ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวบีบีซี ในประเทศไทย เขียนรายงานเกี่ยวกับความพยายามของกองทัพไทยในการสมานรอยร้าวของความแตกแยกในประเทศ โดยเขาได้ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และเยี่ยมเยียนหมู่บ้านคนเสื้อแดงเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 6 เดือนและพบกับความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
นายเฮดระบุว่า หมู่บ้านคนเสื้อแดงแห่งจังหวัดอุดรธานี ไม่เป็นสีแดงอีกต่อไป โดยภายใต้คำสั่งจากกองทัพผู้มีอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศในขณะนี้ ธงแดงและป้ายประกาศต่างๆ หายไปหมดแล้ว ขณะที่ประตูและอาคารที่เป็นสีแดงก็ถูกทาสีทับทั้งหมด และมีน้อยคนที่จะสวมใส่เสื้อสีแดง
อย่างแรกที่กองทัพทำหลังยึดอำนาจ คือการเรียกตัวหรือจับกุมแกนนำคนสำคัญของกลุ่มนปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ก่อนจะปล่อยตัวหลังลงนามข้อตกลงว่าจะหยุดการเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งหมดและไม่ออกประกาศยั่วยุ อย่างที่สองที่กองทัพทำคือ เตรียมสั่งให้ยุติการเมืองแบบมีสี ซึ่งสร้างความแตกแยกในไทยมาตลอด 8 ปีที่ผ่านมา
นายเฮดระบุในรายการอีกว่า จากการสัมภาษณ์ผู้สนับสนุนกลุ่ม นปช.ในจังหวัดอุดรธานีหลายคน ต่างรู้สึกสับสนและเสียขวัญจากการยึดอำนาจของกองทัพ พวกเขาคาดหวังว่าแกนนำ นปช.จะเรียกชุมนุมใหญ่เพื่อต่อต้านการยึดอำนาจ แต่กลับไม่เกิดขึ้น ในทางกลับกัน นักเคลื่อนไหวท้องถิ่นบางคน เช่น ผู้ที่ดูแลสถานีวิทยุชุมชนคนเสื้อแดง กลับถูกเรียกตัวไปสอบถาม สถานีวิทยุถูกปิด, อุปกรณ์ถูกยึด และบ้านถูกตรวจค้น
ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกด้วยว่า ที่หมู่บ้านหนองหูลิง ซึ่งเป็นแห่งแรกที่ประกาศตัวเป็นหมู่บ้านเสื้อแดง มีบรรยากาศต่างจากที่เขาเคยมาเยือนเมื่อ 6 เดือนก่อนอย่างมาก โดยในขณะนั้นมีรูปของอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพี่ชายของเธอคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรมากมาย แต่ตอนนี้ถูกนำไปเก็บหมดแล้ว
จากการสัมภาษณ์หญิงคนหนึ่งในหมู่บ้านนี้ เธอระบุว่าเธอกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเธออยากจะแสดงความคิดเห็นออกมาแต่ทำไม่ได้ เธอเผยด้วยว่าได้เตรียมใบปลิวต่อต้านรัฐประหารสำหรับร่วมการประท้วงในอุดรธานีเอาไว้แล้ว แต่เมื่อทหารมาพวกเธอก็ได้แต่ล่าถอย ขณะที่ชาวนาคนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นผู้ระดมคนไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. เผยว่าหลังจากเกิดการยึดอำนาจ เขาก็ไม่ค่อยได้สื่อสารกับแกนนำคนเสื้อแดงอีก และยังไม่รู้ว่าเขาควรทำอย่างไร แต่ยืนยันว่าจะคอยจับตาดูว่ากองทัพจะบริหารประเทศดีหรือไม่
ดีเจวิทยุเสื้อแดงคนหนึ่ง กล่าวว่า เธอไม่พอใจกองทัพที่ปิดสถานีวิทยุที่เธอทำงานอยู่ ทำให้เธอต้องย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง และต้องคอยกังวลว่าตัวเธอเองจะถูกจับหรือไม่ เธอระบุด้วยว่า เหมือนกองทัพเลือกอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคนเสื้อแดง ซึ่งนายเฮดระบุว่า เป็นความเห็นที่เขาได้ยินบ่อยมากในอุดรธานี
ในตอนท้ายของรายงาน นายเฮด สรุปว่า มี 2 เรื่องที่ชัดเจนในพื้นที่เสื้อแดงในอุดรธานี หนึ่ง คือมีการลุกขึ้นมาต่อต้านกองทัพเพียงเล็กน้อย มีไม่กี่คนที่คิดวางแผนจะโต้กลับจริงๆ สองคือ คนเสื้อแดงยังไม่ยอมละทิ้งความเชื่อของพวกเขา และนั่นส่งผลให้เกิดความไม่พอใจต่อการยึดอำนาจของกองทัพอย่างกว้างขวาง