนที่กองทัพบกซื้อเรือเหาะมาใช้ แล้วเหาะไม่ได้ ต้องแอบนำไปขายทิ้ง กองทัพบกเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดรับผิดชอบ

(เรื่องเกิดในสมัยผู้ใดเป็น ผบ.ทบ.? ยังจำได้ไหม? ถ้าไม่รู้ให้ไปถามประวิตร วงษ์สุวรรณ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และอนุพงษ์ เผ่าจินดา)”

(http://www.matichon.co.th/news/416511)

อ้าว คนเก่าคนแก่ หน้าคุ้นๆ ทั้งนั้น ชวนให้สะดุดคำ ‘หม้อข้าว’ เข้าให้เต็มเปา