อุ๊บ They did it again. ขออนุญาตดัดจริตใช้สำนวนฝรั่งอีกที ต่อความมั่วซั่ว ชุ่ยซ้ำซากของ กกต.ไทย
ในการจัดเลือกตั้งล่วงหน้าและนอกภูมิลำเนา เมื่อ ๑๗ มีนา ๖๒ ทั้งที่เป็นประวัติการณ์ในครั้งนี้ว่า
มีผู้ออกไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนกันล้นหลาม
ตามรายงานเท่าที่ได้สัมผัสทางหน้าทวิตเตอร์
ที่เขตบางกะปิ @Rajprasong_News เผย “อะเมซซิ่ง มีคนไปออกเสียง
๖ หมื่น ก่อน ๕ โมงเย็นวันนี้ ครั้งที่แล้วโหวตสองวันแค่ ๓ หมื่น” ที่เชียงใหม่ @FaiSuluck แจ้งว่าอะเมซซิ่งเช่นกัน “คนแน่นมาก ๘๐%
อายุในเกณฑ์ ๒๐-๓๐ ปี”
ที่ตราด หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายงานว่า
เมื่อเวลา ๑๗.๐๐ น. มีผู้ไปใช้สิทธิ์ถึง ๘๖.๗๕% ตั้งเป้าว่าในการเลือกตั้งวันที่
๒๔ มีนาจะมีคนออกไปโหวตถึง ๘๐% ขณะที่ในท้องที่อื่นๆ
ก็มีรายงานอย่าง ‘sensational’ ถึงความตื่นตัวผู้ใช้สิทธิ
ที่ปราจีนบุรี นักเรียนหญิงชั้น ม.๖ วัย ๑๘
ปีซึ่งได้ใช้สิทธิ์ครั้งแรก กระหืดกระหอบไปลงคะแนนเป็นคนสุดท้ายก่อนปิดคูหา
เพราะวันนั้นต้องทำการสอบวิชาสามัญ ๙ วิชา ส่วนที่บางเขนชายวัย ๔๓
ปีผู้ไปใช้สิทธิ์คนหนึ่งต้องใส่วิกไปออกเสียง
เนื่องเพราะเขามีข้อหาฉ้อโกงติดตัวอยู่ ๒๐ คดี
ซึ่งทางการตำรวจรู้เบาะแสดีจึงจัดกำลังคอยดักจับที่คูหาเลือกตั้ง
ชายคนนั้นวิ่งหนีไปกระโดดลงน้ำในสระวัดพระศรีฯ เสียชีวิต
ตำรวจเอาศพขึ้นมาได้ภายหลัง
(https://hilight.kapook.com/view/185388, https://www.matichon.co.th/region/news_1411407 และ https://www.matichon.co.th/region/news_1411419)
เป็นปรากฏการณ์อัน ‘ซึ้ง’ ชนิดที่ prajak kong @bkksnow ทวี้ตว่า “เห็นคนหนุ่มสาวตื่นตัวออกมาโหวต
เห็นคนยอมทนยืนตากแดดเข้าคิวเป็นชั่วโมงๆ เพื่อหย่อนบัตร –
เป็นวันที่เราได้เห็นความสวยงามของประชาธิปไตย”
จนอยากจะยกประโยชน์ให้จำเลย กกต.อย่างที่ ‘ยิ่งชีพ (เป๋า)’ เขียนไว้บนทวิตเตอร์ของเขา
“การแจกบัตรเลือกตั้งผิดมากมายในวัน
#เลือกตั้งล่วงหน้า
ไม่ได้มาจากการจงใจทุจริตในระดับนโยบาย แต่เป็นความห่วย รีบร้อน และอีโก้สูง
ของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ ‘ส่วนน้อย’ เท่านั้น ที่ #กกต
ระดับบน หละหลวมในการอบรม มันจึงเกิดขึ้น”
แต่จากท่าทีและท่วงทำนองแบบ
‘ปัดสวะพ้นตัว’ ของ กกต. บางคน คงต้องก่นด่าและสมน้ำหน้าที่องค์กรมัวหมองกันแล้ว ‘ทั้งข้อง’ ดูจากคำพูดของรองเลขาธิการนั่นปะไร
ตามรายงานของ จส.๑๐๐ “กกต. ยอมรับเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต
มีรายงานกรรมการประจำหน่วยหยิบบัตรให้ผิดเขตหลายพื้นที่
แต่เป็นหน้าที่ของประชาชนที่ต้องรักษาสิทธิ์ของตนเอง”
นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล แนะให้ผู้ใช้สิทธิ์ต้องคอยระแวงระวังกันเอง แทนที่จะเป็นในทางตรงข้ามที่ถูกที่ควร
ทางการต้องเป็นฝ่ายเตรียมการและดูแลไม่ให้ประชาชนสับสนผิดพลาดได้
มีหลักนิติรัฐ
นิติธรรมที่ไหนในโลกของมนุษยชนที่เจริญแล้วบอกว่า
ผลอันเกิดจากการกระทำผิดพลาดของรัฐ “อนุมานว่าได้ใช้สิทธิ์ไปแล้ว
ไม่สามารถดึงบัตรกลับมาได้” แน่นอนว่าเปิดหีบเอาบัตรเสียออกมาไม่ได้
แต่ต้องแก้ไขด้วยการให้ลงคะแนนในเขตนั้นใหม่ด้วยบัตรดีจึงจะถูกต้อง
ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งไทยยุค
คสช.จัดเลือกตั้ง โดยเป็นผู้กำกับควบคุมเองและลงแข่งขันด้วยตนเองนี่
ต้องเป็นผู้มีความสามารถมากมายเลยทีเดียว “เมื่อรับบัตรเลือกตั้งแล้ว
ตรวจสอบด้วยว่าใช่เขตของบ้านเราหรือไม่ หัวบัตรจะมีเขียนไว้
ถ้าผิดให้แจ้งเจ้าหน้าที่ขอเปลี่ยน” ดังที่ ‘ไอลอว์’ ให้คำแนะนำไว้
เขายังแนะอีกว่าไม่เฉพาะตรวจตราการลงคะแนนของตนเองให้ถูกต้องตามระเบียบ
อย่าให้คนกำกับดิ้นได้เท่านั้น ควรทำอย่างฝรั่ง “See something, Say
something.” เห็นอะไรไม่ชอบมาพากลให้รายงานทันที ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่รู้ไม่ชี้
ให้แจ้งไปที่ไอลอว์
ปรากฏมีพลเมืองผู้หวงแหนสิทธิของตนมากหลายราย
ที่แจ้งวิธีการโกงและเอาเปรียบต่างๆ ของพรรคการเมืองที่สนับสนุน คสช.
ไว้ทางโซเชียลมีเดีย ดังเช่นมีคนส่งรูปไปให้เพจ ‘CSI LA’ เป็นทหารเกณฑ์เข้าแถวรอหย่อนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่พิษณุโลก
“นอกจากนี้ยังมีแช็ตอ้างว่า
เป็นการพูดคุยกันระหว่างทหารเกณฑ์คนหนึ่งกับเพื่อน บอกว่า ไปเลือกตั้ง บังคับให้กาเบอร์ 5 ไม่งั้นจะงดพักกลับบ้าน
เดือน เม.ษ.ก็ไม่ได้กลับบ้าน” จนมีการเรียกร้องให้
กกต.เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเขตเลือกตั้งอำเภอวังทองนั้น
วันเดียวกันปรากฏข่าวคลิปฉาวอีกรายกระหึ่มทางสื่อสังคมเช่นกัน
ถ่ายจากการปราศรัยหาเสียงในพื้นที่เดชอุดม จังหวัดอุบล ของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ
ผู้โพสต์คลิประบุว่า “เมื่อจบการปราศรัยบุคคลในรูปที่เราวงกลมไว้
ได้เดินเข้าแถวมารับเงิน”
คลิปดังกล่าวความยาว ๔๓ วินาฑี
ที่ผู้โพสต์บอกว่า “อันนี้คลิปแรกนะคะ (๒) จากนั้นได้ทวิตคลิปที่สอง
ความยาว ๕๙ วินาที ระบุข้อความว่า “อันนี้คลิปที่ ๒ นะคะ
ตอนท้ายคลิปจะมีลุงเสื้อเขียวพูดสำทับเรื่องเบอร์ไว้ชัดเจนเลยคะ (๓)
และสุดท้ายผู้ใช้ทวิตเตอร์ว่า ‘ท้องฟ้าของเค้า’ ได้โพสต์รูปส่งท้ายและระบุข้อความในรูปถ่ายไว้ว่า
“คนนี้คือผู้จ่ายเงิน แล้วคือเขาติดตามไปหาเสียงพร้อมกับผู้สมัครทุกที่เลยค่ะ”
แต่แล้วปฏิกิริยาจากเจ้าหน้าที่ กกต. ยิ่งกว่า ‘เหลือเชื่อ’
พ.ต.ท.เรืองยศ มีแก้ว ผอ.กกต.อุบลราชธานี บอก
“ได้ทำการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปได้
ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานอีกสักระยะเพื่อความเป็นธรรม” ให้กับใครไม่ชัดแจ้งนักละ
แต่แน่ๆ ทั่นรองเลขาฯ แถว่า “ยังไม่กล้าระบุให้ชัดเจนว่าคลิปที่อ้างว่ามีการแจกเงินนั้นเป็นของพรรคใด”
เจริญพวง