'ประวิตร' แจง 20 ล้านเหมาลำประชุมฮาวายhttps://t.co/IOE8mC8NJJ#ประวิตร #ฮาวาย pic.twitter.com/Q3Bpzhi537— VoiceTV21 (@Voice_TV) October 3, 2016
เวอร์ชั่นยาวจาก Youtube
'ประวิตร' แจง 20 ล้านเหมาลำประชุมฮาวาย
https://www.youtube.com/watch?v=QKmI1lxTa14
'ประวิตร' แจง 20 ล้านเหมาลำประชุมฮาวาย
by วันเพ็ญ แถวอุดม
3 ตุลาคม 2559
โฆษกกระทรวงกลาโหม ไม่เปิดเผยรายชื่อผู้ร่วมเที่ยวบินเหมาลำ ของคณะพลเอกประวิตร จำนวน 38 คน ไปประชุมที่ฮาวาย ด้วยงบประมาณมากกว่า 20 ล้านบาท เนื่องจากเหตุผลเรื่องความมั่นคง ส่วนรองนายกรัฐมนตรี ยินดีรับการตรวจสอบ
ที่มา Voice TV
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงการใช้งบกว่า 20.9 ล้านบาท สำหรับเช่าเหมาลำเที่ยวบิน ร่วมประชุมความมั่นคงที่ฮาวาย ระหว่างวันที่ 29 กันยายน - 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา สาเหตุที่ต้องเช่าเหมาลำเที่ยวบินโดยสารพาณิชย์ เนื่องจากมีความจำเป็น เพราะมีเวลาแค่ไม่กี่วัน เดินทางไป-กลับ หมดเวลาไปแล้ว 2 วัน มีเวลาประชุม 3 วัน และถ้าต้องไปต่อเครื่องหลายต่อ จะทำให้เสียเวลา ส่วนรายละเอียดเป็นราคาสูงสุดที่ทางการบินไทยเสนอมา แต่ไม่ได้เก็บราคาเต็ม
ส่วนค่าอาหารบริการบนเครื่องบินกว่า 6 แสนบาท ก็เป็นการตั้งราคากลางที่คิดจากราคาหัว ยังไม่ใช่ราคาจริง อาหารก็เป็นอาหารไทยธรรมดา เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ไม่ได้มีอาหารพิเศษมาจากที่ไหน พร้อมบอกว่า ยินดีรับการตรวจสอบ และยืนยันว่าการเดินทางครั้งนี้ไปทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยว
ส่วนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นการไปทำประโยชน์ ไม่ใช่เป็นการไปเที่ยว แต่หากใครติดใจให้ไปฟ้องร้อง
นายกรัฐมนตรี ยังตัดพ้อสื่อเรื่องการเสนอข่าวว่า เน้นความรวดเร็ว แต่ไม่ตรวจสอบความถูกต้อง เรื่องที่เกิดขึ้น ควรให้ตรวจสอบตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งยืนยัน ไม่เข้าข้างใคร แต่ให้เป็นไปตามขั้นตอน เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย
สำหรับรายชื่อผู้ร่วมคณะ พลเอกประวิตร ตามการเปิดเผย โดย พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ประกอบไปด้วย ผู้แทนจากกองทัพไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม ที่ปรึกษารัฐมนตรีกลาโหมและเลขานุการรัฐมนตรีกลาโหม รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านธุรการและแพทย์ และสื่อมวลชน
สาเหตุที่เป็นการไปคณะใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นวาระพิเศษ เพื่อยืนยันด้านความสัมพันธ์กับทางสหรัฐฯ กับทางผบ.ภาคพื้นแปซิฟิก และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯในเวทีระดับพหุพาคี /แต่อย่างไรก็ตาม รายชื่อบุคคลที่ร่วมเดินทางด้วยนั้นถือเป็นเรื่องของความมั่นคง จึงไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น ส่วนเครื่องบินกองทัพอากาศศักยภาพไม่เพียงพอ
ส่วนขั้นตอนดังกล่าวปรากฎในเว็บไซต์สำนักเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีเผยแพร่ประกาศราคากลางจัดซื้อจัดจ้างประจำปี 2559 โดยกองการต่างประเทศ เป็นผู้รับผิดชอบ
ขั้นตอนนี้มีผู้กำหนดราคากลาง 3 รายประกอบไปด้วย นางสาวปรียาวรรณ สารกิจปรีชา ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ นางสาวดุสิตา ศรีชู ผู้อำนวยการกลุ่มวิเคราะห์ และประสานงานต่างประเทศ และนางสาวกัณห์ชรี ทองแสง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ โดยสืบราคาจากบริษัทการบินไทย จำกัดมหาชน วงเงินรวม 20 กว่าล้านบาท โดยแบ่งค่าใช้จ่ายเป็น 5 ด้าน
รายละเอียดวงเงินงบประมาณ ในการใช้โดยสารทางอากาศ โดยสารเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งมีรายละเอียดค่าใช้จ่าย รวมเป็นจำนวนถึง 20,953,800บาท
โดยค่าใช้จ่ายที่น่าสนใจคือ ค่าอาหารและเครื่องดื่มระหว่างบิน 6 แสนบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 3,106,200 บาท
และเพื่อเปรียบเทียบข้อมูล ที่ผ่านมาผู้นำรัฐบาล และรัฐมนตรี ซึ่งเคยมีการเช่าเหมาลำเที่ยวบินพาณิชย์ ไปร่วมการประชุมในต่างประเทศ เช่น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยมีการเช่าเหมาลำเที่ยวบินพาณิชย์ ไปประชุมสุดยอดอาเซียน-สหพันธรัฐรัสเซีย สมัยพิเศษ ระหว่างวันที่ 17-21 พฤษภาคม 2559 เส้นทาง กรุงเทพ-นครเว็นปีเตอร์สเบิร์ก –เมืองโซชิ-กรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมเป็นเงินทั้งสิน 16,234,500.00 บาท
และในการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม 2557 ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิน 16,000,000 บาท
ส่วนเพจ เพจดังอย่าง CSI LA มีผู้ติดตามกว่า 7 แสนคน เปิดเผยข้อมูล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ 81 คน เดินทางไปร่วมหารือเอกชนกำหนดยุทธศาสตร์ การค้า-ลงทุน 3 ประเทศในยุโรป สมาพันธรัฐสวิส สาธารณรัฐอิตาลี และมอนเตเนโกร ระหว่างวันที่ 8-15 กันยายน 2556 การเดินทางได้ใช้วิธีเดินทางด้วยการเช่าเครื่องการบินไทยแบบเหมาลำ มีค่าใช้จ่ายเส้นทาง กรุงเทพฯ-เจนีวา- ซูริค-โรม-มิลาน (พักเครื่องรอ) -กรุงเทพฯ : 18,900,000 บาท มิลาน-มอนเตเนโกร 2 ลำ ลำละ 1,450,000 บาท : 2,900,000 บาท รวมค่าเครื่องบิน 21,800,000 บาท
ส่วนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยขณะอยู่ในตำแหน่ง เคยไปประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปค ที่ฮาวายเช่นกัน เจ้าหน้าที่ ปลัดและข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ก็เดินทางโดยเครื่องบินโดยสารพาณิชย์ตามปกติ ใช้เงินไปไม่น่าจะถึง 2 ล้านบาท ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจของไทยขณะนั้นดีกว่าตอนนี้มาก
แตกต่างจากกรณี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม 5 วัน หมดไป 20 กว่าล้านบาท ซึ่งรู้สึกเสียดายเงินหลวง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าสำหรับการเดินทางของ พล.อ.ประวิตร พาคณะไปทั้งหมดรวม 38 คน โดยบริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) คิดค่าเดินทางเฉลี่ยรายหัวคนละ 5 แสนบาทและเนื่องด้วย เป็นการเช่าเหมาลำเครื่องบิน 4 วัน รอรับ-ส่ง จึงทำให้การเดินทางครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายสูงเกือบ 21 ล้านบาท
.....
แค่รายชื่อ 38 คนยังไม่ยอมบอกแล้วเสือกบอกตรวจสอบได้
โฆษกกระทรวงกลาโหม ไม่เปิดเผยรายชื่อผู้ร่วมเที่ยวบินเหมาลำ ของคณะพลเอกประวิตร จำนวน 38 คน ไปประชุมที่ฮาวาย ด้วยงบประมาณมากกว่า 20 ล้านบาท เนื่องจากเหตุผลเรื่องความมั่นคง ส่วนรองนายกรัฐมนตรี ยินดีรับการตรวจสอบ
ที่มา Voice TV
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงการใช้งบกว่า 20.9 ล้านบาท สำหรับเช่าเหมาลำเที่ยวบิน ร่วมประชุมความมั่นคงที่ฮาวาย ระหว่างวันที่ 29 กันยายน - 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา สาเหตุที่ต้องเช่าเหมาลำเที่ยวบินโดยสารพาณิชย์ เนื่องจากมีความจำเป็น เพราะมีเวลาแค่ไม่กี่วัน เดินทางไป-กลับ หมดเวลาไปแล้ว 2 วัน มีเวลาประชุม 3 วัน และถ้าต้องไปต่อเครื่องหลายต่อ จะทำให้เสียเวลา ส่วนรายละเอียดเป็นราคาสูงสุดที่ทางการบินไทยเสนอมา แต่ไม่ได้เก็บราคาเต็ม
ส่วนค่าอาหารบริการบนเครื่องบินกว่า 6 แสนบาท ก็เป็นการตั้งราคากลางที่คิดจากราคาหัว ยังไม่ใช่ราคาจริง อาหารก็เป็นอาหารไทยธรรมดา เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ไม่ได้มีอาหารพิเศษมาจากที่ไหน พร้อมบอกว่า ยินดีรับการตรวจสอบ และยืนยันว่าการเดินทางครั้งนี้ไปทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยว
ส่วนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นการไปทำประโยชน์ ไม่ใช่เป็นการไปเที่ยว แต่หากใครติดใจให้ไปฟ้องร้อง
นายกรัฐมนตรี ยังตัดพ้อสื่อเรื่องการเสนอข่าวว่า เน้นความรวดเร็ว แต่ไม่ตรวจสอบความถูกต้อง เรื่องที่เกิดขึ้น ควรให้ตรวจสอบตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งยืนยัน ไม่เข้าข้างใคร แต่ให้เป็นไปตามขั้นตอน เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย
สำหรับรายชื่อผู้ร่วมคณะ พลเอกประวิตร ตามการเปิดเผย โดย พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ประกอบไปด้วย ผู้แทนจากกองทัพไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม ที่ปรึกษารัฐมนตรีกลาโหมและเลขานุการรัฐมนตรีกลาโหม รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านธุรการและแพทย์ และสื่อมวลชน
สาเหตุที่เป็นการไปคณะใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นวาระพิเศษ เพื่อยืนยันด้านความสัมพันธ์กับทางสหรัฐฯ กับทางผบ.ภาคพื้นแปซิฟิก และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯในเวทีระดับพหุพาคี /แต่อย่างไรก็ตาม รายชื่อบุคคลที่ร่วมเดินทางด้วยนั้นถือเป็นเรื่องของความมั่นคง จึงไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น ส่วนเครื่องบินกองทัพอากาศศักยภาพไม่เพียงพอ
ส่วนขั้นตอนดังกล่าวปรากฎในเว็บไซต์สำนักเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีเผยแพร่ประกาศราคากลางจัดซื้อจัดจ้างประจำปี 2559 โดยกองการต่างประเทศ เป็นผู้รับผิดชอบ
ขั้นตอนนี้มีผู้กำหนดราคากลาง 3 รายประกอบไปด้วย นางสาวปรียาวรรณ สารกิจปรีชา ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ นางสาวดุสิตา ศรีชู ผู้อำนวยการกลุ่มวิเคราะห์ และประสานงานต่างประเทศ และนางสาวกัณห์ชรี ทองแสง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ โดยสืบราคาจากบริษัทการบินไทย จำกัดมหาชน วงเงินรวม 20 กว่าล้านบาท โดยแบ่งค่าใช้จ่ายเป็น 5 ด้าน
รายละเอียดวงเงินงบประมาณ ในการใช้โดยสารทางอากาศ โดยสารเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งมีรายละเอียดค่าใช้จ่าย รวมเป็นจำนวนถึง 20,953,800บาท
โดยค่าใช้จ่ายที่น่าสนใจคือ ค่าอาหารและเครื่องดื่มระหว่างบิน 6 แสนบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 3,106,200 บาท
และเพื่อเปรียบเทียบข้อมูล ที่ผ่านมาผู้นำรัฐบาล และรัฐมนตรี ซึ่งเคยมีการเช่าเหมาลำเที่ยวบินพาณิชย์ ไปร่วมการประชุมในต่างประเทศ เช่น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยมีการเช่าเหมาลำเที่ยวบินพาณิชย์ ไปประชุมสุดยอดอาเซียน-สหพันธรัฐรัสเซีย สมัยพิเศษ ระหว่างวันที่ 17-21 พฤษภาคม 2559 เส้นทาง กรุงเทพ-นครเว็นปีเตอร์สเบิร์ก –เมืองโซชิ-กรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมเป็นเงินทั้งสิน 16,234,500.00 บาท
และในการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 นครมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม 2557 ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิน 16,000,000 บาท
ส่วนเพจ เพจดังอย่าง CSI LA มีผู้ติดตามกว่า 7 แสนคน เปิดเผยข้อมูล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ 81 คน เดินทางไปร่วมหารือเอกชนกำหนดยุทธศาสตร์ การค้า-ลงทุน 3 ประเทศในยุโรป สมาพันธรัฐสวิส สาธารณรัฐอิตาลี และมอนเตเนโกร ระหว่างวันที่ 8-15 กันยายน 2556 การเดินทางได้ใช้วิธีเดินทางด้วยการเช่าเครื่องการบินไทยแบบเหมาลำ มีค่าใช้จ่ายเส้นทาง กรุงเทพฯ-เจนีวา- ซูริค-โรม-มิลาน (พักเครื่องรอ) -กรุงเทพฯ : 18,900,000 บาท มิลาน-มอนเตเนโกร 2 ลำ ลำละ 1,450,000 บาท : 2,900,000 บาท รวมค่าเครื่องบิน 21,800,000 บาท
ส่วนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยขณะอยู่ในตำแหน่ง เคยไปประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปค ที่ฮาวายเช่นกัน เจ้าหน้าที่ ปลัดและข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ก็เดินทางโดยเครื่องบินโดยสารพาณิชย์ตามปกติ ใช้เงินไปไม่น่าจะถึง 2 ล้านบาท ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจของไทยขณะนั้นดีกว่าตอนนี้มาก
แตกต่างจากกรณี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม 5 วัน หมดไป 20 กว่าล้านบาท ซึ่งรู้สึกเสียดายเงินหลวง
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าสำหรับการเดินทางของ พล.อ.ประวิตร พาคณะไปทั้งหมดรวม 38 คน โดยบริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) คิดค่าเดินทางเฉลี่ยรายหัวคนละ 5 แสนบาทและเนื่องด้วย เป็นการเช่าเหมาลำเครื่องบิน 4 วัน รอรับ-ส่ง จึงทำให้การเดินทางครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายสูงเกือบ 21 ล้านบาท
.....
แค่รายชื่อ 38 คนยังไม่ยอมบอกแล้วเสือกบอกตรวจสอบได้
มิตรสหายท่านหนึ่ง
ooo
ประยุทธ์ กรุงเทพฯ-รัสเซีย 17–21พ.ค.— Wi Waa (@Waa_wi) October 3, 2016
👉🏼รวมเป็นเงิน16,234,500 บาท
👉🏼ค่าอาหารและเครื่องดื่มระหว่างบิน 1,770,000 บาทhttps://t.co/v5oPLpNDpK pic.twitter.com/wE4na6kC6V
ว่า#ฮาวาย ไม่ได้นะครัช เพราะทริป#รัสเซีย ของเก๊าก็ครือๆกัลลลล หวายยยยยยยย
มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง
