วันอังคาร, พฤศจิกายน 11, 2568

จีนกำลังจมลงในวังวนเศรษฐกิจแบบ "Deflation" ร้ายแรงกว่าที่คิด! เกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจจีน?

https://www.youtube.com/watch?v=9Rnwg-gUsIU

Universal Tales Hub

Premiered 19 hours ago

In this eye-opening video, we delve into China's deflationary spiral and its devastating effects on the country's economy. While official numbers may suggest a mild slowdown, the reality on the ground is far more severe. We explore how falling prices are affecting everyday consumers like Yang Zhifeng, who finds herself caught in a vicious cycle of discount wars. From major price drops across sectors to the widening losses and thinning margins of companies, the impact is profound. Join us as we analyze the global implications, the government's response, and the potential long-term consequences for China's economic growth and its position on the world stage. Will China be able to break free from this deflationary trap? Watch to find out.
.....



The BIG Secret ·
18 hours ago
·
จีนกำลังจมลงในวังวนเศรษฐกิจแบบ "Deflation" ร้ายแรงกว่าที่คิด!
เกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจจีน?
จีนกำลังเผชิญกับปัญหา "ดีเฟลชัน" (Deflation) หรือภาวะราคาสินค้าและบริการตกต่อำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยร้ายแรงของเศรษฐกิจ!
การวิเคราะห์จากบลูมเบิร์กพบว่า ความเป็นจริงร้ายแรงกว่าตัวเลขราชการที่จีนประกาศออกมามาก โดยเฉพาะสินค้าที่คนทั่วไปซื้อในชีวิตประจำวัน ราคาร่วงหนักกว่าที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) บอกไว้
วงจรอุบาทว์ที่หยุดไม่ได้
รัฐบาลจีนเรียกสถานการณ์นี้ว่า "Involution" หรือการแข่งขันทำลายล้างตนเอง ซึ่งเกิดจาก:
บริษัทผลิตเกินความต้องการ → ทำสงครามราคา
• โรงงานและบริษัทต่างๆ ผลิตสินค้ามากเกินไป แต่คนไม่ซื้อ
• เลยต้องลดราคาแข่งกันอย่างดุเดือด จนกำไรหาย บริษัทขาดทุนกันเพียบ
• มากกว่า 25% ของบริษัทจดทะเบียนในจีนขาดทุนในครึ่งแรกของปี 2025 — สูงที่สุดในรอบ 25 ปี!
บริษัทขาดทุน → ลดเงินเดือน/ไล่คนออก
• แม้แต่อุตสาหกรรมที่เคยร้อนแรง อย่างเทคโนโลยีและพลังงานสะอาด ก็เริ่มลดพนักงาน
• เงินเดือนในภาคเอกชน (ซึ่งจ้างงานกว่า 80% ของแรงงานในเมือง) เติบโตช้าที่สุดในประวัติศาสตร์
• ในอุตสาหกรรมไอทีและการผลิต ค่าจ้างลดลงเป็นครั้งแรก
คนตัดรายจ่าย → ไม่กล้าใช้เงิน → ราคายิ่งตก
• ครัวเรือนจีนกลัวเศรษฐกิจ เลยเก็บเงินมากขึ้นถึง 110% ของ GDP — สูงสุดเท่าที่เคยมี!
• คนลดการใช้จ่าย → บริษัทขายของไม่ออก → ยิ่งต้องลดราคา → วนกลับไปที่ข้อ 1
เรื่องจริงจากคนจีนธรรมดา
ยาง จื่อเฟิง (24 ปี)
• จบมหาวิทยาลัย 2 ปีแล้ว แต่หางานดีๆ ไม่ได้
• เปิดร้านค็อกเทล แต่ต้องปิดใน 3 เดือน เพราะแพลตฟอร์มดิลิเวอรี่ขายดื่มราคาหลักเซ็นต์ แข่งไม่ได้
• งานที่เคยได้เดือนละ 28,000 บาท ตอนนี้เหลือแค่ 18,000 บาท
• กินมื้อละไม่เกิน 40 บาท จากแพลตฟอร์มเดียวกับที่ทำลายธุรกิจตัวเอง
"ฉันกลายเป็นผู้บริโภคที่ทำลายธุรกิจแบบของฉันเอง"
เอริกา เฉิน (40 ปี)
• เคยทำงานบริษัทอินเทอร์เน็ตใหญ่ เงินเดือนปีละ 9.6 ล้านบาท
• จ้างแม่บ้าน 3 คน ลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติ มีบ้านให้เช่า
• ถูกไล่ออกพร้อมทีมทั้งหมด สามีก็ตกงาน
• ไล่แม่บ้าน ย้ายลูกออกจากโรงเรียนนานาชาติ ทำงานเองทุกอย่าง
• หางานใหม่หลายเดือนไม่ได้ ต้องมาทำงานพาร์ทไทม์ ไลฟ์สด (แต่ก็ไม่มีคนดู)
"คนอาจบอกว่าของถูกลง แต่มันไม่เกี่ยวกับฉันแล้ว ฉันต้องตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมด"
กั๋ว ฟาง (38 ปี)
• เคยเอารายได้รวม 8 ล้านบาท/ปี ซื้อรองเท้าดีไซเนอร์ พักโรงแรม 5 ดาว
• หลังมีลูกและออกจากงาน หางานกลับเข้าไม่ได้ เพราะคนที่จะช่วยก็ถูกไล่ออกไปแล้ว
• สามีที่ทำงานอุตสาหกรรมรถยนต์กลัวเงินเดือนถูกปรับลง
• ตัดทริปท่องเที่ยว เริ่มดูราคาโรงแรมก่อนจอง — สิ่งที่ไม่เคยต้องทำมาก่อน
ผลกระทบต่อโลก
สินค้าจีนถูกมาก ส่งออกท่วมโลก
• กดดันราคาสินค้าในประเทศอื่นๆ
• สร้างความตึงเครียดทางการค้า
บริษัทต่างชาติก็รับผลกระทบ
• Apple, Starbucks, Volkswagen, Honda, L'Oréal, Shiseido, Uniqlo, Gucci — ยอดขายในจีนลดลงหนัก
IMF เตือน: อัตราเงินเฟ้อของจีนในปีนี้จะเฉลี่ย ศูนย์ — ต่ำเป็นอันดับ 2 จากเกือบ 200 ประเทศ!
ภัยเงียบที่อันตรายกว่าที่คิด
การวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กจาก 67 รายการสินค้าพบว่า:
• 51 รายการ ราคาลดลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
• ราคาวัตถุดิบอุตสาหกรรม เช่น โพลีซิลิคอน (ทำแผงโซลาร์เซลล์) ลดเหลือไม่ถึง 1 ใน 5 ของราคาสูงสุด
• เหล็กเส้นราคาต่ำสุดในรอบ 8 ปี
ดัชนีเฟ้อตามราคา GDP (GDP deflator) ลดลงติดต่อกัน 10 ไตรมาส — บอกว่าปัญหาหนักกว่าที่ CPI บอก
รัฐบาลจีนทำอะไร? เพียงพอหรือไม่?
รัฐบาลเริ่มตระหนักแล้ว:
• ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ออกมาระงับการแข่งขันที่รุนแรงและสงครามราคา
แต่นักเศรษฐศาสตร์บอกว่า มาตรการยังไม่พอ:
• รัฐบาลระวังเรื่องเงินเฟ้อมาก ไม่กล้าแจกเงินให้ประชาชนแบบจัดเต็ม
• ยังเน้นสนับสนุนอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ (AI, ชิปเซมิคอนดักเตอร์, พลังงานสะอาด)
• แต่ยังขาดมาตรการกระตุ้นการบริโภคขนาดใหญ่
ถ้าไม่แก้ทัน จีนจะเป็น "ญี่ปุ่นคนที่ 2" หรือเปล่า?
นักเศรษฐศาสตร์เตือน: ถ้าราคาตกต่ำต่อเนื่อง 3 ปี คนจะเชื่อว่าเงินเฟ้อจะไม่กลับมา และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ "ทศวรรษที่สูญเปล่า" เหมือนญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นติดกับดักดีเฟลชันมากกว่าทศวรรษ เพิ่งหลุดออกมาได้ในปีนี้ — และจีนอาจกำลังเดินตามรอย
บทสรุป
เศรษฐกิจจีนกำลังติดอยู่ในวังวนเสื่อมที่หยุดไม่ได้:
• บริษัทผลิตมากเกิน → ขาดทุน → ลดคน/ลดเงินเดือน → คนไม่กล้าใช้เงิน → ยอดขายตก → บริษัทยิ่งลดราคา → วนกลับไปเรื่อยๆ
สถานการณ์ร้ายแรงกว่าตัวเลขราชการที่เผยออกมา และถ้าไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่จริงจัง จีนอาจเข้าสู่ยุคซบเซาเศรษฐกิจยาวนานเหมือนญี่ปุ่น
และเมื่อเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกป่วยหนัก... ทั้งโลกก็ต้องรู้สึกไปด้วย
เพื่อนๆคิดว่าอย่างไร


https://www.facebook.com/photo?fbid=862036529695037&set=a.288606707038025