วันพุธ, มิถุนายน 15, 2559

เมื่อทัศนะทางเมืองอยู่เหนือจรรยาบรรณ: หมอ อาจารย์ นักบิน ตระกูลชินฯกลายเป็น”เหยื่อ”?





BY ASAJEREE ON JUNE 14, 2016
ISpace thailand


ไม่ใช่ครั้งแรกที่จรรยาบรรณวิชาชีพ ของอาชีพบริการ ถูกบดบังด้วยทัศนคติทางการเมือง แต่ครั้งล่าสุดนี้เป็นครั้งที่ร้ายแรงอย่างมาก ต่อความปลอดภัยในการบิน เมื่อมีการเผยแพร่ ข้อความการสนทนาของกลุ่มบุคคลหนึ่ง ที่ถูกระบุว่า “เป็นผู้ช่วยนักบิน” สายการบินแห่งหนึ่ง (ภายหลังทราบว่าเป็นสายการบินนกแอร์) ที่ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะเดินโดยสารเดินทางกลับจากจังหวัดแพร่





ข้อความดังกล่าว เป็นการสนทนาในกลุ่ม และผู้ช่วยนักบินคนดังกล่าวได้โพสต์รูป “นส.ยิ่งลักษณ์ และคณะระหว่างเดินขึ้นเครื่อง จากนั้น มีข้อความต่อว่า “มีเหยื่อ ออน บอร์ด” และต่อมีบุคคลเข้ามาแสดงความเห็นว่า “CFIT หน่อย” ซึ่งเป็นศัพท์ทางการบินหมายถึง control flight to terrain หรือการควบคุมเครื่องบินลงพื้น นั่นเอง ถือเป็นทัศนคติที่อันตรายอย่างมาก ถึงแม้ว่าในภายหลัง นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินดังกล่าวจะออกมาขอโทษก็ตาม

(http://www.dailynews.co.th/politics/502147) แต่มาตรการของทางนกแอร์นั้นเพียงแค่ พักงาน 1-2 สัปดาห์เท่านั้น โดย ร.ท.นรหัส พลอยใหญ่ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายการบินนกแอร์กล่าวถึงการสอบสวนนักบินผู้ช่วยของสายการบินนกแอร์ที่โพสต์ข้อความผ่านไลน์ในกลุ่มของนักบินที่จบการศึกษาด้านการบินในรุ่นเดียวกันว่า จากการสอบสวนพบว่านักบินผู้ช่วยคนนี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย เป็นการโพสต์ข้อความพูดคุยกันในกลุ่มเพื่อนนักบินด้วยความคึกคะนอง แต่มีการใช้คำไม่สุภาพคือคำว่าเหยื่อ ซึ่งปกติจะต้องใช้คำว่า VVIP ขณะนี้ได้สั่งพักการบิน 1-2 สัปดาห์ น่าเห็นใจว่านักบินผู้ช่วยคนนี้เป็นนักบินเพิ่งจบใหม่ ไม่ได้มีความคิดหรือไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ขณะนี้อยู่ในสภาพที่ตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (http://www.thairath.co.th/content/638268)

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2556 ก็มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้น เมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าตัวเองเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินหนึ่ง (ภายหลังทราบว่าเป็นสายการบินคาเธ่แปซิฟิก) ได้เขียนข้อความระบายอารมณ์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวทำนองว่า ได้พบกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง บุตรสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บนเครื่องที่กำลังจะมุ่งหน้าไปฮ่องกง ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากที่จะต้องบริการคนตระกูล “ชินวัตร” จนไม่อยากจะทำงานในไฟลท์นี้ และยังคิดที่จะหาอะไรไปสาดนางสาวแพทองธารด้วย





เหตุการณ์นี้กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมากบนโลกโซเชี่ยล เพราะนอกจากจะเป็นการแสดงทัศนคติอันตรายต่อผู้โดยสารบนเครื่องแล้ว ยังมีการโพสต์รูปเปิดเผยข้อมูลของผู้โดยสารอีกด้วย ซึ่งภายหลังจากข่าวดังกล่าวได้ออกไป ทางคาเธ่แปซิฟิกก็ได้ทำการปลดแอร์โฮสเตสคนดังกล่าวออกทันที (http://news.sanook.com/1157170/)

เมื่อปล่อยให้ทัศนคติทางการเมืองอยู่เหนือจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยเฉพาะอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการบริการ และเกี่ยวกับชีวิตคนจำนวนมาก มันจึงเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก ต่อบุคคลนั้นๆเองและต่อสถาบันที่บุคคลนั้นสังกัด ในหลายๆครั้ง การนำทัศนคติทางการเมืองนำหน้า

ในเวที กปปส. การแสดงทัศนคติแบบนี้มักเกิดขึ้นเสมอๆ และคนในตระกูลชินวัตร โดยเฉพาะนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร ก็มักจะตกเป็น “เหยื่อ” ในการถูกคุกคามเสมอๆ

เช่นเมื่อปี 2556 ผศ.ดร. จักษ์ พันธ์ชูเพชร อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ออกมาพูดบนเวทีปราศรัยของกลุ่ม กปปส. ซึ่งเนื้อหานั้น มีการใช้คำพูดที่มีความหมายสองแง่สองง่าม โดย ผศ.ดร.จักษ์ ได้พูดถึงการล่อนายกรัฐมนตรี ให้เอาผู้ชายหล่อ ๆ หน้าตาดี ๆ ไปล่อ แล้วคงได้ตัว และ ผศ.ดร.จักษ์ ยังบอกด้วยว่า ครั้งนี้ขอล่อเพื่อชาติ





“วันนี้เห็นบอกว่าท่าน ดร.เสรีกับพี่ปองไปบ้านนายกฯ ผมบอกตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ถ้าไปไล่นะ พี่ปองกับ อ.เสรี น่ะไปได้ แต่ถ้าไปล่อนะต้องผม ผมก็ส่งคนไปไล่มัน ก็ไม่อยู่บ้านสิ ถ้าส่งคนไปล่อ อย่างผมนี่มันถึงจะออกมานะครับ รอบหน้าจัดเฉพาะหนุ่ม ๆ หน้าตาดี ๆ ส่งไปล่อให้ดี ๆ แล้วเดี๋ยวได้ตัวครับ เชื่อสิครับ มั่นใจครับ แล้วมั่นใจว่าผมน่าจะติด 1 ใน 50 เข้าไปบ้างนะผมว่า ขอไปล่อเพื่อชาติหน่อยเถอะ จะได้รู้ว่าเอาอยู่หรือเอาไม่อยู่” (https://www.youtube.com/watch?v=tSS-GVeyDqc)

หรือ กรณีนายแพทย์ ประเสริฐ วศินานุกร นายแพทย์อาวุโสจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้ซึ่งขึ้นเวที กปปส.ในวันที่ 13 มกราคม 2557 ที่ปราศรัยโจมตีนางสาวยิ่งลักษณ์อย่างหยาบคาย แถมยังมีตราสัญลักษณ์กาชาดบนเวที ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก





“ผมเองที่เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ก็อยากจะแสดงความขอบคุณพี่น้องอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมาเรียกร้อง ให้ประเทศเราคืนจากตระกูลสามานย์นะครับ…ผมอยากจะขอเรียกร้องคุณยิ่งลักษณ์ มีสามประเด็นเท่านั้นเอง 

ในอันแรกสุด…คุณยิ่งลักษณ์อยากเป็นวีรสตรีใช่ไหมครับ…ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ทำได้โดยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนไทยทั้งประเทศอาจจะทำเหรียญยิ่งลักษณ์แก้ผ้าให้ก็ได้…

ประเด็นที่สอง ถ้ายิ่งลักษณ์มีน้องนะครับโปรดฟังให้ดี ผมจะส่งเกวียนมารับที่กรุงเทพฯไปคลอดที่หาดใหญ่ครับ แถมทำรีแพร์ชนิดที่สามีคนต่อไปต้องยกนิ้วให้ พูดแล้วคุณอัญชะลี ยังเสียวเลยนะครับ…

ประการที่สาม ยังไม่สายเกินไปที่คุณยิ่งลักษณ์จะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะยังไม่แก่เกินไปที่จะเป็นนางแบบปฏิทิน เพราะว่าประจำเดือนยังไม่หมดนะครับ… ประการที่สี่ ประการสุดท้าย หวังว่าภรรยาของผมกลับบ้านไปนอนแล้ว ถ้าไม่มีใครต้องการยิ่งลักษณ์จริงๆ ผมยินดีเป็นข้ารับใช้ ยินดีรับใช้ ซื้อและเปลี่ยนโกเตกซ์ให้ตลอดไป” (https://www. youtube.com/watch?v=eRV9tB56MME&spfreload=10)

การนำทัศนะคติทางการเมืองมาใช้โจมตีบุคคลอย่างหยาบคายเช่นนี้ ทำให้เราต้องตั้งคำถามต่อจรรยาบรรณในวิชาชีพนั้นๆและสถาบันนั้นๆที่ผู้พูดสังกัดอยู่ เพราะมันเป็นอันตรายอย่างมากต่อบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย เช่นในกรณีนี้คือ ผู้โดยสาร นักศึกษา และผู้ได้รับการบริการจากอาชีพเหล่านี้ พวกเขาคงไม่อยากตกเป็น “เหยื่อ” ของความคึกคะนองทางการเมืองแน่ๆ หวังว่านี่คงเป็นบทเรียนสุดท้าย

.....

เรื่องเกี่ยวข้อง...


อ่านข่าวเก่า เจอพอดีเลย ตอนชุมนุม กปปส. มีผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายฝึกอบรมการบินของนกแอร์ พกเครื่องกระสุนและระเบิดเข้าพื้นที่ชุมนุม

สายการบินนี้โหดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

Charan Ampornklinkeaw



http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000012252