พ้นจาก สว.แล้ว ยังต้องมาเจอประธานสภาอีก กระบวนการ ‘จรเข้าขวางคลอง’ ไม่ให้ตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย

พ้นจาก สว.แล้ว ยังต้องมาเจอประธานสภาอีกคน พรรคเสียงข้างมากเขาพยายามจะไปต่อ แต่ ‘วันนอร์’ สั่งปิดประชุมเสียกลางคัน เมื่อ ‘โรม’ อภิปรายเร่งเร้าให้โหวตใหม่ประเด็น ม.๔๑ ข้อบังคับห้ามเสนอชื่อซ้ำ ลงมติ ‘พิธา’ เป็นนายกฯ

“เปิดประชุม 10.38 น. ปิดประชุม 11.30 น. ‘งง’ กันทั้งสภา ทุกคนตั้งใจมาทำงานแต่เช้า ยังไม่ทันได้ปิดสวิตซ์ สว.เลย ประธานรัฐสภาปิดสวิตซ์การประชุมเสียแล้ว” ส.ส.มด Wanvipa Maison ทวี้ต @MaisonWanvipa

รายงานจาก @iLawclub “หลังจากที่ประชุมรัฐสภาถกญัตติด่วนให้ลงมติทบทวน ให้สามารถเสนอชื่อนายกอีกครั้งได้ วันมูหะมัดนอร์ ประธานรัฐสภาชิงปิดประชุมทันที” ระหว่างที่ รังสิมันต์ โรม ส.ส.ก้าวไกลอภิปรายโต้แย้งประธานฯ

“ในการประชุม ประธานมีความเห็นไม่เห็นด้วยกับการให้ลงมติใหม่ ในขณะที่ก้าวไกลและเพื่อไทยเห็นควรให้ลงมติ” ทำเอาบรรดา ส.ส.ก้าวไกลพร้อมใจกันแสดงท่าล้อเลียน “หงายมือขึ้นสองข้าง เสมอไหล่ พร้อมสีหน้าสุดเซ็ง”

เพราะก่อนหน้านั้นนิดเดียว ต่างก็รอ ร้อ รอ เมื่อไหร่ที่ประชุมจะเต็ม เนื่องจากพวก สว.จำนวมมากกว่า ๒๐๐ คน พากันไม่มาประชุมเสียงั้น ทำให้สภาวันนอร์ได้ฉายาใหม่ ‘สภาโหลงโจ้ง’ ส่วนวุฒิสภา ‘ตู่ตั้ง’ ก็ควรจะได้ฉายาเช่นกันว่า ‘สว.โหลยโท่ย’

“งี่เง่า ไร้แก่นสาร” นั่นแหละคือความหมาย พวก สว.ที่ไม่มาประชุมเหล่านั้น ทำตัวเป็นจรเข้าขวางคลองกันต่อไป เพราะวันนี้เดิมทีจะเป็นการโหวตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย แต่ถูกวันนอร์เลื่อนออกไป บอกให้รอศาล รธ.นวย เสียก่อน

ศาลเลื่อนวินิจฉัยคำร้องว่ามติ ๑๙ กรกฎาขัดรัฐธรรมนูญไหม ออกไปสองอาทิตย์ ฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลก็เลยขอเลื่อนญัตติว่าด้วยการยกเลิก ม.๒๗๒ เพื่อปิดสวิทช์ สว.ขึ้นมาแทน ‘เกมล่มสภา’ ก็เลยมาจริงดังที่ระแวงระวังกันอยู่

ถึงจุดนี้เริ่มมีเสียงคำนึงกันแล้วว่า สันดานจรเข้มีหรือจะสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดี อย่างไรเสียย่อมตีรวนวันยันค่ำ “ตอนนี้ความคิดที่จะกลับมารวมเป็น 8 พรรคใช้ MOU เดิม ได้รับการพูดถึงกันแล้วในพรรคเพื่อไทย” Thanapol Eawsakul ว่า

เป็นเพราะ “ความโกรธแค้นของคนเคยรัก” เป็นเหตุใหญ่ มวลชนจำนวนไม่น้อย ไปบุกพรรคเพื่อไทย ทั้งสาดเลือดและเผาหุ่น...ยังไม่รวมทั้งตอนนี้พรรคเพื่อไทยกำลังถูกไล่บี้ทั้งจาก ๑๘๘ เสียงข้างน้อย และ ๒๕๐ สว.” ธนาพลย้ำ

(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/ViDNWLAg4al)