วันจันทร์, ธันวาคม 01, 2568

สนุกละ สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง พวกรองๆ รุ่นใหม่สายน้ำเงิน ไล่เบี้ยหัวหน้า แก้ไขเรื่อง สส.และพรรคบริจาคช่วยน้ำท่วมได้ไม่อั้น

สนุกละ สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง ในสถานการณ์ที่รัฐบาลคะแนนตก แยะ โดนด่า ยับ อาจจะชิง ยุบสภาหนีอภิปรายซักฟอก ไม่ไว้วางใจ ในกลางเดือนนี้ เกิดอาการมะรุมมะตุ้ม พวกรองๆ รุ่นใหม่สายน้ำเงิน ไล่เบี้ยหัวหน้า

ไม่มีอะไรมาก หลายท่านก็ทราบว่าช่วงนี้มีการเปลี่ยนเลือดองค์กรอิสระหลายราย ให้เลือดใหม่สีน้ำเงินเข้าไปเพียบ เฉพาะ กกต.ถ้าไม่รีบยุบสภาจะได้ กกต.สีน้ำเงินถึง ๕ ใน ๗ แต่เท่าที่เข้าไปแล้วสาม ก็เริ่มงานขัดเกลารุ่นเก่ากันแล้ว

สถานการณ์เพลี่ยงพล้ำของรัฐบาลชั้นเชิงการเมืองสูงเป็นเหตุ จากภัยธรรมชาติที่มักผักชีโรยหน้าต่อๆ กันมาหลายยุคสมัย อุทกภัยไม่เข้าใครออกใคร จาก อาปู เสียหลักกันไม่เป็นท่า มาถึง น้าหนู กำลังโอนเอน ต้องให้องคาพยพช่วยกันค้ำยันจ้าละหวั่น

สอง กกต.ที่ สว.ฮั้วเป็นหมอตำแยทำคลอด ออกมาหักล้างรุ่นใหญ่รักษาหน้ารัฐบาลกันแข็งขัน หลังจากที่ แสวง บุญมี ตัวเลขาฯ ใหญ่วินิจฉัยเรื่อง สส.แจกของชาวบ้านที่ประสบเคราะห์กรรมน้ำท่วมว่า “ถ้าอยู่ในช่วงประกาศให้มีการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ผิดอยู่แล้ว...ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน มีคนร้องเรียนแน่” ซึ่งมีนักวิชาการ เช่น อจ.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย นิติศาสตร์ จุฬาฯ เม้นต์ว่า “การที่พูดว่าแจกของช่วงนี้ผิดคือ คุณไม่ใช้ดุลพินิจเลย ตีทุกอย่างเป็นผิดไปหมด แบบนี้ทางกฎหมายถือว่า กกต.ใช้อำนาจโดยมิชอบครับ”

ระหว่างที่ทั่นเลขาฯ ยังนิ่ง รองๆ สองคนออกมาช่วยกันแก้ไข ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก กับ เกรียงไกร พานดอกไม้ แจงระหว่างเปิดฉากพบปะสื่อมวลชน “เตรียมการเลือกตั้ง” ว่านักการเมือง (สส.) และพรรค “บริจาคช่วยภัยพิบัติได้ไม่อั้น”

เขาพูดในสถานการณ์เฉพาะหน้าที่จะมีการเลือกตั้ง อบต. ๑๑ มกรา ๖๙ แต่ตีความควบรวมการเลือกตั้งอื่นๆ ที่จะตามมา รวมทั้งเลือกตั้งใหญ่ ๑๒ ธันวา ถ้า “หนูเอาจริง” ชนินทร์ว่า ทั่นเลขาฯ ใหญ่ (แสวง) “พูดสั้นไปหน่อย จริงๆ แล้วบริจาคได้หมด”

เกรียงไกรต่อยอดว่า เรื่องมันเกิดเพราะมีคน “พยายามฝ่าฝืน หลบเลี่ยง ทั้งๆ ที่ กกต.มีการออกระเบียบหลักเกณฑ์ชัดเจนว่าสิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้” แล้วก็เรื่องซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทำไม กกต.จะไม่รู้ “ถ้าไม่มีคนซื้อ จะมีคนขายหรือไม่ ทำไมโทษแต่ กกต.”

หูยทั่นเกรียงไกรใส่เกือบหมดแม็ก “ทำไมไม่โทษตัวเองบ้าง กกต.ตามจับแต่ก็ไม่เป็นข่าว กกต.ทำงานตามกฎหมาย ๑๐๐ %” พรป.ว่าไว้ชัดเจน กรรมการบริหารพรรคต้องเป้นผู้คอยควบคุม กำกับดูแลเรื่องนี้สิ อย่า “หลับตาข้างเดียว”

ทั่นรองฯ อีกคน ร.ต.ภาสกร สิริภาคยาพร พูดถึงการทำประชามติพร้อมเลือกตั้งว่า “จะเกิดขึ้นหรือไม่ เกิดขึ้นเมื่อไรหรืออย่างไร ขึ้นอยู่กับว่ารัฐสภาและคณะรัฐมนตรีแจ้ง กกต.มาเมื่อใด...เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนไป” รอดูว่ารัฐบาลจะยุบสภาวันไหน

“โจทย์ของเราคือยุบสภาวันไหน และรัฐสภาแจ้งให้มีการทำประชามติเมื่อไร ต้องนำสองอย่างนี้มาผนวกกัน เพื่อดูว่าต้องใช้เวลาตามกฎหมายเท่าใด ซึ่งไม่ใช่อำนาจของ กกต. ไม่สามารถก้าวล่วงรัฐบาลหรือรัฐสภาได้”

(https://thestandard.co/ec-undecided-referendum-dissolution-election/, https://www.matichon.co.th/politics/news_5483191 และ https://x.com/pornson/status/1994632609528516845)