การอภิปรายเปิดโปงเครือข่าย ‘ทุนจีนเทา’ ในไทย และความสัมพันธ์กับนักฟอกเงินข้ามแดนเพื่อนบ้าน โดยสอง สส.พรรคประชาชน แน่นอนว่าย่อมไปขูดตาปลาของผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ทั้งในรัฐบาลที่แล้วและรัฐบาลนี้อย่างจะแจ้ง
ข้อสังเกตุของ Thanapol Eawsakul ที่ยกเอาคำปรารภของ บรรยง พงษ์พาณิชย์ ตั้งแต่กลางกรกฎา ๖๖ มาทำซ้ำ “พวกมึงเล่นจะลดกองทัพ...ลดอำนาจ ลดทุนผูกขาด ลดทุกอย่างของอภิสิทธิ์ชน เพิ่มแค่อย่างเดียว คือ ภาษีคนรวย…ใครเขาจะยอมมึง”
ชวนให้ห่วงใยอนาคตทางการเมืองของทั้ง วิโรจน์ ลักขณาอดิสร และ รังสิมันต์ โรม หาก “ต้องยุติเส้นทางการเมืองไปตลอดชีวิต (ด้วยการ “ตัดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต เหมือนดังเช่นกรณี ช่อ พรรณิการ์ โดนมาแล้ว”)...ใครล่ะจะยิ้มร่า
เนื่องเพราะ คดี ๔๔ สส.พรรคก้าวไกล ลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ แม้จะยุบพรรคก้าวไกลไปแล้ว คดียังไม่สิ้นสุด เมื่อมีการร้องต่อ ปปช.ให้ชงเรื่องไปยังศาลฎีกา พิจารณาตัดสิทธิ์ ๔๔ สส.ตลอดชีวิตเอาไว้
เมื่อไรศาลประทับรับฟ้อง ศาลมักจะสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา ซึ่งขณะนี้ศาลฯ อยู่ในระหว่างแสวงหาข้อเท็จในรูปคดี ว่ามีการฝ่าฝืน ‘มาตรฐานจริยธรรม’ อย่างร้ายแรงหรือไม่ ศาลใช้ระบบไต่สวนเรียกหาหลักฐานเองได้
จึงน่าจะย้อนไปดูว่าคำอภิปรายของวิโรจน์และรังสิมันต์ ทำให้แสบร้อน ‘ตาปลา’ ขนาดไหน คำอภิปรายของวิโรจน์ปรากฏในบทความที่นี่ก่อนหน้า ส่วนของรังสิมันต์กล่าวถึงผู้มีชื่อว่า เบ็น สมิธ หรือ เบนจามิน มาวเออร์เบอร์เกอร์ นักฟอกเงินจากอาฟริกาใต้
เบ็นเป็นที่ปรึกษาของ ‘ฮุนเซน’ ประธานวุฒิสภาเขมรและบิดาของนายกกัมพูชา ฮุน มาเนต อดีตนายกฯ ไทย ทักษิณ ชินวัตร เคยคบหาเป็นที่ปรึกษา พบกันหลายครั้งที่กรุงเทพฯ และเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งมี รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ร่วมด้วย
เบ็น สมิธ ยังเคยทำบุญร่วมกับธรรมนัสที่วัดดงช้างดี อุตรดิตถ์ มีอีกงานก่อนหน้าที่วัดดวงแข กทม. “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปรากฏตัวอยู่ด้วย” อีกทั้งเบ็น สมิธ พยายามเปลี่ยนสัญชาติเป็นไทย ชื่อไทย แต่อนุทิน ชาญวีรกูลไม่ได้เซ็นอนุมัติ
รังสิมันต์ยังมีข้อเสนอถึงนายกฯ อนุทินเรื่องการยกเลิกเอ็มโอยู ๔๔ ที่ว่าจะบรรจุไว้ในการทำประชามติ เป็นคำถามใบที่สี่ “การยกเลิก MOU ถ้าจะทำ ก็ต้องแน่ใจว่าเราได้อะไรกลับคืน และต้องดูว่าสุดท้ายแนวทางใดคุ้มกว่ากัน” รังสิมันต์ท้วง
“บางทีการปรับปรุง MOU ทั้งสองฉบับ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ของชาติสูงสุด อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งก็ได้” รังสิมันต์เตือนความจำนายกฯ “ว่าผลกระทบของการมีผลประโยชน์ทับซ้อน และการขาดเจตจำนงทางการเมืองในงานความมั่นคง ส่งผลต่อชาติอย่างไร”
(https://www.facebook.com/thestandardth/posts/VLhu3UtgFiWn และ https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/uZNBExeq723c)