วันอาทิตย์, เมษายน 05, 2558

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล : ที่ชื่อของ ฯพณฯ ประยุทธ ฉาวโฉ่ในต่างประเทศน่ะ มีสาเหตุง่ายๆครับ



ที่มา FB Somsak Jeamteerasakul

จริงๆขี้เกียจเขียนถึงความโง่รายวันของประยุทธนะ

แต่บังเอิญ สะดุดใจนิดหน่อย ตรงที่ประยุทธโทษว่า ภาพลักษณ์ในต่างประเทศของรัฐบาลพวกเขาเสีย เพราะมีการล็อบบี้ในต่างประเทศ ที่สะดุดใจก็เพราะว่า ไม่กี่วันที่แล้วนี้เอง สำนักข่าวอิศราก็มีรายงานทำนองเดียวกันนี้ คือสำนักข่าวอิศรา (หรือคนเขียนรายงานนั้น) ก็พูดทำนองว่า ประยุทธ "แพ้หมดรูป" ในต่างประเทศ แล้วก็อ้างว่าเป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล คสช ทำการล็อบบี้ จ้างล็อบบี้อิสต์ แล้วสำนักข่าวอิศราก็มีการไปสัมภาษณ์ ดูเหมือนจะปลัด กท. หรือ รมช กต อะไรนี่แหละ (ขออภัย ขี้เกียจไปค้นรายละเอียดอีกที ไม่ได้เก็บลิงค์ไว้ ใครขยันลองไปหาดู) ถามประมาณว่า ทำไม คสช ไม่จ้างล็อบบี้อิสต์บ้าง ฯลฯ (ทำไมสำนักข่าวอิศราจึงเขียนออกมาเหมือนกับประยุทธ แต่ออกมาก่อนด้วย ในเวลาไล่เลี่ยกันเช่นนี้ ผมก็อธิบายไม่ได้)

คือจะบอกว่า เรื่องนี้ "มโน" ล้วนๆครับ ยืนยันได้ - ไม่มีอะไรที่เรียกว่าการ "ล็อบบี้" ในต่างประเทศอย่างที่ว่าหรอก อย่างมากที่สุด จะมีก็ประเภทมีคนไทยเจอ จนท ของรัฐในต่างประเทศบ้าง นานๆครั้ง ซึ่งก็เป็นอะไรที่ธรรมดานะ เหมือนหน่วยงานทุกประเทศแหละ ถ้าเขาอยากรู้เรื่องประเทศไหน เขาพอรู้ว่ามีคนประเทศนั้นที่พอเจอตัวได้บ้าง เขาก็ชวนคุย สอบถามข้อมูล แค่นั้น เกือบปีแล้ว ถ้ารวมๆกันหมดในที่ต่างๆ ก็นับได้นิดเดียว แล้วก็ระดับที่เจอก็ระดับล่างๆมาก อะไรแบบนั้น ซึ่งก็ไม่ได้มีมากมายอะไร

ที่ชื่อของ ฯพณฯ ประยุทธ ฉาวโฉ่ในต่างประเทศน่ะ มีสาเหตุง่ายๆเลยครับ

ความโง่ของ ฯพณฯ เองนั่นแหละ ที่พูดอะไรโง่ๆ ทำอะไรโง่ๆ เลวๆ (กดขี่ ปราบปราม) เป็นรายวัน

เอาตัวอย่างง่ายๆเลยที่ ฯพณฯ ยกมาเอง เรื่องที่ขู่จะประหารนักข่าวน่ะ

เรื่องแบบนี้ ไม่ต้องให้ใครไปล็อบบี้ต่างประเทศหรอกครับ แค่นักข่าวต่างประเทศในไทย เขาก็เห็น และเขาก็รายงานไป ทูตต่างประเทศในไทย เขาก็รายงานไปตามข่าวที่ออกมา

แล้วเรื่องใหญ่ที่ คสช เป็นโจรปล้นอำนาจมาอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปราบปรามจับกุมคนรายวัน (โดยเฉพาะ ๑๑๒) หรือล่าสุด ออกคำสั่งตาม ม.๔๔ - เรื่องพวกนี้ มันชัดเจนโจ่งแจ้ง ไม่ต้องคิดอะไรเลย คือใครๆในต่างประเทศเขาก็รู้ทั้งนั้นว่ามันผิด ไม่ต้องรอให้คุยกับคนไทยที่ไหนเลยด้วยซ้ำ

คนโง่นี่ ยังไงมันก็โง่จริงๆว่ะ พับผ่าสิ

...............

แม้แต่เรื่องคุณอัมสเตอร์ดัมนะ (ซึ่งในรายงานอิศรา พูดเป็นนัยพาดพิงถึง) เท่าที่ผมรู้มาแน่ๆเลย ทักษิณก็เลิกจ้างอัมสเตอร์ดัมไปหลัง รปห ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ "เกียร์ว่าง" ของเขา คุณอัมสเตอร์ดัม ดูเหมือนจะยังคอยเขียน หรือพูด เปิดโปง คสช อยู่ แต่ก็นานๆครั้ง ซึ่งเป็นอะไรที่เขาทำแบบ "โพร โบโน" (ศัพท์ในวงการกฎหมาย คือไม่ได้รับจ้าง ไม่ได้คิดเงิน) และไม่ได้มีการทำล็อบบี้อะไรทั้งนั้น

...............

อันนี้พูดก็พูดนะ ผมไม่เกี่ยวอะไรเลยกับ "เสรีไทย" แต่ถ้าโดยความเห็นส่วนตัวนะ ผมก็ว่า เขาทำ "ล็อบบี้" น้อยไปด้วยซ้ำ คือเรียกได้ว่าไม่มีเลยก็ได้ โดยเฉพาะในประเทศฝรั่งที่ใหญ่มากๆที่ไปอยู่กันหลายคนน่ะ ความจริง ถ้าเขาจะทำ ทั้งล็อบบี้และยิ่งกว่าล็อบบี้ (เช่นเคลื่อนไหวรณรงค์อะไรต่างๆ เป็นต้นในต่างประเทศ) ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องด้วยซ้ำนะ แต่เท่าที่ผมรู้มา ก็ไม่ได้มีการทำอะไร

สรุปแล้ว ภาพลักษณ์ฉาวโฉ่ในต่างประเทศของ คสช น่ะ เป็นผลมาจากความโง่ความเลวของประยุทธและ คสช ทำเองล้วนๆ

ooo

“พล.อ.ประยุทธ์” ปูดมีบางสื่อล็อบบี้กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ทำให้ต่างประเทศได้ข้อมูลคลาดเคลื่อน พบสื่อนอกบางแห่งพาดหัวล้อ ม.44 ถึงขั้น “ประหารชีวิตสื่อ” ยันหากถูกปรามาสเตรียมแฉเบื้องหลัง ซัดอย่าอ้างประชาธิปไตย เพราะให้อยู่แล้ว


ที่มา สำนักข่าวอิศรา
วันศุกร์ ที่ 03 เมษายน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างเป็นประธานงานสถาปนาโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ครบ 106 ปี ว่า ต่างประเทศได้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะข้อมูลจากสื่อที่วันนี้มีการล็อบบี้ให้เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล และพบว่ามีการพาดหัวสื่อของสำนักข่าวต่างประเทศบางแห่ง ระบุเรื่องการให้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ว่าถึงขั้นประหารชีวิตสื่อ ซึ่งหากตนยังถูกปรามาสอีก จะออกมาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด เพราะแต่ละคนต่างก็มีแผลทั้งสิ้น และมีเบื้องหลังอีกด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าไม่ได้คัดค้านสิทธิมนุษยชน สื่อสามารถทำหน้าที่ตรวจสอบได้ แต่ต้องพิจารณาก่อน จะตัดสินใครถูกใครผิด ที่สำคัญต้องคำนึงถึงประเทศชาติด้วย ทั้งนี้ยังไม่มีการปิดสื่อใด ๆ แต่หากจำเป็นก็จะทำ และไม่ต้องกลัวใคร เพราะถ้ากลัวจะไม่มายืนอยู่จุดนี้ จากนี้ไปจะให้สัมภาษณ์น้อยที่สุด และขอให้สื่อนำเสนอข้อมูลให้ถูกต้องด้วย ทั้งนี้ที่หลายฝ่ายหวั่นเกรงในเรื่องการมีอำนาจของทหาร ไม่ต้องกลัว เพราะทหารไม่สามารถทำอะไรนอกกรอบได้ อีกทั้งเมื่อมีอำนาจยิ่งต้องระมัดระวัง

“ยืนยันว่าบังคับคนเหล่านี้ไม่ได้ แต่ทนไม่ได้ที่จะมีคนออกมาทำลายประเทศ ซึ่งการเข้ามาจัดระเบียบแล้ว อาจมีบางคนไม่ชอบ และอย่ามาอ้างประชาธิปไตย เพราะให้อยู่แล้ว และไม่เห็นว่าจะทำให้เดือดร้อน รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนทุกคน ไม่เลือกว่าเป็นพรรคการเมืองใด แต่ทั้งหมดจะต้องเริ่มต้นปฏิรูปและขอให้มีรัฐบาลใหม่มาสานต่อ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

อ่านประกอบ : “ดอน ปรมัตถ์วินัย” ไขปริศนาเหตุไฉน“บิ๊กตู่” ไม่จ้าง“ล็อบบี้ยิสต์”เดินเกมเวทีโลก

ooo

“ดอน ปรมัตถ์วินัย” ไขปริศนาเหตุไฉน“บิ๊กตู่” ไมจ้าง“ล็อบบี้ยิสต์”เดินเกมเวทีโลก



“...รัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการจ้างล็อบบี้ยิสต์ เพราะมองว่าเราสามารถชี้แจงเองได้ เรามีเจตนาดีอยู่แล้ว ไม่ต้องอาศัยล็อบบี้ยิสต์ เราต้องพยายามใช้กลไกของรัฐ ไม่ได้คิดจะเอามือโปร ไม่คิดเอาล็อบบี้ยิสต์ชนกับล็อบบี้ยิสต์ เลยไม่มีการจ้าง อาศัยใช้เครือข่ายของเราเองไว้คอยตอบโต้ หาทางนำข้อคิดเห็นของเรานำไปสู่วงเล็กของฝ่ายต่างๆ...”

สำนักข่าวอิศรา
14 มีนาคม 2558

หลัง “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” (คสช.) เข้ายึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เกมการเมืองภายในประเทศ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ควบคุมสถานการณ์ได้เบ็ดเสร็จ

แต่ตรงกันข้ามกับเกมการเมือง “ภายนอกประเทศ” กลับโดนขั้วตรงข้ามรุกโจมตีเข้าใส่เกือบทุกทิศทุกทาง

ท่าทีของ “สหรัฐอเมริกา” ท่าทีของ “สหภาพยุโรป” ที่ออกมายืนยันชัดเจนว่าต้องการให้ “รัฐบาล บิ๊กตู่” ลดเลิกการบังคับใช้ “กฎอัยการศึก”

บ่งบอกได้ชัดเจนว่า “ขั้วตรงข้าม” เคลื่อนไหว “ฟ้องโลก” ให้มา “ล้อมไทย” สำเร็จพอตัว

จนล่าสุด “บิ๊กตู่” ต้องส่งสัญญาณไปยัง “สหรัฐอเมริกา” ว่า “จะตัดเสื้อตัวเดียวให้คนทั้งโลกใส่ไม่ได้”

แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่าง “รัฐบาลไทย” กับ “รัฐบาลสหรัฐอเมริกา” สั่นคลอนลงมาก

ทั้งนี้การเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่น โดยเพื่อเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติระดับโลกว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 13-14 มีนาคม นี้

“บิ๊กตู่” มีกำหนดการหารือทวิภาคีกับ “บัน คีมูน” เลขาธิการสหประชาติ เป็นเวลา 20 นาที ก่อนเดินทางกลับ

ต้องจับตาว่าการชี้แจงของ “บิ๊กตู่” จะทำให้หัวเรือใหญ่ยูเอ็นเข้าใจสภาพการเมืองของประเทศไทยได้มากน้อยเพียง และจะนำคำชี้แจงไปอธิบายกับ “ประเทศในเครือข่าย” ให้ได้เข้าใด้แค่ไหน

เพราะอย่าลืมว่าการเดินเกมระหว่างประเทศของ “ขั้วตรงข้าม” ยังคงใช้วิธีการเดิมคือจ้าง “ล็อบบี้ยิสต์” ป้อนข้อมูลด้านลบให้กับ “รัฐบาลบิ๊กตู่” เพื่อส่งต่อให้ “องค์กรระหว่างประเทศ” แสดงจุดยืน

จากข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศ บรรดา “ล็อบบี้ยิสต์” ที่ “ขั้วตรงข้าม” ใช้ “ล็อบบี้ยิสต์” ในทุกระดับ เพราะมีปัจจัยสนับสนุนเยอะ อาทิ คอลัมนิสต์ สื่อมวลชน นักวิชาการ และนักการทูต เป็นต้น

โดยมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้คำแนะนำพร้อมทำหนังสือถึงมือ “พล.อ.ประยุทธ์” เพื่อร้องขอให้จ้าง “ล็อบบี้ยิสต์” ให้ช่วยเดินเกมระหว่างประเทศ

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org มีโอกาสพูดคุยกับ “ดอน” เพื่อสอบถามความจำเป็นในการจ้าง “ล็อบบี้ยิสต์” และเหตุผลที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ตัดสินใจไม่ใช้ “ล็อบบี้ยิสต์” ในการชี้แจงกับต่างประเทศ

“ดอน” เปิดฉากเล่าว่า “มันไม่ง่ายที่จะจ้างล็อบบี้ยิสต์ แม้จะเป็นเรื่องปกติที่คนเขาทำกันในสหรัฐอเมริกาและยุโรป เพราะมันเป็นอาชีพของคนกลุ่มใหญ่ แต่ประเทศไทยเราไม่เคยคุ้น ของเรามันออกมาอีกความหมายหนึ่ง”

“รัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการจ้างล็อบบี้ยิสต์ เพราะมองว่าเราสามารถชี้แจงเองได้ เรามีเจตนาดีอยู่แล้ว ไม่ต้องอาศัยล็อบบี้ยิสต์ เราต้องพยายามใช้กลไกของรัฐ ไม่ได้คิดจะเอามือโปร ไม่คิดเอาล็อบบี้ยิสต์ชนกับล็อบบี้ยิสต์ เลยไม่มีการจ้าง อาศัยใช้เครือข่ายของเราเองไว้คอยตอบโต้ หาทางนำข้อคิดเห็นของเรานำไปสู่วงเล็กของฝ่ายต่างๆ”

ทว่าการใช้กลไกของรัฐจะสู้กับเครือข่ายของ “ล็อบบี้ยิสต์” ได้หรือไม่ “ดอน” ยอมรับว่า “สู้ลำบากเหมือนกัน เพราะอีกฝ่ายหนึ่งเขาเข้าไปคุมด้านในโดยอาศัยล็อบบี้ยิสต์สอดแทรกเข้าไป แต่เราพยายามหาเกมใหม่ในการต่อสู้”

“เราจะอาศัยเครือข่ายที่กว้างขึ้น เพราะหลายเรื่องราวภาครัฐกับภาคเอกชนอยู่ในเรือลำเดียวกัน จึงต้องช่วยกันพาย ช่วยกันชี้แจง ต้องช่วยกันเป็นปากเสียง”

เมื่อถามว่า การเลือกใช้ยุทธศาสตร์นิ่งจะส่งผลดีหรือผลเสียกับรัฐบาล “ดอน” กล่าวว่า “นิ่งเสียเลยมันก็ไม่ดี มันผิดหลักการ มันต้องมีเสียงที่บอกแทนเราว่าทำอะไรอยู่ ซึ่งเราจะนำผลปฏิบัติจริงไปนำเสนอ แต่มันไม่ทันใจสักเท่าไร ไอ้ทีไม่ทันใจของผมไม่จำเป็นต้องจ้าง”

“เรามีคนที่เรียกว่าธุระไม่ใช่ แล้วเป็นคนเก่งด้วย แต่พอธุระไม่ใช่เขาก็ไม่คิดจะช่วยออกเสียง หรือเขียน หรือพูด เขาเลือกที่จะเก็บสิ่งที่เขาเข้าใจเอาไว้ เราต้องดึงพวกธุระไม่ใช่ เปลี่ยนให้เขามีความรู้สึกร่วมให้มากขึ้น”

เมื่อถามว่า เกมของขั้วตรงข้ามชนะมาโดยตลอด เขาจะมีเกมใหม่ๆมาทำให้รัฐบาลต้องสั่นคลอนอีกหรือไม่ “ดอน” กล่าวว่า “เขาไม่หยุด เขาก็มาเป็นช่วงๆ เขาล้อมอยู่ตลอดเวลา เวลาลงข่าวในสื่อก็มีการกดดันไทยตลอด ที่ผ่านมาเราพยายามไม่ตอบโต้โดยตรง แต่บางครั้งเราต้องให้ข้อเท็จจริง ไม่อย่างนั้นมันจะเข้าหลักการนิ่งคือการยอมรับ หลักนี้เรารู้ว่าเป็นหลักที่อันตราย”

“แต่เมื่อไรก็ตามที่มีต่างประเทศมาขอพบเรา เราก็ยินดี จะได้อธิบายว่าเรามีสถานการณ์ที่แตกต่างจากที่อื่นมากมาย เราต้องการสร้างรูปแบบที่ดีขึ้นมากกว่าในอดีต แต่ก็ต้องมาพร้อมผลงาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องชี้ให้เห็นว่าเราทำได้ตามมาตรการที่เราวางไว้”

ทั้งหมดคือเบื้องหลังเกมระหว่างประเทศที่ “รัฐบาลบิ๊กตู่” พ่ายแพ้ในหลายกระดาน จากนี้ไปต้องระวังกลเกมที่ “ล็อบบี้ยิสต์” เตียมเซ็ตฉากให้ “ขั้วตรงข้าม” ได้ขย่ม “รัฐบาลบิ๊กตู่” ชนิดอย่ากระพริบตา