
.....
THE STANDARD ·
11 hours ago
·
แพทยสภายืนยัน ลงโทษ 3 แพทย์ ปมทักษิณ ชั้น 14 ชี้เป็นไปตามหลักจริยธรรมวิชาชีพ
.
วันนี้ (12 มิถุนายน) เวลา 15.00 น. ที่ทำการสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการแพทยสภา ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา โดยมีวาระพิจารณารวม 144 เรื่อง ซึ่ง 2 ใน 3 ของเรื่องทั้งหมดเป็นการพิจารณาจริยธรรมแพทย์ และมีเรื่องสำคัญคือ มติยืนยันการลงโทษแพทย์ 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการพักรักษาตัวของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14
.
ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ เปิดเผยว่า กรณีการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งมีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพ โดยในการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา
.
อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 ระบุว่า มีกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุม 68 คน จากทั้งหมด 69 คนที่มีสิทธิ์ลงคะแนน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษฯ โดยมีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ที่ลงโทษแพทย์ 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวอดีตนายกรัฐมนตรี
.
ในกระบวนการต่อไป แพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าเอกสารจะถึงผู้ที่ถูกสั่งลงโทษในวันพรุ่งนี้ (13 มิถุนายน) เนื่องจากในวันนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ทำการรับรองมติแล้ว อย่างไรก็ตาม การยับยั้งใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจะต้องใช้ระยะเวลาตามที่นายกแพทยสภาเป็นผู้กำหนด เพื่อให้ผู้ที่ถูกลงโทษได้จัดการงานที่คั่งค้างหรือมีนัดหมายล่วงหน้า
.
ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การชี้แจงรวมถึงเอกสารต่างๆ ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ที่มีหนังสือยับยั้งการลงโทษแพทย์ผู้เกี่ยวข้องนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ และใช้วิจารณญาณของแต่ละท่านแล้ว จึงสรุปเป็นมติของที่ประชุม
.
โดยยืนยันว่าในการประชุมวันนี้ที่ประชุมพิจารณาแบ่งเป็นรายกรณีทั้ง 3 กรณี และแต่ละกรณีกรรมการแพทยสภามีเสียงโหวตมากเกินกว่า 60 เสียง จากทั้งหมด 68 เสียง ที่ยืนยันให้ลงโทษทั้ง 3 กรณี
.
สำหรับกรณีที่มีแชตไลน์แพทยสภาพูดคุยเกี่ยวกับมติการลงโทษแพร่หลายในสื่อโซเชียล ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ ชี้แจงว่า ห้องสนทนาดังกล่าวไม่ใช่ไลน์ทางการของแพทยสภา และการตอบ “YES” ไม่ได้มีการแสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อมูลพิเศษใดๆ เป็นเพียงการตอบรับเท่านั้น ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ไม่น่าจะเป็นเหตุผลกระทบการทำงานของคณะกรรมการแพทยสภา “ขอย้ำว่าการพิจารณาวาระนี้ของแพทยสภา ไม่ได้สนใจว่าใครคือผู้ป่วย เราพิจารณาตามหลักการและหลักวิชาการ” ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ กล่าวย้ำ
.
อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 ได้กล่าวถึงประเด็นที่แพทย์จากหลากหลายสถาบัน หลากหลายรุ่น รวมถึงประชาชนคนไทยกว่า 50,000 คน ได้ลงชื่อสนับสนุนมติของแพทยสภาที่มีการลงโทษ 3 แพทย์ที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า เสียงของท่านเหล่านี้ที่ลงนามเพราะต้องการให้แพทยสภายึดมั่นและยืนหยัดอยู่ในความถูกต้อง และรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ซึ่งเป็นสิ่งที่แพทยสภาตั้งใจทำอยู่แล้ว ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จึงเป็นเหมือนกำลังใจมากกว่าเป็นแรงกดดัน
.
อย่างไรก็ตาม กรณีที่บางกลุ่มใช้กลไกบางอย่างทำให้กรรมการแพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือขัดต่อจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ สิ่งเหล่านี้ถึงจะเป็นเรื่องกดดัน หรือบางกรณีเข้าข่ายการข่มขู่ ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ ได้เป็นตัวแทนกรรมการแพทยสภาขอบคุณกลุ่มแพทย์และประชาชนกว่า 50,000 ชื่อที่ให้การสนับสนุนที่แสดงออกชัดเจนว่าอยากให้แพทยสภาดำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง รักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณในวิชาชีพ และในวันนี้คณะกรรมการแพทยสภาได้ทำสิ่งเหล่านั้นแล้ว
.
ศ. ดร. นพ.ประสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าจะเป็นแพทย์รุ่นใหม่หรือแพทย์รุ่นเก่า ทุกคนได้รับการอบรมสั่งสอนมาเหมือนกัน เข้าใจในจรรยาบรรณวิชาชีพ ความถูกต้อง และการทำงานเหมือนกัน ในวันนี้เราได้ทำตามสิ่งที่เราถูกสอนมา และแพทย์ทั้งหลายที่กำลังศึกษาอยู่ก็ได้รู้ว่ากรณีนี้เป็นกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าบทบาทของแพทย์มีมากมาย นอกจากการรักษาคนไข้แล้ว ยังรวมถึงการรักษามาตรฐานในการดูแลคนไข้ภายใต้หลักการและจรรยาบรรณวิชาชีพ
.
ภาพ: ศวิตา พูลเสถียร

.....
https://www.facebook.com/watch/?v=1830978567760406