วันศุกร์, พฤศจิกายน 13, 2558

วันนี้คดีราชภักดิ์เก็บไว้ก่อน คั่นเวลาหันมาใส่ใจเรื่องรัฐธรรมนูญสูตรใหม่ ตำรับอิสรเอลเหยาะน้ำปลาบีบมะนาว ได้นายกฯ คนไม่นอก แต่ก็ไม่มาจาก ส.ส. ตามที่ คสช. ปรารถนา





วันนี้คดีราชภักดิ์เก็บไว้ก่อน โฆษก ทบ. บอกให้รอกรรมการตรวจสอบหนึ่งอาทิตย์

“หากพบว่ามีกำลังพลกระทำการใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม กองทัพบกจะดำเนินการตามระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน” พ.อ.วินธัย สุวารี ชี้แจง

แต่เมื่อถามบิ๊กประวิตร นักปัดทุกอย่างที่ขวางหน้า ทั่นบอกว่า

“ขณะนี้ยังไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษใดๆ จึงถือว่ายังไม่มีปัญหา ทุกอย่างยังคงเรียบร้อยดี ส่วนเรื่องการติดตามเซียนพระที่แอบอ้างเรียกรับเงินคนดังกล่าว ต้องไปถามตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการ ขณะนี้ยังไม่ได้รายงานใดมาให้ผม”
(http://prachatai.org/journal/2015/11/62407)

ข้อสำคัญคนดำเนินโครงการราชภักดิ์ (พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช. กลาโหม) บอกแล้วว่าเรียบร้อย ชี้แจงได้หมด ก็ให้ตามนั้นดิ




ถึงจะมีข่าวเม้าทืลือ อุ๊ กรุงสยาม (วัชรพงศ์ ระดมสิทธิพิพัฒน์) นักปลุกเสกจตุคามรามเทพชั้นเซียน ซึ่งเคยบริจาคสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เรือนแสน หายต่อมไร้ร่องรอย กับเสธ.โต พล.ต.สุชาติ พรมใหม่ ไม่หาย-ใจ ก็เถอะ

(http://www.manager.co.th/asp-bin/PrintNews.aspx… กับhttp://www.ect.go.th/newweb/upload/…/download/466-5011-0.pdf ข้อมูลแนะนำจาก Narin Sanguansap และ No Coup)

ใครที่ยังเซ้าซี้ต้องฟังพี่ป้อมตอกใส่ แล้วจะเข้าใจ

“เอาเถอะ ต่อไปเวลารัฐธรรมนูญออก ฝ่ายการเมืองก็ดูแลกันให้ดี บ้านเมืองอย่าให้เดือดร้อนถึงทหารอีกละกัน...

พูดหยั่งงี้ได้ยังไง อ่า ผมทำอะไรเสียหาย”

แหม่ ตรงนี้ขอแทรกนิด คันปาก ทั่นก้อ ไอ้ไม่ทำอะไร (รวมทั้งประเภททำไม่เป็น) มันก็เสียหายเหมือนกันนะ

ตกลงก็เลยได้คั่นเวลา หันมาใส่ใจเรื่องรัฐธรรมนูญที่เห็นบอกว่าท้องแล้วอีกเก้าเดือนจะ break water กันหน่อย ปล่อยลุงมีชัยปล้ำผีลุกปลุกผีนั่งมาพักใหญ่ ยังไม่เห็นข้างหน้า ดูท่าปักหลักแค่คลองผดุงฯ ของบิ๊กตู่เท่านั้น

เมื่อวันก่อนฮือฮากันซะ คุณปู่ผู้ตั้งลูกหญิงไปช่วยงานเลขานุการ กรธ. คิดค้นสูตรใหม่ได้สำเร็จ นัยว่าเอาตำรับอิสรเอลมาเหยาะน้ำปลาบีบมะนาว ได้นายกฯ คนไม่นอก แต่ก็ไม่มาจาก ส.ส. ตามที่ คสช.ปรารถนา

(ส่วน นปช. ว่าอะไร ไม่สน)




ตรงสเป็คเด๊ะ แบบโกอินเตอร์ ซ้ำยังตรงตามมาตรา ๓๕ รัฐธรรมนูญชั่วคราว ตอบโจทย์นกหวีดปิดกรุงเทพฯ (ล้มเผด็จการรัฐสภา) ดั่งใจหมาย

สำคัญสูงสุดเหนืออื่นใด เขาปรับใช้ปรัชญาพอเพียงได้เรี่ยมแร้ คือ ‘ประหยัดกระดาษ’ บัตรเลือกตั้งแผ่นเดียวกาได้ไก่สามอย่าง

นี่แหละที่ว่าเป็นข้อดีวิเศษสุด ไม่เชื่อไปถามคำนูณ (สิทธิสมาน อดีตโฆษกกรรมาฯ ยกร่างฯ) ก็ได้




“กาบัตรเลือก ส.ส.เขตแบบเขตละคน ใบเดียวครั้งเดียวได้สามตำแหน่งเลย คือหนึ่ง ได้ ส.ส.ในเขตนั้นที่ได้คะแนนนิยมสูงสุด สอง ได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อจากคะแนนนิยมทุกคะแนน ที่ลงให้ผู้สมัครทุกคนจากทุกพรรคไปคิดคำนวณอีกที และสาม ได้นายกรัฐมนตรี”

(http://www.thairath.co.th/content/538931)

สูตรมีชัยให้กาทีเดียวได้นายกฯเลย เป็นอย่างไร ขออนุญาตอธิบายเองตามที่เข้าใจ จากได้ชมสมฤทัย เนชั่นแชเนิ่ล กับชูวิส ว้อยซ์ทีวี

(http://www.nationtv.tv/main/program/ER_News/378477896/ กับhttp://news.voicetv.co.th/thailand/284496.html)




นายกฯ เลียนแบบยิวนี่ได้มาโดยสมาชิกสภาเป็นผู้เลือก จากรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีที่พรรคการเมืองจัดเตรียมไว้ พรรคละ ๑ ถึง ๕ รายชื่อ

ทั้งนี้คนที่พรรคกำหนดให้ไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไม่จำเป็นต้องสมัคร ส.ส. ไม่ต้องแม้แต่จะเป็นสมาชิกพรรคนั้นเอง เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคเล็กพรรคน้อยปลาซิวปลาสร้อยเสนอชื่อ ‘คนดีๆ’ ของบ้านเมือง ซึ่งเชื่อกันว่ามีอยู่ไม่กี่คนหร็อกที่พอจะเป็นนายกฯ ได้ (ยกตัวอย่างบิ๊กตู่งี้ นี่แค่ยกตัวอย่าง รู้ละว่าทั่นไม่ต้องการ เห็นพูดสองสามหนแล้ว)

แล้วก็โปรดอย่าเข้าใจผิดนะ นี่ไม่ใช่เลือกนายกฯ โดยตรง เพราะผู้ออกเสียงไม่ได้กาชื่อนายกฯ แต่กาพรรคที่เสนอชื่อนายกฯ

ทั้งนี้คนที่เลือกต่างพรรคก็สามารถได้นายกฯ ในดวงใจคนเดียวกันได้

ยกตัวอย่างอีกที ตี๊ต่างว่าพรรคปฏิรูปก่อนเลือกตั้งกับพรรคกำจัดประชาธิปไตยปฏิกูลกำหนดชื่อทั่น ‘ปยศ’ ของพรรคฟ้าสีทองไว้ให้เป็นนายกฯ เหมือนกัน เพราะทั่นปยศนี่บารมีแก่กล้ามากเป็นที่แซ่ซร้องว่าไม่มีใครดีกว่านี้อีกแล้ว จนพรรคขนาดยักษ์อย่างฟ้าสีทองต้องเชิญมาเป็นหัวหน้า

แต่บังเอิ๊นบังเอิญสมาชิกพรรคทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมาต่อกันและกัน เนื่องจากพวกหนึ่งชอบคนพี่แต่อีกพวกอยากได้น้อง พอสภาเลือกทั่นปยศให้เป็นนายกฯ ทั้งสามพรรคได้เฮเสมอภาคถ้วนหน้า

นี่ละประชาธิปไตยไทยๆ แบบฤชุพันธุ์ชั้นใน