Hakim Pongtigor
20 hours ago
·
รีวิว วัยเด็ก
วัยเด็กผมอยู่ในหมู่บ้านที่เข้าป่าลึก ทั้งหมู่บ้านมีรถจีบ 1 คัน ทีวีไม่มี ถ้าจะออกไปซื้อของก็จะลงขันค่าน้ำมันไปกับรถจีบลุยเขา ลุยคลอง 40 กิโลไปตลาดอำเภอสะบ้าย้อย
หมู่บ้านมีทีวีครั้งเเรกตอนปี 3 ตอนนี้เเหละเกราะเพชรเจ็ดสีติดงอมเเงม เเละเริ่มมีโทรศัพหยอดเหรียญ 1 ตู้ในหมู่บ้านตอน ป5
ส่วนตัวเป็นเด็กที่เป็นไข้หวัดใหญ่บ่อยมากแทบจะเดือนชนเดือน กว่าจะไปถึงโรงบาลในอำเภอโคตรลำบาก นับถือความพยายามของพ่อเเม่ในเวลานั้น
ตอนเข้าโรงเรียนประถม เรียน ตชด ถนนในหมู่บ้านเริ่มดีขึ้น เเต่พวกเราก็ยัฃวิ่ง 4 กิโลไปกลับโรงเรียนในช่วงเเรก พอช่วงประถมปลายเริ่มมีมอไซสลับกับเดินเท้าบ้างละ
พกเงินตั้งเเต่ 1 บาท มากสุด 8 บาทช่วงป 5 ป6
ถานะยากจนมาก จนติดนิสัยกินข้าวไม่กินกับจนตอนนี้ ถ้ากินกับข้าวก็เเยกชิ้นจนเล็กนิดเดียว ตอนเราเป็นเด็กเราไม่เคยรู้สึกหรือเข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าความจนคืออะไร ตอนพ่อเเม่บอกว่าซื้อของเล่นไม่ได้เราไม่มีเงิน มันก็เเค่งงว่าทำไมไม่ได้ ชีวิตก็มีความสุข หัวเราะเฮฮาสนุกสนานทั่วไป
มาทำความเข้าใจมากขึ้นว่าความรู้สึกของพ่อเเม่คืออะไรก็ตอนที่เราซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้ลูกเราเองเมื่อรองเท้าลูกมันเริ่มคับ ย้อนนึกไปที่เราในวัยเด็กหัวรองเท้าขาด บางช่วงเลือดไหลซิกหลังส้นเท้า เราก็เล่นบอลปกติของเราซักพักพ่อเเม่ก็ซื้อคู่ใหม่ให้เราจนได้ทันที ไม่ก็มีคู่อื่นจากพี่มาใส่ อ้อตอนนั้นคือความจนที่พ่อเเม่พูดถึง
ประสบการที่ดีสุดคงเป็นช่วงพ่อพาแม่กลับไปเยี่ยมยายที่ยะลา เราได้เล่นเก้าอี้โยก กับเหล็กสไลดเดอร์ ครั้งสองครั้งที่พรุบาโก สวนขวัญเมือง
อีกครั้งตอนไปส่งป้าไปสนามบินทำฮัจ ได้ขึ้นบันใดเลื่อน เเละดูเครื่องบิน จำได้ว่ากลัวบันใดเลื่อน เพราะเกือบหัวทิ่มเพราะกระโดด
อีกครั้งที่จำได้คือตาดีกาจัดทริปพาไปสวนสัตว์สงขลา เปนการเที่ยวสุดเเพงในเวลานั้น
สุดท้ายก็จบ ป6 เข้าเรียนในเมืองยะลา ปรับตัวยากมาก อุปกรการเรียนใช้หนังสือของพี่ชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) พกเงินวันละ 15-20 บาท ถือว่าไม่ง่ายสำหรับพ่อเเม่ตอนนั้น
ชีวิตช่วงท้ายของวัยเด็กถือว่าหดหู่ที่สุดในชีวิต
ตอน ม1 ปิดเทอมใหญ่ ปลาย 28 มีนา 47 ช่วงเที่ยงคืน พ่อเคาะประตูบ้านกลับจากประชุมครูตาดีกา เรากำลังจะเปิดประตูให้ ได้ยินเสียงปืนดัง 8 นัด ตรงข้ามบ้านประตู ชอกแปปนึงก็เปิดประตูเห็นพ่อกลังล้มลงพร้อมเลือดต่อหน้าต่อตา คนยิงกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้าป่า แม่ก็ออกมาดูเเบบชอก เเม่บอกว่ามีหนังสือพิมเขียนถึงพ่อว่าโจรใต้เสียชีวิต
พวกเรากำพร้าพ่อ @น้องสาว ป6 น้องสาว ป2 น้องสาวอีกคน ป1 เเละน้องชายคนเล็กเพียง 1 ปี 8 เดือน
เป็นช่วงที่น้องสาวกำลังจะเข้าไปเรียนต่อมัธยมพอดี มีคนมาขอเลี้ยงดูเเยกพวกเราไปจากแม่ เเต่ป้ากับลุง ไปยอมเห็นพวกเราถูกเเยกจึงอาสารับเลี้ยงพวกเราร่วมกับเเม่ในหมู่บ้านเอง
ช่วงวันรายอ วันเด็ก วันพ่อ โคตรเหงาเลยสำหรับเด็กกำพร้า
เเม่ยังถูกคุกคามในนามอำนาจรัฐเป็นระลอกๆ โดยคนที่อ้างว่ามีอำนาจเชิญเเม่ไปสอบ ทั้งที่จริงๆไม่มีอำนาจนี้ บัดซบมาก
ยังสงสารน้องๆไม่หาย
ชีวิตผมผ่านช่วงมัธยมเเบบงงๆ ไม่เคยร้องให้ น่าจะเกิดจากความชอกตั้งเเต่เหนพ่อเสียชีวิต ก็ไม่ได้ร้ิองให้ มารักษาอาการก็ตอนจบปตรี
งง จนไม่มีความทรงจำอะไรมากมาย จน ม5 ม6 พอจะนึกอะไรออกมาบ้าง ชีวิตอ่านกาตูนไปเรื่อย มีพี่ชายคอยดูเเล
พอเราพอมีความรู้บ้างในตอนมหาลัย เราเข้าใจว่าโลกนี้ควรเป็นสวนสนุกของเด็กๆทุกคน มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี มีโอกาสทางการศึกษา เเละไม่ควรมีใครเป็นกำพร้าจากสงคราม
พาเด็กๆไปเล่น ไปเที่ยว วันเด็กกันครับ
สันติภาพจงมีเเด่ทุกคน
นอนฝันถึงพ่อหน้าตาไม่เปลี่ยน อายุ 38 เท่าเดิม
https://www.facebook.com/photo/?fbid=8968320379889951&set=a.279684418753634
รีวิว วัยเด็ก
วัยเด็กผมอยู่ในหมู่บ้านที่เข้าป่าลึก ทั้งหมู่บ้านมีรถจีบ 1 คัน ทีวีไม่มี ถ้าจะออกไปซื้อของก็จะลงขันค่าน้ำมันไปกับรถจีบลุยเขา ลุยคลอง 40 กิโลไปตลาดอำเภอสะบ้าย้อย
หมู่บ้านมีทีวีครั้งเเรกตอนปี 3 ตอนนี้เเหละเกราะเพชรเจ็ดสีติดงอมเเงม เเละเริ่มมีโทรศัพหยอดเหรียญ 1 ตู้ในหมู่บ้านตอน ป5
ส่วนตัวเป็นเด็กที่เป็นไข้หวัดใหญ่บ่อยมากแทบจะเดือนชนเดือน กว่าจะไปถึงโรงบาลในอำเภอโคตรลำบาก นับถือความพยายามของพ่อเเม่ในเวลานั้น
ตอนเข้าโรงเรียนประถม เรียน ตชด ถนนในหมู่บ้านเริ่มดีขึ้น เเต่พวกเราก็ยัฃวิ่ง 4 กิโลไปกลับโรงเรียนในช่วงเเรก พอช่วงประถมปลายเริ่มมีมอไซสลับกับเดินเท้าบ้างละ
พกเงินตั้งเเต่ 1 บาท มากสุด 8 บาทช่วงป 5 ป6
ถานะยากจนมาก จนติดนิสัยกินข้าวไม่กินกับจนตอนนี้ ถ้ากินกับข้าวก็เเยกชิ้นจนเล็กนิดเดียว ตอนเราเป็นเด็กเราไม่เคยรู้สึกหรือเข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าความจนคืออะไร ตอนพ่อเเม่บอกว่าซื้อของเล่นไม่ได้เราไม่มีเงิน มันก็เเค่งงว่าทำไมไม่ได้ ชีวิตก็มีความสุข หัวเราะเฮฮาสนุกสนานทั่วไป
มาทำความเข้าใจมากขึ้นว่าความรู้สึกของพ่อเเม่คืออะไรก็ตอนที่เราซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้ลูกเราเองเมื่อรองเท้าลูกมันเริ่มคับ ย้อนนึกไปที่เราในวัยเด็กหัวรองเท้าขาด บางช่วงเลือดไหลซิกหลังส้นเท้า เราก็เล่นบอลปกติของเราซักพักพ่อเเม่ก็ซื้อคู่ใหม่ให้เราจนได้ทันที ไม่ก็มีคู่อื่นจากพี่มาใส่ อ้อตอนนั้นคือความจนที่พ่อเเม่พูดถึง
ประสบการที่ดีสุดคงเป็นช่วงพ่อพาแม่กลับไปเยี่ยมยายที่ยะลา เราได้เล่นเก้าอี้โยก กับเหล็กสไลดเดอร์ ครั้งสองครั้งที่พรุบาโก สวนขวัญเมือง
อีกครั้งตอนไปส่งป้าไปสนามบินทำฮัจ ได้ขึ้นบันใดเลื่อน เเละดูเครื่องบิน จำได้ว่ากลัวบันใดเลื่อน เพราะเกือบหัวทิ่มเพราะกระโดด
อีกครั้งที่จำได้คือตาดีกาจัดทริปพาไปสวนสัตว์สงขลา เปนการเที่ยวสุดเเพงในเวลานั้น
สุดท้ายก็จบ ป6 เข้าเรียนในเมืองยะลา ปรับตัวยากมาก อุปกรการเรียนใช้หนังสือของพี่ชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) พกเงินวันละ 15-20 บาท ถือว่าไม่ง่ายสำหรับพ่อเเม่ตอนนั้น
ชีวิตช่วงท้ายของวัยเด็กถือว่าหดหู่ที่สุดในชีวิต
ตอน ม1 ปิดเทอมใหญ่ ปลาย 28 มีนา 47 ช่วงเที่ยงคืน พ่อเคาะประตูบ้านกลับจากประชุมครูตาดีกา เรากำลังจะเปิดประตูให้ ได้ยินเสียงปืนดัง 8 นัด ตรงข้ามบ้านประตู ชอกแปปนึงก็เปิดประตูเห็นพ่อกลังล้มลงพร้อมเลือดต่อหน้าต่อตา คนยิงกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้าป่า แม่ก็ออกมาดูเเบบชอก เเม่บอกว่ามีหนังสือพิมเขียนถึงพ่อว่าโจรใต้เสียชีวิต
พวกเรากำพร้าพ่อ @น้องสาว ป6 น้องสาว ป2 น้องสาวอีกคน ป1 เเละน้องชายคนเล็กเพียง 1 ปี 8 เดือน
เป็นช่วงที่น้องสาวกำลังจะเข้าไปเรียนต่อมัธยมพอดี มีคนมาขอเลี้ยงดูเเยกพวกเราไปจากแม่ เเต่ป้ากับลุง ไปยอมเห็นพวกเราถูกเเยกจึงอาสารับเลี้ยงพวกเราร่วมกับเเม่ในหมู่บ้านเอง
ช่วงวันรายอ วันเด็ก วันพ่อ โคตรเหงาเลยสำหรับเด็กกำพร้า
เเม่ยังถูกคุกคามในนามอำนาจรัฐเป็นระลอกๆ โดยคนที่อ้างว่ามีอำนาจเชิญเเม่ไปสอบ ทั้งที่จริงๆไม่มีอำนาจนี้ บัดซบมาก
ยังสงสารน้องๆไม่หาย
ชีวิตผมผ่านช่วงมัธยมเเบบงงๆ ไม่เคยร้องให้ น่าจะเกิดจากความชอกตั้งเเต่เหนพ่อเสียชีวิต ก็ไม่ได้ร้ิองให้ มารักษาอาการก็ตอนจบปตรี
งง จนไม่มีความทรงจำอะไรมากมาย จน ม5 ม6 พอจะนึกอะไรออกมาบ้าง ชีวิตอ่านกาตูนไปเรื่อย มีพี่ชายคอยดูเเล
พอเราพอมีความรู้บ้างในตอนมหาลัย เราเข้าใจว่าโลกนี้ควรเป็นสวนสนุกของเด็กๆทุกคน มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี มีโอกาสทางการศึกษา เเละไม่ควรมีใครเป็นกำพร้าจากสงคราม
พาเด็กๆไปเล่น ไปเที่ยว วันเด็กกันครับ
สันติภาพจงมีเเด่ทุกคน
นอนฝันถึงพ่อหน้าตาไม่เปลี่ยน อายุ 38 เท่าเดิม
https://www.facebook.com/photo/?fbid=8968320379889951&set=a.279684418753634
.....