
Noi Thamsathien
5 hours ago
·
เราไม่ได้เป็นคนทำงานสันติภาพ เป็นแค่คนในแวดวงสื่อที่เข้าไปเกี่ยวพันนิดๆหน่อยๆ ติดลมบนมาจากการตามเรื่องภาคใต้ก็เลยได้เก็บเกี่ยวไอเดียมาเล็กน้อย พอมาเจอเรื่องทรัมป์กับเซเลนสกี้ และได้เห็นอินฟลูไทยบางคนโดนตกด้วยประโยคง่ายๆของทรัมป์ที่ว่า เซเลนสกี้ไม่เอาสันติภาพ มันทำให้เราเชื่อว่าส่วนหนึ่งของสังคมไทยยังคงไม่เข้าใจเรื่องนี้แม้ว่าจะอยู่กับความขัดแย้งในสามจังหวัดมาเนิ่นนานยี่สิบกว่าปี
เราอยากยกตัวอย่างเรื่องภาคใต้สักนิด แน่นอนทุกคนอยากให้เกิดความสงบ อยากกลับไปทำมาหากิน มีชีวิตธรรมดา แต่มีความสงบไม่ได้แปลว่ามีสันติภาพ สงบคือไม่มีเหตุ แต่ความขัดแย้งอาจจะยังคุกรุ่นอยู่ภายในรอวันปะทุใหม่ สงบแบบนี้มักได้มาด้วยการปราบ ในสามจังหวัด เราก็ปราบกันมาตั้งแต่วันแรก ใช้กฎอัยการศึก พรก.ฉุกเฉิน ทุ่มงบทุ่มคน ตายไปเยอะทั้งจนท.และชาวบ้าน แต่ทำไมถึงมีเสียงเรียกร้องว่า อันนี้ไม่พอ ต้องสร้างสันติภาพ เขาบอกว่ามันหมายถึงเราต้องคลี่คลายความขัดแย้ง ความไม่พอใจ ให้คู่กรณีไปคลายปมกันให้ได้ การปราบทำให้เกิดความสงบ แต่นั่นคือกดฝ่ายหนึ่งลงไปจมดิน กำจัดให้สิ้นจนไม่อาจแสดงฤทธิ์เดชได้ มันก็อาจจะสงบจริง แต่เชื้อไฟมันยังอยู่ มันจะลุกโชนขึ้นมาได้อีกเมื่อปัจจัยมันพร้อม เหมือนกับเมื่อยี่สิบปีที่แล้วที่มันโผล่มาหลังจากที่ก่อนหน้านั้นมันเงียบไปจนทุกคนนึกว่ามันหมดไปแล้ว ส่วนถ้าทำสิ่งที่เขาเรียกกันว่าใช้กระบวนการสันติภาพ มันคือต่อรอง ไม่มีใครได้เต็มร้อยหรือเสียหมดหน้าตัก ส่วนว่าจะเจอกันตรงไหนก็ไปต่อรองกันเอา นั่นคือผลลัพท์สองฝ่ายต้องพอใจจะได้อยู่ด้วยกันได้ต่อไปไม่ต้องลุกขึ้นมาฆ่ากัน นี่ก็คือสิ่งที่ทรัมป์เสนอ ซึ่งมันดี และในกระบวนการต่อรองเพื่อจะทำดีลนี้ คนกลางต้องวิ่งไปมาระหว่างสองฝ่ายช่วยหาจุดที่จะพบกันได้ อาจจะต้องมาเจอกันซึ่งหน้าเพื่อคุยกันด้วย ฯลฯ ซึ่งทรัมป์ก็บอกว่ากำลังทำ เพียงแต่ทรัมป์ไปฟังปูตินมากไป แสดงท่าทีกดเซเลนสกี้มากไป กลายเป็นตัวแทนปูตินมากดดันยูเครน ไม่ได้เป็นตัวกลาง การกดเซเลนสกี้ก็มีตั้งแต่สภาพเวลาเจอหน้ากัน ไปจนถึงเรื่องการกดดันอย่างอื่น หลังสุดนี่ประกาศมาแล้วหยุดช่วยเหลือทุกด้าน นี่ก็บีบเช่นกันโดยอ้างว่าเซเลนสกี้ไม่เอาสันติภาพ
ที่ทรัมป์พูดถึงเซเลนสกี้ว่ายังไม่พร้อมสำหรับสันติภาพ เราว่าอันนี้ไม่น่าใช่ ยูเครนสู้เพื่อปกป้องตัวเองจากรัสเซีย เขาไม่ได้ต้องการสงครามแต่แรก คนเริ่มสงครามคือรัสเซีย จะเพราะอะไรนั้น ถ้าจะใช้การเจรจาก็ต้องไปว่ากัน แต่ไม่ใช่ไปกดยูเครนว่า ต้องหยุดยิงวันนี้ ถ้าไม่หยุดยิงวันนี้คือคุณไม่เอาสันติภาพ ถ้าเขาไม่เอาสันติภาพเขาจะบินไปวอชิงตันทำไม แต่ที่เซเลนสกี้ถามว่า จะมีอะไรการันตีเพราะก่อนหน้านี้เคยทำข้อตกลงหยุดยิงกันไปแล้ว ตกลงแลกนักโทษกัน แต่รัสเซียไม่เคารพข้อตกลง ถ้าไปอ่านดูจะพบว่า ยูเครนบอกว่ารัสเซียอาศัยการหยุดยิงเป็นการพักเบรคเอาแรงแล้วฉวยโอกาสนั้นตีเอาดินแดนเพิ่ม ด้วยเหตุนี้การหยุดยิงมันจึงไม่มีความหมาย คำถามนี้มันจึงชอบธรรมอย่างยิ่ง นี่แหละ การต่อรองหยุดยิงมันจึงเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเส้นแบ่งระหว่างความจริงใจว่าจะทำจริงๆกับการหลอกกันมันบางมาก กรณีของภาคใต้ก็จะมีปัญหาคล้ายกัน ดังนั้นเราว่ามันหยาบไปที่จะบอกว่าเซเลนสกี้ไม่เอาสันติภาพ การยุติการสู้รบเป็นประโยชน์กับยูเครน ประเทศสู้สงครามมาขนาดนี้ ต้องตากหน้าขอความช่วยเหลือประเทศต่างๆ และเราต่างก็รู้กันว่า ไม่มีใครให้อะไรใครฟรีๆหรอก ทุกคนล้วนหวังประโยชน์จากเราทั้งสิ้น มันขึ้นอยู่กับว่าจะยอมเสียอะไร ทางออกของยูเครนตอนนี้มีไม่มากเลยจริงๆ เผลอๆจะจบลงแบบเศร้ามากด้วย หรือไม่ก็อาจต้องให้คนอื่นไปดีลไม่ใช่เซเลนสกี้ ทำให้มีคำถามว่าจะเกิดการเปลี่ยนตัวผู้นำเอาคนที่้ ‘เชื่อง’ กับเมกามากกว่านี้มั้ย
เราไปอ่านของนักการทหารตต.บางคนเขาบอกว่า อันที่จริงคนที่ได้ปย.จากสงครามยูเครนคืออุตสาหกรรมอาวุธในสหรัฐฯนั่นแหละ ไม่ใช่อื่นใด เงินจากกระเป๋าหนึ่งหมุนออกไป ไหลกลับไปเข้าอีกกระเป๋าหนึ่ง ในขณะที่ชีวิตคนในสนามรบตกตายไป บ้านเมืองย่อยยับ แต่ถ้ายูเครนไม่สู้ก็จะไม่มียูเครนอีก แต่คนก็ตายไปมากแล้ว ถ้าจะมีสันติภาพมันก็ควรมีสันติภาพที่เขาอยู่ได้ ไม่ใช่สันติภาพที่ไร้สงครามแต่ว่ายูเครนไม่เหลืออะไร อันนั้นมันย่อมไม่ใช่สันติภาพที่เขาจะต่อรอง
เราไม่ได้เป็นคนทำงานสันติภาพ เป็นแค่คนในแวดวงสื่อที่เข้าไปเกี่ยวพันนิดๆหน่อยๆ ติดลมบนมาจากการตามเรื่องภาคใต้ก็เลยได้เก็บเกี่ยวไอเดียมาเล็กน้อย พอมาเจอเรื่องทรัมป์กับเซเลนสกี้ และได้เห็นอินฟลูไทยบางคนโดนตกด้วยประโยคง่ายๆของทรัมป์ที่ว่า เซเลนสกี้ไม่เอาสันติภาพ มันทำให้เราเชื่อว่าส่วนหนึ่งของสังคมไทยยังคงไม่เข้าใจเรื่องนี้แม้ว่าจะอยู่กับความขัดแย้งในสามจังหวัดมาเนิ่นนานยี่สิบกว่าปี
เราอยากยกตัวอย่างเรื่องภาคใต้สักนิด แน่นอนทุกคนอยากให้เกิดความสงบ อยากกลับไปทำมาหากิน มีชีวิตธรรมดา แต่มีความสงบไม่ได้แปลว่ามีสันติภาพ สงบคือไม่มีเหตุ แต่ความขัดแย้งอาจจะยังคุกรุ่นอยู่ภายในรอวันปะทุใหม่ สงบแบบนี้มักได้มาด้วยการปราบ ในสามจังหวัด เราก็ปราบกันมาตั้งแต่วันแรก ใช้กฎอัยการศึก พรก.ฉุกเฉิน ทุ่มงบทุ่มคน ตายไปเยอะทั้งจนท.และชาวบ้าน แต่ทำไมถึงมีเสียงเรียกร้องว่า อันนี้ไม่พอ ต้องสร้างสันติภาพ เขาบอกว่ามันหมายถึงเราต้องคลี่คลายความขัดแย้ง ความไม่พอใจ ให้คู่กรณีไปคลายปมกันให้ได้ การปราบทำให้เกิดความสงบ แต่นั่นคือกดฝ่ายหนึ่งลงไปจมดิน กำจัดให้สิ้นจนไม่อาจแสดงฤทธิ์เดชได้ มันก็อาจจะสงบจริง แต่เชื้อไฟมันยังอยู่ มันจะลุกโชนขึ้นมาได้อีกเมื่อปัจจัยมันพร้อม เหมือนกับเมื่อยี่สิบปีที่แล้วที่มันโผล่มาหลังจากที่ก่อนหน้านั้นมันเงียบไปจนทุกคนนึกว่ามันหมดไปแล้ว ส่วนถ้าทำสิ่งที่เขาเรียกกันว่าใช้กระบวนการสันติภาพ มันคือต่อรอง ไม่มีใครได้เต็มร้อยหรือเสียหมดหน้าตัก ส่วนว่าจะเจอกันตรงไหนก็ไปต่อรองกันเอา นั่นคือผลลัพท์สองฝ่ายต้องพอใจจะได้อยู่ด้วยกันได้ต่อไปไม่ต้องลุกขึ้นมาฆ่ากัน นี่ก็คือสิ่งที่ทรัมป์เสนอ ซึ่งมันดี และในกระบวนการต่อรองเพื่อจะทำดีลนี้ คนกลางต้องวิ่งไปมาระหว่างสองฝ่ายช่วยหาจุดที่จะพบกันได้ อาจจะต้องมาเจอกันซึ่งหน้าเพื่อคุยกันด้วย ฯลฯ ซึ่งทรัมป์ก็บอกว่ากำลังทำ เพียงแต่ทรัมป์ไปฟังปูตินมากไป แสดงท่าทีกดเซเลนสกี้มากไป กลายเป็นตัวแทนปูตินมากดดันยูเครน ไม่ได้เป็นตัวกลาง การกดเซเลนสกี้ก็มีตั้งแต่สภาพเวลาเจอหน้ากัน ไปจนถึงเรื่องการกดดันอย่างอื่น หลังสุดนี่ประกาศมาแล้วหยุดช่วยเหลือทุกด้าน นี่ก็บีบเช่นกันโดยอ้างว่าเซเลนสกี้ไม่เอาสันติภาพ
ที่ทรัมป์พูดถึงเซเลนสกี้ว่ายังไม่พร้อมสำหรับสันติภาพ เราว่าอันนี้ไม่น่าใช่ ยูเครนสู้เพื่อปกป้องตัวเองจากรัสเซีย เขาไม่ได้ต้องการสงครามแต่แรก คนเริ่มสงครามคือรัสเซีย จะเพราะอะไรนั้น ถ้าจะใช้การเจรจาก็ต้องไปว่ากัน แต่ไม่ใช่ไปกดยูเครนว่า ต้องหยุดยิงวันนี้ ถ้าไม่หยุดยิงวันนี้คือคุณไม่เอาสันติภาพ ถ้าเขาไม่เอาสันติภาพเขาจะบินไปวอชิงตันทำไม แต่ที่เซเลนสกี้ถามว่า จะมีอะไรการันตีเพราะก่อนหน้านี้เคยทำข้อตกลงหยุดยิงกันไปแล้ว ตกลงแลกนักโทษกัน แต่รัสเซียไม่เคารพข้อตกลง ถ้าไปอ่านดูจะพบว่า ยูเครนบอกว่ารัสเซียอาศัยการหยุดยิงเป็นการพักเบรคเอาแรงแล้วฉวยโอกาสนั้นตีเอาดินแดนเพิ่ม ด้วยเหตุนี้การหยุดยิงมันจึงไม่มีความหมาย คำถามนี้มันจึงชอบธรรมอย่างยิ่ง นี่แหละ การต่อรองหยุดยิงมันจึงเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเส้นแบ่งระหว่างความจริงใจว่าจะทำจริงๆกับการหลอกกันมันบางมาก กรณีของภาคใต้ก็จะมีปัญหาคล้ายกัน ดังนั้นเราว่ามันหยาบไปที่จะบอกว่าเซเลนสกี้ไม่เอาสันติภาพ การยุติการสู้รบเป็นประโยชน์กับยูเครน ประเทศสู้สงครามมาขนาดนี้ ต้องตากหน้าขอความช่วยเหลือประเทศต่างๆ และเราต่างก็รู้กันว่า ไม่มีใครให้อะไรใครฟรีๆหรอก ทุกคนล้วนหวังประโยชน์จากเราทั้งสิ้น มันขึ้นอยู่กับว่าจะยอมเสียอะไร ทางออกของยูเครนตอนนี้มีไม่มากเลยจริงๆ เผลอๆจะจบลงแบบเศร้ามากด้วย หรือไม่ก็อาจต้องให้คนอื่นไปดีลไม่ใช่เซเลนสกี้ ทำให้มีคำถามว่าจะเกิดการเปลี่ยนตัวผู้นำเอาคนที่้ ‘เชื่อง’ กับเมกามากกว่านี้มั้ย
เราไปอ่านของนักการทหารตต.บางคนเขาบอกว่า อันที่จริงคนที่ได้ปย.จากสงครามยูเครนคืออุตสาหกรรมอาวุธในสหรัฐฯนั่นแหละ ไม่ใช่อื่นใด เงินจากกระเป๋าหนึ่งหมุนออกไป ไหลกลับไปเข้าอีกกระเป๋าหนึ่ง ในขณะที่ชีวิตคนในสนามรบตกตายไป บ้านเมืองย่อยยับ แต่ถ้ายูเครนไม่สู้ก็จะไม่มียูเครนอีก แต่คนก็ตายไปมากแล้ว ถ้าจะมีสันติภาพมันก็ควรมีสันติภาพที่เขาอยู่ได้ ไม่ใช่สันติภาพที่ไร้สงครามแต่ว่ายูเครนไม่เหลืออะไร อันนั้นมันย่อมไม่ใช่สันติภาพที่เขาจะต่อรอง
https://www.facebook.com/photo/?fbid=2894536980712804&set=a.314073345425860
.....

Noi Thamsathien
21 hours ago
·
ตื่นเช้ามาตกตะลึงเพราะคลิปที่อีลอน มัสค์โพสต์ไว้ เป็นฉากการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างป.ทรัมป์ รองของเขาคือวานซ์ กับป.เซเลนสกี้ของยูเครน ต่อหน้าต่อตานักข่าวในระหว่างการแถลงในทำเนียบขาว เดือดชนิดที่ว่าทูตยูเครนถึงกับนั่งกุมขมับ ดีลทุกอย่างล้วนพังครืนค่ะ
เซเลนสกี้ไปไวท์เฮาส์หนนี้คือเพื่อลงนามในข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯกับยูเครนเรื่องลงทุนร่วมในเหมืองแร่ในยูเครน มันเป็นดีลที่เอาจริงๆคือสหรัฐฯจะไปลงทุนในยูเครน ยูเครนได้เงินไปสหรัฐฯได้ของ สหรัฐฯก็ไม่ต้องรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายให้แบบเปล่าๆแบบที่ทรัมป์ชอบพูด ความเข้าใจของเราคือนี่เป็นดีลตั้งต้นที่จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพหยุดสงครามรัสเซียกับยูเครน แต่แน่นอนว่าดีลข้อตกลงเหมืองแร่ก็ล่ม เรื่องที่ใหญ่กว่าคือที่สหรัฐฯเสนอตัวจะไกล่เกลี่ยสร้างสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซียก็ล่มไปพร้อมๆกันด้วย ทรัมป์ออกแถลงการณ์ว่าเซเลนสกี้ไม่ใช่คนที่จะทำงานด้วยได้
เราอยากให้ไปดูคลิป เชื่อว่าบรรดาสำนักข่าวคงเอามาเปิด ดูแล้วก็แล้วแต่จะตีความกันไป เพราะนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอเมริกันซึ่งกำลังสอยกันเองอย่างดุเดือดไม่แพ้กัน แฟนคลับมัสค์กับทรัมป์มองเห็นผู้นำที่เข้มแข็งเด็ดขาด แฟนคลับเซเลนสกี้มองเห็นคนกร่างสองคนไล่ทุบอีกคน
มองผ่านแว่นของเรา เราเห็นทรัมป์กับรองป.ที่เสียงดังมากและใช้คำพูดที่แรงแบบที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีการพูดกับคนระดับผู้นำประเทศแบบนี้ได้ ไม่ว่าเขาคนนั้นจะมีสถานะด้อยกว่าคุณแค่ไหนก็ตาม ถ้าอยู่กันในที่ลับก็ยังพอว่า แต่นี่คือต่อหน้าสื่อ คือเซเลนสกี้พยายามตั้งคำถามว่า ยูเครนเคยทำข้อตกลงหยุดยิงกับรัสเซียมาแล้ว มีข้อตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษกันด้วย แต่รัสเซียไม่ทำตาม วานซ์สวนทำนองว่าสหรัฐฯพยายามช่วยนะ แต่คุณกลับไม่ขอบคุณเราแม้แต่คำเดียว มาแสดงความดูแคลนกันถึงในบ้าน เซเลนสกี้บอกว่าขอบคุณเยอะแยะแล้ว มีคำถามโยนกลับไปกลับมา ทรัมป์กระโดดเข้าร่วมวงด้วย พูดใส่หน้าเลยว่า คุณ(หรือจริงๆควรใช้คำอื่น) น่ะไม่มีทางเลือกแล้ว พูดแบบมะนาวไม่มีน้ำก็ต้องบอกว่า จนตรอกแล้วนะ หยิบยื่นให้ขนาดนี้ยังไม่เอารึ แล้วจริงๆ เซเลนสกี้เถียงไม่ทันหรอกเพราะสองคนนั้นเสียงดังกว่า แถมภาษาอก.ด้วย
นักข่าวซีเอ็นเอ็นบอกว่าตลอดเวลานั้นทุกคนในห้องเงียบกริบ จบแถลงข่าวทรัมป์กับทีมแยกไปประชุมแล้วบอกว่าเลิกดีล ทีมเซเลนสกี้ไปอยู่อีกห้อง อาหารมารอในห้องข้างๆ แต่พวกเขาออกจากทำเนียบขาวไปไม่ได้กิน นักข่าวซีเอ็นเอ็นบอกว่า จริงๆคือทีมเมกาไปบอกให้ออกจากทำเนียบขาว คือหส.มาก
คือท้ายที่สุดแล้วนี่เป็นเรื่องของการทำดีลหาข้อตกลงหยุดยิงสร้างสันติภาพ แต่ทรัมป์ดันเริ่มผิดคีย์ ผิดข้อเท็จจริงไปเยอะมาก ตั้งแต่แรกบอกว่ายูเครนบุกรัสเซีย เซเลนสกี้เป็นเผด็จการ และบ่นเรื่องสหรัฐฯสนับสนุนมากไปไม่ได้อะไรกลับ กดดันยูเครน คือเป็นท่าทีบุลลี่คนที่ไม่ได้เริ่มสงครามให้ต้องจำยอม ท่าทีแบบนี้จะเป็นคนไกล่เกลี่ยสันติภาพได้ไง ท่าทีแบบนี้ทำให้บรรดาผู้นำยุโรปเรียกประชุมฉุกเฉินกัน ยุโรปถือว่าปัญหาสงครามยูเครนเป็นแกนกลางของเสถียรภาพยุโรป ทุกคนมองรัสเซียเป็นผู้รุกรานได้คืบจะเอาศอก ถ้าตียูเครนเสร็จขยายวงแน่นอน ยุโรปจึงต้องถามใจตัวเองว่าพันธมิตรอย่างสหรัฐฯจะแนบแน่นกันไปได้สักกี่น้ำ นั่นเป็นที่มาที่เราเห็นผู้นำยุโรปบอกว่าเราต้องสร้างศักยภาพทางทหารให้ตัวเองเพื่อจะพึ่งตัวเองให้ได้ จริงๆท่าทีของทรัมป์เรื่องยูเครนน่าจะทำให้หลายประเทศที่หวังพึ่งสหรัฐฯเรื่องพันธมิตรด้านความมั่นคงหนาวไปทั่ว รวมไปถึงญี่ปุ่นด้วยแน่ๆ เราเองอยากเดาว่าในอนาคตอาจจะพากันหันไปสร้างศักยภาพทางทหารกันอีกก็ได้ แต่ยุโรปก็ส่งผู้นำฝรั่งเศสคือมาครองไปคุยกับทรัมป์ สองคนนี้เขาเหมือนแพ้ทางกัน เราดูคลิปพวกเขาแถลงข่าววันก่อนแล้วก็ยอมรับว่ามาครองฮีเก่ง แต่ว่าถ้าเทียบกันแล้วเราว่าทรัมป์กับแกนนำรัฐบาลสหรัฐฯชุดนี้ไม่ชอบเซเลนสกี้ มีท่าทีใช้อำนาจคือกดอย่างเห็นได้ชัดเพราะสถานะประเทศคนละชั้นกัน
เรื่องสร้างสันติภาพใช้วิธีแบบนี้ไม่น่าจะได้ การไปบอกฝ่ายที่เขาต่อสู้เพื่อรักษาตัวเองว่าพวกคุณต้องยอม พูดจาเป็นตัวแทนฝ่ายรุกราน กดเขา แบบนี้ฝ่ายที่เขารู้สึกว่าถูกกดย่อมไม่เชื่อใจ ไม่คิดว่าคุณจะเป็นกลางทำให้ได้ดีลที่เขาได้ประโยชน์จริง เซเลนสกี้ไม่ผิดที่จะถามว่า หนนี้จะมีอะไรการันตี หนที่แล้วทำข้อตกลงไปแล้วรัสเซียไม่ทำตาม มันเป็นคำถามพื้นๆ แล้วสิ่งที่โลกต้องการไม่ใช่แค่ข้อตกลงหยุดยิงแต่ต้องเป็นการตกลงที่จะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันได้อย่างมีศักดิ์ศรี ความเสียหายของเขาได้รับการชดเชย มันจึงจะการันตีสังคมรอบข้างคือยุโรปรวมทั้งสังคมโลกได้ว่ารัสเซียจะเคารพดินแดนคนอื่น การริเริ่มของทรัมป์มันจึงพลาดตั้งแต่ก้าวแรกแล้ว เห็นภาษากายและภาษาที่ใช้กับเซเลนสกี้ก็รู้ว่านี่คือกลุ่มคนที่คิดว่าตัวเองใหญ่แล้วจะบีบให้คนอื่นทำอะไรก็ได้ ใครที่คิดจะเป็นแกนกลางแก้ปัญหาความขัดแย้งใช้ท่าทีแบบนี้มันไปต่อยาก คนที่เขาแม้จะรู้ว่าจะแพ้ก็คงสู้จนตัวตาย คือมันมีคนจำนวนหนึ่งที่จะยอมตายอย่างมีศักดิ์ศรีดีกว่าอยู่ได้แต่ต้องยอมศิโรราบ เราว่าสำหรับคนที่มองหาภูมิปัญญาในการสร้างสันติภาพ เจอเคสนี้เข้าไปคงกุมขมับแบบทูตยูเครน
แต่สิ่งที่ทรัมป์ทำกับเซเลนสกี้กำลังโดนวิพากษ์อย่างหนัก รวมทั้งจากคนในพรรคเดียวกัน ดังนั้นสี่ปีนี้เราว่าเมกาคงวุ่นแต่กับการจัดระเบียบใหม่ในบ้านและยากจะไปแสดงบทบาทอันใดที่มีนัยให้กับโลกได้ อันเดียวที่ทำได้ก็น่าจะเป็นการตีฝุ่นให้ฟุ้งแหละ
https://www.facebook.com/photo/?fbid=2893901227443046&set=pcb.2893907827442386
.....