วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 16, 2559

ดราม่าชุ่ยๆ ชั่วๆ คสช.





ไม่มีที่ไหนในโลกใช้กำลัง ๑ พันคนตั้งล้อม เพื่อจับกุมพระสงฆ์อาพาธรูปหนึ่ง ในข้อหารับของโจร (ทั้งที่โจรก็เคยได้ตั้งโต๊ะแถลงแล้วว่า เงินบริจาคที่อ้างกันว่าเป็นเงินฝากทางวัดได้จ่ายคืนหมดแล้ว)

กำลังประกอบด้วยตำรวจปราบจลาจล เจ้าหน้าที่ปกครอง ทหาร และดีเอสไอ สนธิกันเหมือนดั่งปฏิบัติการรบยิ่งใหญ่ที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. บอกว่า “ใช้แผน ‘กรกฎ ๕๒’ ของตำรวจเป็นแผนใหญ่ในการเข้าตรวจค้น ส่วนแผน ‘กบิล ๕๙’ เป็นแผนรอง

(http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1466046056)





วันนี้ (๑๖ มิถุนายน) หน้าจอโปรแกรมสื่อสังคมเต็มไปด้วยการถ่ายทอด-รายงานสด เกาะติดสถานการณ์ดีเอสไอถือหมายศาลเข้าวัดธรรมกายเพื่อจับกุมพระธัมมชโยเจ้าอาวาส

ก็ได้พบกับศิษยานุศิษย์นับพันๆ ตั้งรับด้วยการนั่งสวดมนต์กลางสายฝนเป็นสัญลักษณ์สกัดกั้น

คมชัดลึกประเมินว่ามีมวลชนในวัดราว ๕,๕๐๐ ราย รวมทั้งสงฆ์ ๒ พันรูป บวกกับคณะสงฆ์จากศรีสะเกษประมาณ ๔๐๐ รูปเข้าร่วมเป็นขวัญกำลังใจ (จากทวิตเตอร์ Suda Rangkupan)

เลขาฯ สมช. อ้างฝ่ายรัฐยึดหลักไม่เร่งรัด ไม่รุนแรง เจ้าหน้าที่ดีเอสไอพยายามเจรจาให้มีการมอบตัว แม้ศิษย์ธรรมกายจะมีแถลงการณ์ออกมาระบุว่า พระธัมมชโยควรมอบตัวเมื่อบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์เสียก่อน





จนกระทั่งใกล้เที่ยงจึงได้พักการเจรจา เนื่องจากเป็นเวลาพระฉันเพล ต่อจากนี้ไปอย่างไรไม่รู้ รู้แต่ว่าดีเอสไอมีเวลาถึงหกโมงเย็นในการนำตัวพระธัมมชโยไปควบคุม ไม่เช่นนั้นจะหมดเวลาหมายสั่ง แล้วต้องทำการออกหมายใหม่

ดราม่าประเทศไทยไม่หมดเท่านั้น เมื่อวานที่หน้าสำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อันมีกำหนด ‘จ่านิว’ นัดพวกไม่เอารัฐธรรมนูญใหม่ไปเต้นเพลง ‘ตีเข่า-ตีตก’ กัน ปรากฏมี ‘มนุษย์ป้า’ กลุ่มหนึ่งไปดักรอต้าน ล้วนแต่งตัวดีแบบชาวกรุงชั้นกลาง แต่ด่าสะเด็ดแบบชาวบ้านชั้นต่ำ ทั้งสบถและหยาบคาย





ยกเว้นหญิงสูงวัยใส่เสื้อลายนางหนึ่ง ด่าเป็นไฟไม่มีชั้นใดทั้งสิ้น เสียงกระซิบออนไลน์บอกว่าคุณป้าคนนี้ศิษย์เอก ‘สมีฟรีดอม’





รวมความว่างานต้านคราวนี้จัดตั้งมาอย่างดี ดังที่ Thanapol Eawsakul ‘สรุปอีกที’ เอาไว้

“เหตุการณ์ที่กกต. ที่มีคนจะมากระทืบจ่านิว มิใช่เป็นผลมาจากการปลุกความเกลียดชัง แล้วชาวบ้านออกมาจากบ้านนั่งรถเมล์มาปฏิบัติการแบบปัจเจกบุคคล

แต่เป็นการจัดตั้งอย่างดี มีทั้งตัวเปิดที่เป็นผู้หญิง ทั้งในรูปแบบของชนชั้นกลางที่มีฐานะ (เสื้อผ้า หน้า ผม) แดงกลับใจ ชาวนาที่ได้รับผลกระทบ ใสฮิญาบเพื่อให้ดูมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์

ขณะที่กองสนับสนุนเป็นกลุ่มผู้ชายที่อยู่วงนอก มีทั้งคนใส่เสื้่อแดง ใส่เสื่้อดำ หมวกเชกูวารา รวมทั้งใส่วิกผมแบบฮิปปี้มาด้วย”

จัดฉากให้สวยอย่างฉาบฉวย เลยช่วยอะไรไม่ได้ ‘คนสวยใจดำ’ อย่างเพลงว่า หมักหมมอยู่ในใจจึงต้องระบายออกทางปาก

ดังเช่น สนช. นายหนึ่งพูดถึงกรณีกลุ่มแกนนำพรรคเพื่อไทยพร้อมใจกันโพสต์เฟชบุ๊ค ‘ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ’ เต็มพรึ่บ ๑๗ คน ตั้งแต่รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค อดีตประธานรัฐสภา อดีตรองประธานสภาผู้แทนฯ อดีตรัฐมนตรีว่าการ และอดีตรองนายกฯ

“ดูแล้วสุ่มเสี่ยงเข้าข่ายผิดมาตรา ๖๑ วรรคสอง ทั้งเรื่องการชี้นำ ปลุกระดมไม่ใช่การแสดงเจตนาแสดงความคิดเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะเป็นการกระทำพร้อมๆ กันภายในเวลาเดียวกัน”

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม จัดแจงแสดงความเห็นให้เป็นร้าย อ้างความผิดตามมาตรา ๖๑ วรรคสอง ของ พรบ.ประชามติ ให้เอาโทษจำคุก ๑-๑๐ ปี





“มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน จึงมองได้ว่าเป็นความร่วมมือกัน เข้าองค์ประกอบเป็นการกระทำของคณะบุคคลตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจูงใจให้คนออกไปใช้สิทธิออกเสียงทางใดทางหนึ่ง”

(http://www.thairath.co.th/content/639442)

นี่ก็นักการเมืองประเภทจ้องให้ร้ายฝ่ายตรงข้าม ยิ่งมียศทหารบกระดับพลเอกด้วย สมกับที่จาตุรนต์ ฉายแสง หนึ่ง ๑๗ เพื่อไทยไม่รับร่างฯ ตอกกลับว่า “ทั้ง กรธ. และ สนช. ที่ออกมาตีโพยตีพาย อ่าน กม.ประชามติกันบ้างหรือเปล่า”





กระทั่งนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ตัวเอ้ที่ชอบ (สวมนวม คสช.) แลกหมัดกับเด็ก ล่าสุดขู่จะฟ้องนักศึกษาคนหนึ่งฐานหมิ่นประมาท พยายามจะฟอกหน้าให้ดูดีเป็นนักประชาธิปไตย






เขาพูดถึงกรณีโพสต์ไม่รับร่างฯ ของแกนนำเพื่อไทยว่า “ส่วนตัวถือว่าไม่ผิด เพราะเป็นการแสดงออกส่วนบุคคลตามเสรีภาพ” แต่ส่วนรวม ถ้าทำในนามของพรรค ถึงจะไม่ผิด พรบ.ประชามติ ก็อาจผิดคำสั่ง คสช. ที่ห้ามนักการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง

(http://www.matichon.co.th/news/176055)

นายสมชัยย้ำว่าคำสั่ง คสช. เปรียบเหมือนกฎหมาย เลยทำให้นึกถึงตรรกะของ Atukkit Sawangsuk
ขึ้นมา เขาเขียนถึงการใช้ ม.๔๔ ซ่อมร่างรัฐธรรมนูญเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า

“ตลกทุเรศ...มีชัยไม่เขียนเรียนฟรี ๑๕ ปี ไม่เป็นไร ใช้ ม.๔๔ ซ่อมได้”

“ศักดิ์มันเท่ากันหรือครับ ร่างรัฐธรรมนูญลงประชามติที่จะเป็นกฎหมายสูงสุด กับคำสั่งรัฐประหาร ซึ่งโดยที่มาของอำนาจ มีศักดิ์ต่ำชั้นกว่าพระราชบัญญัติด้วยซ้ำ...

มันแสดงให้เห็นว่า กฎหมายไม่ได้มีค่ามีความหมายอะไรเลยในสายตารัฐประหาร สั่งเอาดีกว่า”

เลยกลับไปที่ตรรกะของธนาพลอีกที ดราม่า คสช. นี่ไม่ใช่โหวกเหวกไร้สติเฉยๆ แต่เป็นการพูดชุ่ยๆ ชั่วๆ แต่เอาจริง กัดจริง กินจริง