วันเสาร์, พฤศจิกายน 15, 2568

กมธ. แก้รัฐธรรมนูญเคาะสูตรเลือกทีมเขียนรัฐธรรมนูญใหม่✍️ . ❌ไม่ให้ประชาชนเลือกตั้ง ใช้ระบบสมัคร-มีคนรับรอง- เขียนแสดงวิสัยทัศน์ และส่งรัฐสภาเลือกใช้สูตร 20 หยิบ 1 สมาชิกรัฐสภา 20 คน เลือกผู้ร่างได้ 1 คน







https://x.com/iLawclub/status/1989305613197914526



iLaw
9 hours ago
·
กมธ.แก้รัฐธรรมนูญฯ เสียงข้างมากเสนอที่มาผู้ยกร่าง “เลี่ยง” ไม่ให้ประชาชนเลือกตั้ง ใช้ระบบสมัคร-มีคนรับรอง- เขียนแสดงวิสัยทัศน์ และส่งรัฐสภาเลือก

14 พฤศจิกายน 2568 คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา (กมธ.แก้รัฐธรรมนูญฯ) แถลงความคืบหน้าของการพิจารณาว่า ที่ประชุมได้พิจารณาวาระแก้ไขมาตรา 256/2 ซึ่งกำหนดที่มาของผู้สมัครรับการเลือกเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ โดยกมธ.แก้รัฐธรรมนูญฯ เห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงที่มาของกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ) จากการเลือกตั้งโดยประชาชนและให้รัฐสภาเลือก เป็นให้มาจากการสมัครของประชาชนผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยผู้สมัครต้องมีประชาชนรับรองอย่างน้อย 100 รายชื่อ พร้อมกับต้องมีเอกสารแสดงวิสัยทัศน์และอุดมการณ์ความยาว 1 หน้ากระดาษ A4 ทั้งนี้มีข้อกำหนดว่าเมื่อรับสมัครแล้วจะนำข้อมูลของผู้สมัครเผยแพร่ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบประวัติและอุดมการณ์ จากนั้นให้ส่งรายชื่อดังกล่าวให้รัฐสภาคัดเลือก

อ่านสรุปความคืบหน้าได้ที่: https://www.ilaw.or.th/articles/55893

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 พฤจิกายน 2568 นรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และพนิดา มงคลสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความและภาพผ่านแพลตฟอร์ม X (Twitter เดิม) โดยระบุว่า ที่ประชุมกมธ.แก้รัฐธรรมนูญฯ มีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงที่มาของกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 256/2 ของร่างแก้รัฐธรรมนูญที่ใช้ร่างฉบับพรรคประชาชนเป็นร่างในการพิจารณา ด้วยมติให้คงไว้ตามร่างพรรคประชาชน 8 เสียง เห็นควรให้แก้ไข 14 เสียง และงดออกเสียง 12 เสียง โดยทั้งสองระบุตรงกันว่า เหตุผลหลักที่กรรมาธิการเสียงข้างมากมีมติให้แก้ไขที่มาดังกล่าว มาจากความกังวลที่หากมีการเลือกตั้ง ก็อาจจะทำให้ขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งหากข้อเสนอนี้ได้รับเสียงโหวตเห็นชอบจากรัฐสภาในการพิจารณารายมาตรา วาระสอง หมายความว่า จะเป็นการปิดประตูไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านการเข้าคูหาไปเลือกตั้ง แต่ปรับเปลี่ยนเป็นการรับรองและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกเป็น กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญแทน แต่ว่าหากมีข้อเสนออื่นๆ ที่เปิดทางให้นำไปสู่การเข้าคูหาเลือกตั้งโดยประชาชน ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงเชิงเนื้อหาได้จนกว่ารัฐสภาจะโหวตในวาระพิจารณารายมาตรา

ทั้งนี้ เอกพร รักความสุข สส. พรรคเพื่อไทยในฐานะโฆษก กมธ.แก้รัฐธรรมนูญฯ ระบุว่า การพิจารณากำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ตามข้อเสนอของพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่เสนอการกำหนดให้ผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญจะต้องถูกจำกัดการเข้าสู่ตำแหน่งการเมือง 3 ปี แต่มีข้อเสนอจากกมธ.คนอื่นว่า ควรให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองตลอดชีวิต เพื่อให้เกิดความสบายใจว่าผู้ร่างรัฐธรรมนูญนั้นจะไม่มีผลประโยชน์ใด

ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 18/2568 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ระบุว่า รัฐสภามีอำนาจริเริ่มหรือแสดงความต้องการเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติให้ความเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่เสียก่อน แต่คำวินิจฉัยดังกล่าวได้ "แถม" ข้อความว่า "รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง" โดยมิได้อธิบายเพิ่มเติมกระทั่งในคำวินิจฉัยฉบับเต็ม

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1255567266616890&set=a.625664036273886
https://x.com/iLawclub/status/1989305613197914526