@khajochi
- Temu แพลตฟอร์มจีน ประกาศเปิดตัวในประเทศไทย ทำหน้าเว็บภาษาไทย ยิง Ads โปรโมทตูมตามในไทย (OMG 1)
- Temu เคยบุกตลาดหลายประเทศ ตอนบุกอเมริกา ทำธุรกิจในประเทศปั่นป่วน เจ๊งกันไปเพียบ
- หลายฝ่ายกลัวธุรกิจไทยเจ๊ง สินค้าจีนทะลัก สอบถามไปสรรพากรว่าจัดการ Temu ยังไง ?
- สรรพากรบอก Temu มาเปิดไทยก็จริง แต่ไม่ได้จดทะเบียนในไทย เลยไม่ต้องเสียภาษี (OMG 2)
- ไม่ใช่แค่ไม่ต้องเสียภาษี แต่ยังไม่จดทะเบียนในไทยซะอีก แต่โปรโมทหนักมาก
- นักข่าวไปถามคนที่น่าต้องเข้ามาจัดการเรื่องนี้คนแรก คือนายภูมิธรรม รมต.กระทรวงพาณิชย์ ว่าจะจัดการยังไง
- รมต. บอกไม่อยากตอบโต้ทางจีน เพราะกลัวเดี๋ยวกระทบการส่งออก (OMG 3)
- คุณสุทธิชัย หยุ่น บอกฟังคำตอบของรมต.พาณิชย์ ก็น่าจะทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นมาก ว่าทำไมป่านนี้รัฐบาลถึงยังไม่จัดการธุรกิจจีน ที่มาบุกตลาด พังตลาดไทยอย่างหนักในตอนนี้
ไม่รู้ว่าจะ OMG กับอะไรดี แต่ตอนนี้คือ OMG กับแนวคิดอุ้มธุรกิจจีนของรัฐบาลมากๆ
ข้อความนี้บอกอะไร ๆ เกี่ยวกับรัฐบาลมากเลยทีเดียว pic.twitter.com/zF6npJoQis
— suthichai (@suthichai) August 10, 2024
อ้าววววววว จีนเป็นพ่อเหรอไงครับ
— โจที่เพื่อนชอบเรียกผิดว่าโจ้ (@janthawoot) August 10, 2024
เมกาปากดีใส่เขา แต่กับจีนเงียบ🙂↔️ pic.twitter.com/myaRdz3gcT
"ผมว่าเราเป็นประเทศที่มีเอกราช" https://t.co/p6c3d7GxEb pic.twitter.com/N5TvSiGmUL
— dei (@webdevxp) August 10, 2024
#พรรคประชาชน #temu เค้าอยากเข้ามาก็เข้ามา เรามีหน้าที่ป้องกันแต่ทำไรไม่ได้ สรุป เราอยู่ ประเทศ ไทยไหมเริ่มงง ตอน #ศาลรัฐธรรมนูญ ก็บอก ตปทไม่มี มารยาท #สรรพากร #เท้งณัฐพงษ์ pic.twitter.com/ku2nUOqu7l
— Kangkumarn (@pang_punn) August 10, 2024
สรรพากรรับ Temu ไม่ได้จดทะเบียนในไทยไม่เข้าข่ายเสียภาษี 'ภูมิธรรม' ไม่อยากตอบโต้จีน หวั่นกระทบส่งออก
เรื่องเล่าเช้านี้
Aug 10, 2024
#เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์
วานนี้ 9 สิงหาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงปัญหาการทุ่มตลาดของสินค้าจีนว่า ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ นำโดยปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นแกนนำประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร,กรมสรรพากร ผู้ดูแลการนำเข้าและภาษี, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ผู้ดูแลเรื่องแพลตฟอร์มต่างๆ, กระทรวงอุตสาหกรรมผู้ดูแลเรื่องมาตรฐานสินค้า และกระทรวงสาธารณสุข ผู้ดูแลมาตรฐานอย. เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการนำเข้าสินค้า ไม่ได้มาตรฐานและราคาถูกซึ่งทะลักเข้ามาในประเทศจำนวนมาก ผ่าน ทาง E- Commerce และ ด่านต่างๆ เพื่อดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทุ่มตลาดหรือไม่ กฎระเบียบต่างๆเป็นอย่างไร รวมถึงเกณฑ์ของ WTO
โดยเน้นแนวทางปกป้องสินค้าไทยบนพื้นฐานของกฎหมายที่มีอยู่ ไม่เน้นเรื่องการตอบโต้ เพราะยอมรับว่าอาจจะกระทบกับความสัมพันธ์การค้าระหว่างประเทศซึ่งไทยก็ส่งออกสินค้าเกษตรให้จีนอยู่ อย่างไรก็ตามในส่วนตัวได้หารือกับทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งทางทูตจีนได้แสดงความกังวลเช่นกันพร้อมที่จะหาแนวทางร่วมกันต่อไป พร้อมระบุการที่จีนจะบุกไทยหรือไทยจะบุกจีนถือเป็นแนวโน้มการค้าระหว่างประเทศในโลกยุคใหม่ จีนมีสิทธิ์จะเข้ามา ไทยก็มีหน้าที่ที่จะปกป้องตัวเอง หากลุกขึ้นมาตอบโต้ ห้ามจีนทำการค้า ทางจีนเองก็อาจจะห้ามไทยได้ด้วยเหมือนกัน การค้าระหว่างประเทศก็จะไม่เกิดขึ้น
ด้าน นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรได้ส่งอีเมล์ไปยังแพลตฟอร์ม Temu เพื่อแจ้งให้ทราบว่าหากแพลตฟอร์ม Temu เข้าข่ายเกณฑ์ที่กำหนดที่จะต้องจ่ายภาษีของไทย ก็ต้องเข้ามาจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ไม่เปิดเผยว่าทางแพลตฟอร์ม Temu ตอบกลับหรือไม่อย่างไร
อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่ กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีได้จะต้องเป็นแพลตฟอร์มที่มาจดทะเบียนผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีอยู่ในระบบกว่า 180 ราย สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้กว่า 6000 ล้านบาท และต้องมีผู้ค้าของไทยมาทำการค้ากับแพลตฟอร์มนั้น และมีการเก็บค่าดำเนินการต่างๆเช่นค่าคอมมิชชั่น กรมสรรพากรก็จะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% กับผู้ค้าไทย แต่ในส่วนแพลตฟอร์ม Temu ยังไม่เข้าข่ายดังกล่าว คือไม่ได้มีการตั้งถิ่นฐานสำนักงานในไทย และไม่ได้ทำการค้ากับพ่อค้าแม่ขายในไทย ซึ่งแม้จะพบว่ามีผู้ซื้อสินค้าจาก Temu ในปริมาณมากหรือมีความถี่ ก็ไม่สามารถไปตั้งข้อสันนิษฐานได้ว่าซื้อมาเพื่อขายต่อ
วานนี้ 9 สิงหาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงปัญหาการทุ่มตลาดของสินค้าจีนว่า ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ นำโดยปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นแกนนำประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร,กรมสรรพากร ผู้ดูแลการนำเข้าและภาษี, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ผู้ดูแลเรื่องแพลตฟอร์มต่างๆ, กระทรวงอุตสาหกรรมผู้ดูแลเรื่องมาตรฐานสินค้า และกระทรวงสาธารณสุข ผู้ดูแลมาตรฐานอย. เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการนำเข้าสินค้า ไม่ได้มาตรฐานและราคาถูกซึ่งทะลักเข้ามาในประเทศจำนวนมาก ผ่าน ทาง E- Commerce และ ด่านต่างๆ เพื่อดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทุ่มตลาดหรือไม่ กฎระเบียบต่างๆเป็นอย่างไร รวมถึงเกณฑ์ของ WTO
โดยเน้นแนวทางปกป้องสินค้าไทยบนพื้นฐานของกฎหมายที่มีอยู่ ไม่เน้นเรื่องการตอบโต้ เพราะยอมรับว่าอาจจะกระทบกับความสัมพันธ์การค้าระหว่างประเทศซึ่งไทยก็ส่งออกสินค้าเกษตรให้จีนอยู่ อย่างไรก็ตามในส่วนตัวได้หารือกับทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งทางทูตจีนได้แสดงความกังวลเช่นกันพร้อมที่จะหาแนวทางร่วมกันต่อไป พร้อมระบุการที่จีนจะบุกไทยหรือไทยจะบุกจีนถือเป็นแนวโน้มการค้าระหว่างประเทศในโลกยุคใหม่ จีนมีสิทธิ์จะเข้ามา ไทยก็มีหน้าที่ที่จะปกป้องตัวเอง หากลุกขึ้นมาตอบโต้ ห้ามจีนทำการค้า ทางจีนเองก็อาจจะห้ามไทยได้ด้วยเหมือนกัน การค้าระหว่างประเทศก็จะไม่เกิดขึ้น
ด้าน นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรได้ส่งอีเมล์ไปยังแพลตฟอร์ม Temu เพื่อแจ้งให้ทราบว่าหากแพลตฟอร์ม Temu เข้าข่ายเกณฑ์ที่กำหนดที่จะต้องจ่ายภาษีของไทย ก็ต้องเข้ามาจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ไม่เปิดเผยว่าทางแพลตฟอร์ม Temu ตอบกลับหรือไม่อย่างไร
อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่ กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีได้จะต้องเป็นแพลตฟอร์มที่มาจดทะเบียนผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีอยู่ในระบบกว่า 180 ราย สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้กว่า 6000 ล้านบาท และต้องมีผู้ค้าของไทยมาทำการค้ากับแพลตฟอร์มนั้น และมีการเก็บค่าดำเนินการต่างๆเช่นค่าคอมมิชชั่น กรมสรรพากรก็จะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% กับผู้ค้าไทย แต่ในส่วนแพลตฟอร์ม Temu ยังไม่เข้าข่ายดังกล่าว คือไม่ได้มีการตั้งถิ่นฐานสำนักงานในไทย และไม่ได้ทำการค้ากับพ่อค้าแม่ขายในไทย ซึ่งแม้จะพบว่ามีผู้ซื้อสินค้าจาก Temu ในปริมาณมากหรือมีความถี่ ก็ไม่สามารถไปตั้งข้อสันนิษฐานได้ว่าซื้อมาเพื่อขายต่อ