นี่ไง ตะลาการแบบตะหารห่าน อ่านโพสต์ของทนาย อานนท์ นำภา แล้วเห็นภาพความมีญานพินิจทางกระบวนยุติธรรมของศาลทหาร
“๑) เวลา ๑๕:๓๐ น. ศาลทหารกรุงเทพอ้าวว่าจะหมดเวลาทำการจึงไม่สามารถทำเรื่องประกันตัวเสื้อแดงทั้ง ๑๕ คนได้
2) เวลา ๒๐:๓๐ น. ศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๓ จังหวัดขอนแก่นเปิดทำการเพื่อรับฟ้องไผ่ ดาวดิน แล้วส่งเข้าเรือนจำทันที
อันไหนเร่งด่วนกว่ากันฯ”
คดีแรกทำมั่วนิ่ม จับสมาชิกพรรคการเมืองที่ต่อต้านทหาร กว่าครึ่งสูงวัย ช่วงที่ยังคลำหาเบาะแสไม่ได้ว่าใครหนาหยามหน้าวางระเบิดภาคใต้ไล่เรียงวันเดียว ๑๗ จุด
“ผู้ต้องหาทั้ง ๑๕ คน ถูกพาตัวจากกองปราบฯ มาถึงศาลทหารกรุงเทพในเวลาประมาณ ๑๕.๓๐ น. และศาลทหารกรุงเทพสั่งให้ฝากขังในเวลาประมาณ ๑๖.๓๕ น. แม้ว่าผู้ต้องหาจะแจ้งความประสงค์ขอยื่นประกันตัวตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม
แต่หลังศาลสั่งให้ฝากขัง เจ้าหน้าที่ศาลทหารไม่อนุญาตให้ยื่นประกันตัวเพราะหมดเวลาราชการแล้ว ผู้ต้องหาทั้ง ๑๕ คนจึงถูกส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำ”
คดีหลังทำเหี้ยมม้าหาย จงใจจับเด็กนักศึกษายัดคุกพักใหญ่ ถ้าทำได้เขาคงให้อยู่ยาวจนกว่าจะสิ้นสุดระยะเปลี่ยนผ่าน ๕ ปี ต่อด้วยระยะฝังหัวยุทธศาสตร์ชาติให้ประชาชนอีก ๒๐ ปี
“ไผ่ มาถึงศาลทหารที่ขอนแก่นในเวลาประมาณ ๑๙.๓๐ เลยเวลาราชการแล้ว และตุลาการยังเดินทางมาไม่ถึง ในเวลาประมาณ ๒๐.๓๐ อัยการทหารยื่นฟ้องทันที ศาลทหารสั่งรับฟ้องไว้พิจารณา
และสั่งให้คุมขังจำเลยไว้ในระหว่างการพิจารณาคดีด้วย โดยระหว่างการพิจารณา บุคคลภายนอกรวมทั้งพ่อและแม่ของไผ่ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปภายในค่ายที่ตั้งของศาลทหาร”
(https://www.facebook.com/daodincommoner/posts/1047333398653192)
ใครที่ติดตามเรื่องนี้ทราบกันแล้วว่า ไผ่หรือนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษาถูกจับในข้อหาขัดคำสั่ง คสช. ฉบับที่ ๓/๒๕๕๘ จากการไปรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ‘มีชัย’ ที่ชัยภูมิ
เขาปฏิเสธที่จะยื่นประกันเพื่อการปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อแสดงให้เห็นว่าการตั้งข้อหาเขาไม่ยุติธรรม จากนั้นก็ทำการอดอาหารประท้วงอยู่ในที่คุมขังเรือนจำชัยภูมิ ได้สิบกว่าวันจนล้มป่วย นางพริ้งผู้เป็นมารดาจึงยื่นประกันตามที่ทางการเร่งเร้า
“เสียใจตรงที่ว่าคะยั้นคะยอให้เราประกันลูกออกมา เพื่อที่จะได้ออกมาต่อสู้กันข้างนอก แต่อยู่ๆ เขาก็มาอายัติคดีใหม่ โดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งเนื้อตั้งตัว”
มารดาของไผ่ให้สัมภาษณ์กับภควดี วีระภาสพงษ์ หลังจากที่ไผ่ถูกนำตัวต่อไปยังขอนแก่นเพื่อฟ้องคดีใหม่ ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ฉบับที่ ๓/๒๕๕๘ เหมือนกัน แต่จากเหตุย้อนไปกว่าปี เมื่อเขาร่วมกับเพื่อนอีก ๖ คนทำกิจกรรมต้านรัฐประหารที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น
คราวนี้มีพิเศษอย่างยิ่งเมื่อศาลรีบมาทำงานล่วงเวลา เพื่อประทับรับฟ้องแล้วส่งผู้ต้องหาเข้ากรงขังต่อไปอีกระลอก หลังจากที่ไผ่แสดงเจตนาไม่ขอประกันตัว
คืบหน้าจาก อานนท์ นำภา เมื่อ 1 hr • ที่แล้ว
“เมื่อสักครู่ เจ้าหน้าที่ศาลทหารขอนแก่นโทรมาเลื่อนนัดจากเดิมมาเป็นวันที่ ๒๓ สิงหาคมเวลา ๑๓:๐๐ น.
โดยจะเบิกตัวไผ่ ดาวดิน มาไต่สวนที่ศาลทหารขอนแก่น ตามที่ทนายความได้ยื่นคำร้องให้ปล่อยตัว จำเลยตามกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๗๑ วรรคสามและมาตรา ๑๑๐ วรรคสอง”
จึงแน่นอนว่าไผ่ต้องนอนคุกต่อไปอีกอย่างน้อยสามวัน
ระหว่างนี้ผู้ที่ติดตามข่าวได้น้ำตาซึมจากการชมและฟังคลิปสัมภาษณ์นางพริ้ม บุญภัทรรักษา แม่ของไผ่ซึ่งก่อนหน้าพร้อมทั้งน้องสาวของไผ่ พยายามขอเข้าไปพบไผ่ในที่คุมขังค่ายศรีพัชรินทร์ มทบ.๒๓ ขอนแก่น แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม
เธอลงคุกเข่าบนลานดินหน้าค่ายกล่าวคำร้องขอวิงวอน จนทำให้มีเสียงหัวเราะออกมาจากเจ้าหน้าที่ภายใน
ซึ่งแม่ของไผ่เล่าในเวลาต่อมาว่าต้องการเข้าไปหาไผ่เพื่อให้เซ็นใบมอบฉันทะสำหรับการลงทะเบียนเรียนเพิ่มอีกวิชา เนื่องเพราะคะแนนสุดท้ายของเขาได้ ๑.๙๙ ไม่สามารถรับปริญญาได้ต้องลงทะเบียนเพิ่มวิชาให้ทำคะแนนเกิน ๒.๐
(https://www.facebook.com/payongsiri/videos/778810175593855/)
นางพริ้มให้เหตุผลว่าถ้าให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้นำเอกสารไป ไผ่จะไม่ยอมเซ็นอะไรกับทางการเด็ดขาด แม่ต้องไปอธิบายด้วยตนเอง
ท้ายที่สุดเมื่อแม่ลูกได้พบกัน มีเรื่องเล่าให้ตื้นตันจากปากของผู้เป็นมารดาตอนหนึ่งว่า
“ไผ่ก็ก้มกราบ แม่เลยบอกไม่ต้องกราบ ไผ่ไม่ได้ทำผิด ไผ่ไม่ต้องมาขิทาอะไรแม่ ไผ่ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไผ่ไม่ได้เป็นอาชญากร”
สำหรับการประกันตัวในช่วงต่อไป นางพริ้มบอกว่า “ต้องเคารพการตัดสินใจของไผ่...
เรานี่ประกันตัวยังไงก็ได้ แต่ว่าเราจะสู้กับความไม่ยุติธรรม”