Thanakorn Praiwan
Yesterday
·
ชัยชนะของโซห์ราน มัมดานี่น่าจะสอนอะไรพรรคประชาชนได้พอสมควร
1. ตั้งแต่โดนยุบพรรค อุดมการณ์ของพรรคส้มเริ่มถดถอยเพราะ สส. หลายคนที่อุดมการณ์แรงกล้าทยอยโดนตัดสิทธิ์ไป
2. เหตุการณ์ที่เห็นได้ชัดคือตอน สส. แก้วตา ธิษะณา ออกมาพูดเรื่องการให้สัญชาติไทยแก่แรงงานพม่า ก็โดนทัวร์ลงยับ โดนด่าว่าเป็นพรรคประชาชนพม่า แม้แต่สมาชิกพรรคบางคนก็รุมด่านาง แล้วแทบไม่มีใครในพรรคปกป้องชีเลย จะมีก็แค่คุณวิโรจน์ที่เพิ่งพูดถึงเรื่องนี้ไปเมื่อวันอาทิตย์ก่อน
3. ตอน สส. เนม สหัสวัต ออกมาโพสต์ว่า ในสงคราม สิ่งแรกที่ตายคือความจริง ก็โดนทัวร์ลงยับ แม้แต่ สส. บางคนในพรรคก็ด่าเนม บีบให้เนมออกมาขอโทษ ไหลตามกระแสชาตินิยมกันไปหมด สุดท้ายพอความจริงเปิดเผย ทั้งเรื่องกันจอมพลัง เรื่องปราสาทตาควาย กลายเป็นว่าเนมพูดถูกหมดเลย
--------
ตัดมาที่โซห์ราน
1. โซห์รานประกาศตัวตั้งแต่จะลงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนิวยอร์คว่าเค้าเป็นมุสลิม เค้าเป็นนักสังคมนิยมประชาธิปไตย (Democratic Socialist) ซึ่งหลาย ๆ คนคงรู้ว่าคำว่า Socialist แทบจะเป็นคำต้องห้ามในสังคมอเมริกา และสังคมอเมริกาก็ยังมีความกลัวมุสลิมอยู่เยอะ
2. ช่วงแรกที่โซห์รานทำแคมเปญนี้ (ตอนนั้นคะแนนนิยมเค้ายังไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ) ก็ทัวร์ลงยับ หลายคนกลัวว่านิวยอร์คจะกลายเป็นเมืองคอมมี่
3. แต่โซห์รานไม่หวั่นไหว เค้ายืนหยัดในจุดยืนตรงนี้ และเน้นหาเสียงในธีมที่ว่า "นิวยอร์คเป็นเมืองที่ทุกคนเอื้อมถึง" โซห์รานมากับนโยบายที่จะทำให้รถเมล์ในนิวยอร์คฟรีและเร็ว ให้รัฐเปิดร้านขายของชำเพื่อขายสินค้าราคาประหยัดให้คนในเมือง และจะทำให้ค่าเลี้ยงดูบุตรในนิวยอร์คฟรี โดยจะเก็บภาษีคนรวยเพิ่ม/ลดการลดหย่อนภาษีให้คนรวย เพื่อมาจัดสรรสวัสดิการเหล่านี้
4. อีกจุดยืนที่โซห์รานยืนหยัดมาก คือการประณามอิสราเอลกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซ่า จะว่าไปเรื่องอิสราเอลก็คล้าย ๆ กฎหมายบางมาตราของบ้านเรา คือเป็นเรื่องที่ไม่มีพรรคไหนกล้าแตะ เพราะกลัวเสียคะแนนนิยมจากคนอเมริกันที่เกลียดกลัวมุสลิม และกลัวไม่ได้เงินสนับสนุนจากฝั่งคนยิว แต่โซห์รานไม่หวั่น ยังยืนหยัดจุดยืนนี้ต่อ
5. จุดยืนของโซห์ราน ถ้าในยุโรปก็อาจจะประมาณซ้ายกลาง แต่พออยู่ในอเมริกาคือซ้ายตกขอบ แต่กลายเป็นว่านโยบายหาเสียงที่จะทำให้นิวยอร์คเป็นเมืองที่ทุกคนเอื้อมถึงคือโดนเส้นคนหาเช้ากินค่ำมากกก หลายคนมาช่วยเป็นหัวคะแนนธรรมชาติ ช่วยกันเคาะประตูบ้านชวนคนไปลงคะแนนให้โซห์ราน
6. ในทางกลับกัน พวกมหาเศรษฐีกลัวโซห์รานมาก ถึงกับช่วยบริจาคเงินกว่า 22 ล้านเหรียญให้แอนดรูว์ คูโอโม่ คู่แข่งของโซห์ราน แม้แต่ทรัมป์กับอีลอน มัสค์ ก็ยังต้องมาสนับสนุนคูโอโม่ เพราะโซห์รานคือสัญลักษณ์ของการเมืองใหม่ ที่ไม่สนล็อบบี้ยิสต์ ไม่สนเงินบริจาคของคนรวยกับบริษัทใหญ่ แต่คือการเมืองที่เข้าใจปัญหาปากท้องของรากหญ้าจริง ๆ
7. ณ ตอนนี้ ถึงจะยังนับคะแนนไม่เสร็จ แต่ในทางปฏิบัติโซห์รานชนะคูโอโม่แล้ว แล้วเป็นการเลือกตั้งที่คนมาใช้สิทธิ์ถล่มทลาย มากกว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ รอบก่อนเกือบเท่าตัว และโซห์รานเป็นแคนดิเดทนายกฯ คนแรกในรอบ 56 ปีที่ได้คะแนนเกิน 1 ล้านเสียง
8. ในสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะ โซห์รานย้ำเตือนอีกทีว่า "ผมเป็นมุสลิม ผมเป็นนักสังคมนิยมประชาธิปไตย และผมจะไม่มีวันขอโทษในสิ่งที่ผมเป็น"
------------------------------
กลับมาที่พรรคส้ม
1. พอพรรคส้มเริ่มใหญ่ขึ้นหลังชนะเลือกตั้งรอบก่อน ก็จะมีทั้งส้มซ้าย และส้มขวา แล้วส้มขวา (ซึ่งบางส่วนเป็นสลิ่มเก่าบ้าง บูมเมอร์บ้าง คนรุ่นใหม่ที่เบียวอเมริกาบ้าง) ซึ่งวิธีคิดไม่ต่างจากกองเชียร์ทรัมป์ในอเมริกาเลย มี ส.อบจ. บางคนในพรรคที่เชียร์อิสราเอลออกนอกหน้า ทั้ง ๆ ที่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลน่าจะขัดกับค่านิยมของพรรค แต่เขาก็ดำรงตำแหน่งต่อไปได้
2. ส่วนตัวมองว่าพรรคส้มยังพยายามเอาใจส้มขวา เช่นการไหลตามกระแสชาตินิยมช่วงที่ขัดแย้งกับกัมพูชาแรง ๆ คือการเอาใจส้มขวา คุณอาจจะได้คะแนนเสียงเพิ่ม แต่ต้องแลกกับอุดมการณ์ที่ถดถอยไปไกล
3. กลยุทธ์ช่วงหลัง ๆ ของพรรคส้มเลยเป็นการจับกระแส เช่นแคมเปญ "มีเราไม่มีเทา" ซึ่งก็ดีแหละ เพราะไม่มีพรรคไหนกล้าชนกับผู้มีอำนาจ แต่แนวคิด "เราเอาจริง" ถ้ามองดี ๆ คือขวาพอสมควร
4. อีกเทรนด์ที่พอสังเกตได้คือเทคโนแครทที่ไหลเข้าพรรค ซึ่งการมีคนเก่งในพรรคก็ดีกว่าไม่มีแหละ แต่เทคโนแครทส่วนใหญ่จะขวาโดยธรรมชาติ (โดยเฉพาะนักเศรษฐศาสตร์) เพราะมักจะร่ำเรียนมากับตำรานีโอลิบอยู่แล้ว ยิ่งทำให้อุดมการณ์ดั้งเดิมของอนาคตใหม่กับก้าวไกลเจือจางไปอีก
5. สรุปเลยกลายเป็นว่า พรรคประชาชนกำลังเดินเกมคนขายไอติมบนชายหาด พยายามพาตัวเองเข้าตรงกลาง เพื่อดึงลูกค้ากลางชายหาด แต่ยิ่งคุณลู่เข้ากลาง คุณก็ยิ่งเสียอุดมการณ์และตัวตนไปเท่านั้น
6. ในอังกฤษมีบทเรียนสำหรับพรรคลู่กลางแล้ว คือสองพรรคใหญ่ทั้งเลเบอร์และคอนเซอร์เวทิฟ ลู่เข้ากลางทั้งคู่ แต่คะแนนนิยมตกต่ำจนตอนนี้จะกลายเป็นพรรคอันดับ 3 และ 4 ของประเทศแล้ว
----------
ส่วนตัวมองว่าชัยชนะของโซห์รานน่าจะปลุกให้แกนนำส้มตื่นมาได้บ้าง ใจอยากให้ส้มจริงจังเรื่องสแกมเมอร์ต่อ แต่ต้องไม่ลืมรากเหง้าตัวเองที่จะมาแก้ปัญหาโครงสร้าง ปัญหาของประเทศนี้ไม่ได้มีแค่สแกมเมอร์ ระบบราชการที่ล้าหลัง นายทุนผูกขาดที่คอยยึดรัฐ (และจ่ายภาษีน้อย) การฮั้วกันของนายทุนกับราชการ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม แนวคิดเกลียดชังต่างด้าว เหล่านี้คือปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งนั้น
แต่ใด ๆ ถ้าพรรคยังยืนยันจะเดินทางสายกลางต่อ ก็อาจจะชนะเลือกตั้งแหละ แต่ความเซ็กซี่ของพรรคอาจจะหาย พรรคส้มอาจจะกลายเป็นแค่ตัวเลือกที่แย่น้อยที่สุด ไม่ใช่ตัวเลือกแห่งความหวังเหมือนโซห์รานและพรรคก้าวไกลสมัยก่อน
ส่วนอีกพรรคที่เราเคยเลือก ถ้ายังอยู่แต่ในเอคโค่แชมแบก ก็เตรียมซบเซาไปยาว ๆ
https://www.facebook.com/thanakorn.praiwan/posts/10102514606365851