วันศุกร์, กันยายน 12, 2568

ทำไมการประท้วงแบบรุนแรง #Nepal โมเดล ยากมากที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย? (ตุ๊ดส์review นิยามรัฐไทย รวม Deep State เข้าไปด้วย)


ตุ๊ดส์review
16 hours ago
·
ประเด็นจากข่าวใน #เนปาล #NepalGenZProtest

จากมุมมองที่ว่า ทำไมการประท้วงรุนแรงแบบ #Nepal จึงยากมากที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย?

อันนี้เป็นบทวิเคราะห์ของผมเอง ที่รวบรวมประเด็นมา และมองข่าวนี้อย่างทำความเข้าใจ เทียบกับสถานการณ์ในประเทศไทยของเรา ณ ปัจจุบันครับ สาเหตุที่เขียนมาจากการที่เห็นคน comment ว่า "นักการเมืองไทยจงระวังตัวไว้ให้ดี" ก็เลยมีความเห็นส่วนตัว คิดว่า...จริงๆ มันยากที่จะเกิดขึ้นในไทยครับ

1) ก่อนอื่น อยากให้คนอ่านเข้าใจก่อนว่า กลุ่มแรกเริ่มที่ประท้วงเป็นแกนนำหลักที่เป็นวัยรุ่น Gen Z ไม่ใช่เพราะแค่รัฐปิดกั้นการใช้ Social Media นะครับ เพียงแต่กลุ่ม Gen Z รับไม่ได้กับการทุจริต Corruption มากกว่า ส่วนเรื่องปิดกั้น social media แค่ตัวเติมไฟให้จุดติดง่ายขึ้น ฉะนั้นไม่ใช่เพราะเด็กๆ Gen Z ในเนปาลเสพติดโซเชียล จนลุกมาประท้วง อันนั้นเป็นความเข้าใจผิดนะครับ

2) ขนาดว่า Social Media กลับมาใช้ได้ พวกเขาก็ยังไม่ยุติความรุนแรง ดังนั้น ปัญหาจริงๆคือ "ความเหลือมล้ำทางฐานะเศรษฐกิจของคนในประเทศ ที่เต็มไปด้วยลูกหลานนักการเมือง Nepo Kids โชว์ชีวิตหรูหรา แต่ประชาชนยังลำบากยากจน เพราะพวกนักการเมืองโกงกินประเทศ" มันทำให้คนโกรธแค้น และโมโหครับ (จริงๆคนที่ร่วมประท้วงมี Gen อื่นนะครับ แต่คนที่ลุกฮือเป็นกลุ่มแกนนำแรกคือ Gen Z ครับ)

3) ผมคิดว่าการจราจลประท้วงรุนแรงแบบนี้เป็นไปได้ยากในไทย เพราะหลายเหตุผลมาก เริ่มจากอย่างแรก วิธีคิดของการโกงแบบรัฐบาลไทย พวกเขาไม่ได้ทำให้เราตายในทันทีครับ มันเป็นการค่อยๆบีบที่ไม่ถึงกับอดตาย และไม่ได้คลายให้เราสุขล้น มันจะหล่อเลี้ยงความรู้สึกคนไทยให้เราอดทนไปได้เรื่อยๆ เดี๋ยวก็มีแจกเงินนะ เดี๋ยวก็มีบริจาค จะมีนโยบายนั้นนโยบายนี้ ออกมาให้เราซาบซึ้งบุญคุณ (จากภาษีเราเอง) เป็นระยะๆ

หรือตัวอย่างการคลายๆบีบๆแบบปลอมๆ เช่น ทำเหมือนมี 'การเลือกตั้ง' หลอกให้คิดว่าเคารพเสียงประชาชน แต่จริงๆสุดท้าย ก็บีบให้เป็นไปตามทางที่ผู้มีอำนาจต้องการ ไม่ได้คลาย แต่ค่อยๆนวดบีบให้เราจนมุม อยู่ในจุดที่พวกเขาบังคับได้ โดยที่เราไม่รู้สึกสาหัส แต่จริงๆมันกระทบเราตลอดเวลา

4) ผมมองว่าคนไทยไม่ค่อยรวมใจสู้แบบตู้มเดียว คล้ายๆ 'พม่า' ที่เขาสามัคคี รวมใจเป็นหนึ่งเดียวได้จริงๆ ในการสู้กับทหารเลวที่ปกครองบ้านเมืองแบบเอารัดเอาเปรียบประชาชน ของบ้านเรา คนไทยยังค่อนข้างแตกเป็นก๊กเป็นเหล่า มีหลายสีหลายกลุ่ม ที่รวมกันไม่ได้สนิทใจ จึงยากที่จะต่อสู่ร่วมกันครับ

5) เหตุผลที่คนไทยทะเลาะกันเอง เพราะรัฐใช้กลยุทธ์ที่ทำให้เราไม่สมานฉันท์เป็นเนื้อเดียวกันอยู่เสมอครับ เราเรียกมันว่า"แบ่งแยก แล้ว ปกครอง" หมายถึง เทคนิคการปกครองแบบ "Divide and Rule" หรือ "Divide et Impera" ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ผู้มีอำนาจใช้ในการสร้างความแตกแยกในหมู่ผู้ที่อาจต่อต้านตนเอง เพื่อให้ควบคุมได้ง่ายขึ้น

6) ตัวอย่างที่พบได้ทั่วไปคือ พ่อแม่ที่หลงตัวเอง (Narcissistic Parents) ซึ่งอาจสร้างความขัดแย้งระหว่างลูกๆ โดยการให้ "ลูกที่วิเศษ" และ "แพะรับบาป" เพื่อให้ลูกๆ แย่งชิงความรักและยอมรับจากพ่อแม่ ทำให้ลูกๆ มองกันและกันเป็นภัยคุกคาม และพ่อแม่สามารถเข้ามาแทรกแซงเพื่อสร้างความสงบ แต่แท้จริงแล้วเป็นการเสริมสร้างการควบคุมของตน ถ้าย้อนกลับมามองประเทศไทยคือ รัฐสามารถแทรกตัวมาได้ง่ายมาก เพราะเขาสร้างความแตกแยก ผ่าน IO และการใช้การข่าวโจมตีแต่ละฝั่ง ให้คนแต่ละกลุ่มไม่ถูกกันเอง และเกลียดกันมากขึ้น รัฐจะได้ปกครองได้ง่ายๆ และการรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ที่แน่นแฟ้นจะยิ่งยากขึ้นครับ

7) ส่วนตัวเองมองว่า แม้กระทั่ง Gen Z บ้านเรา ก็ไม่ได้ตื่นตัวทางการเมืองทุกคนครับ บางส่วน Ignore และรู้สึกสิ้นหวัง หดหู่กับประเทศ ไม่ได้มีความหวัง ไม่ได้อยากเปลี่ยนแปลงอะไร อยู่ไปวันๆ และก็รอโอกาสที่ดีของตัวเอง สนใจบริบทรอบตัวเองที่เป็นจุลภาค ไม่ใช่มหภาค ก็มีเช่นกัน ดังนั้น ไม่ได้หมายความว่า การเป็นวัยรุ่น แล้วทุกคนต้องตื่นตัวทางการเมืองเสมอไป คนที่หมดไฟในประเทศไปแล้ว จากการรังแกของผู้ใหญ่ที่ทำให้ประเทศไม่ไปไหน ก็ทำให้เขาเบื่อที่นี่เต็มทนเช่นกัน

8 ) ผมมองว่า สภาวะของคนไทย เป็นสภาวะแบบกึ่งถูกควบคุมทางร่ายกายและจิตใจแบบ Rape Culture เราเคยชินกับวัฒนธรรมการข่มขืน มาตั้งแต่ในโรงเรียน ที่ห้ามเรามีสิทธิ เสรีภาพบนเรือนร่าง ความคิด และการเป็นตัวตน การยกมือถามเป็นสิ่งแปลกประหลาด การห้ามแตกแถว ให้ทำอะไรเหมือนๆกัน จึงอยู่รอด มันถูกปลูกฝังไว้ให้เรากลัวการมีความคิดของตัวเอง และการเป็นขบถ ต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่เป็นสถานะของการยอมทน จำทน เพื่อให้อยู่อย่างปลอดภัย และสงบสุข ไม่งั้นจะถูกคุกคามจากผู้คุมกฎ ตั้งแต่ในโรงเรียนแล้วครับ

9) เชื่อเถอะว่า รัฐที่อยากควบคุมคน ไม่ได้ชอบประชาธิปไตยขนาดนั้น พวกเขามองเห็นว่า ยิ่งคนยากจน โง่เขลา สุขภาพไม่ดี หดหู่สิ้นหวัง และหวาดกลัว นั้น "ปกครองง่าย" ฉะนั้น เราจึงไม่แปลกใจที่ประเทศไทยอาจจะ

- ไม่ได้ส่งเสริมการศึกษาให้เปล่า เพื่อให้โง่
- เคยปล่อยให้คนไทยเข้าถึงกัญชาได้ง่ายๆเพื่อให้มอมเมาสุขภาพต่ำเตี้ย และ
- ไล่จับขังผู้ต้องหาทางการเมือง เพียงเพราะความเห็นต่าง สร้างความกลัว

ทั้งหมดมันกระตุ้นความกลัวให้คน ทำให้คนเขลา ทำให้คนสุขภาพไม่ดี และไม่กล้าที่จะพาประเทศไปสู่ความเปลี่ยนแปลง

10) ยิ่งเราอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ด้วยแล้ว เหมือนเราถูกขังด้วยกฎหมายที่มันไม่สามารถพาเราออกจาก loop เดิม ที่จะนำไปสู่การพัฒนาการเมืองไทยได้ มันยิ่งขังให้คนต้องอดทนอยู่อย่างนี้ แม้ไม่ถึงกับตาย แต่ความสุขสบาย ก็ไม่มีวันเจอ เราจึงอดทนได้ไปวันๆอย่างที่เห็นกันครับ จนกว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ จะเป็นประตูบานแรกให้เราลืมตาอ้าปากได้ในอนาคต

จริงๆประเทศไทย ที่ระดับความเหลื่อมล้ำเป็นอันดับต้นๆของโลก (ตั้งแต่ยุคประยุทธ์เป็นนายก) มีแค่คน 1% ของประเทศที่ร่ำรวยสุขสบาย 99% ยังปากกัดตีนถีบ กลับไม่โดนจราจลประท้วงใดๆ ก็นับว่า "รัฐไทยบริหารประเทศเก่งมากทีเดียว" ที่คุมคนให้อยู่หมัดได้ขนาดนี้ครับ

"นิยามของรัฐไทยคือ Deep State" และมันน่ากลัวกว่าเยอะครับ

คุณล่ะ มองเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ?

ตุ๊ดส์review
จริงๆประเทศไทย ที่ระดับความเหลื่อมล้ำเป็นอันดับต้นๆของโลก (ตั้งแต่ยุคประยุทธ์เป็นนายก) มีแค่คน 1% ของประเทศที่ร่ำรวยสุขสบาย 99% ยังปากกัดตีนถีบ กลับไม่โดนจราจลประท้วงใดๆ ก็นับว่า "รัฐไทยบริหารประเทศเก่งมากทีเดียว" ที่คุมคนให้อยู่หมัดได้ขนาดนี้ครับ

ตุ๊ดส์review
อย่างการบีบๆคลายๆ 'ปลอมๆ' ที่ชัดเจน ก็เช่น
ทำเหมือนมีการเลือกตั้ง หลอกให้คิดว่าเคารพเสียงประชาชน แต่จริงๆสุดท้าย ก็บีบให้เป็นไปตามทางที่ผู้มีอำนาจต้องการ ไม่ได้คลาย แต่ค่อยๆนวดบีบให้เราจนมุม อยู่ในจุดที่พวกเขาบังคับได้ โดยที่เราไม่รู้สึกสาหัส แต่จริงๆมันกระทบเราตลอดเวลา


อ่านความคิดเห็นต่อที่
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1354910696199891&set=a.808136554210644