วันอังคาร, พฤศจิกายน 11, 2568

ท่ามกลางกระแส ‘ชาตินิยม–ทหารนิยม’ ที่ปะทุขึ้นพร้อมความขัดแย้งไทย–กัมพูชา สายชล สัตยานุรักษ์ ชวนขบคิดว่ากระแสเหล่านี้จะพาสังคมและการเมืองไทยไปทางไหนได้บ้าง


The101.world
13 hours ago
·
“แม้ว่าความรู้สึกและความคิดว่า 'ไม่ยอมเสียแผ่นดินไทยแม้แต่ตารางนิ้วเดียว' จะยังมีอยู่ไม่น้อย แต่คนไทยส่วนใหญ่น่าจะมีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและปัญหาอื่นๆ ในประเทศมากกว่า และย่อมตระหนักดีว่า การทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านจะนำมาซึ่งปัญหาภายในประเทศนานัปการ”
.
ท่ามกลางกระแส ‘ชาตินิยม–ทหารนิยม’ ที่ปะทุขึ้นพร้อมความขัดแย้งไทย–กัมพูชา สายชล สัตยานุรักษ์ ชวนขบคิดว่ากระแสเหล่านี้จะพาสังคมและการเมืองไทยไปทางไหนได้บ้าง
.
อ่านได้ที่ https://www.the101.world/rise-of-nationalism-and-militarism/
.
“ผู้เขียนเห็นว่าคนไทยมีประสบการณ์มามากแล้วว่า ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อน รวดเร็ว เต็มไปด้วยความผันผวน ความขัดแย้ง และความรุนแรง ทั้งภายในประเทศไทยและในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ-การเมืองในระบบโลก ผู้นำกองทัพของไทย (ที่อาจมีความรู้ความสามารถทางการทหาร รักชาติ และกล้าหาญ) หรือแม้แต่นักการเมืองรุ่นเก่าที่เคยประสบความสำเร็จสูงในอดีต ไม่มีความรู้ความสามารถอย่างเพียงพอที่จะเป็นผู้นำในการบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
.
“การเจรจาระหว่างสองประเทศที่มีกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้นำน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ทั้งนี้ ปัจจัยหลักของความขัดแย้งอาจจะเกิดจากการสร้างสถานการณ์เพื่อปลุกเร้าความรู้สึก ‘ชาตินิยม-ทหารนิยม’ ที่คนบางกลุ่มได้ประโยชน์ โดยที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการให้กองทัพไทยทำสงครามแย่งชิงดินแดนแต่อย่างใด”
.
“ในกรณีที่คนบางกลุ่ม โดยเฉพาะคนในบริเวณชายแดนต้องการให้ใช้กำลังทหารเข้าจัดการ ก็อาจจะเป็นเพราะต้องการให้เรื่อง ‘จบ’ เร็วๆ เท่านั้น ซึ่งถ้าการทำสัญญาสันติภาพระหว่างไทยกับกัมพูชาบรรลุผล ไม่ว่าจะมาจากแรงผลักดันของสมาคมธุรกิจต่างๆ ในประเทศ หรือมาจากแรงกดดันของมหาอำนาจต่อทั้งไทยและกัมพูชา อารมณ์ความรู้สึก ‘ชาตินิยม-ทหารนิยม’ ก็น่าจะลดลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะมีหลายฝ่ายพยายามปลุกเร้าหรือสร้างกระแสก็ตาม”
.
ภาพประกอบ: จิราภรณ์ บุญเย็น
 
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1377107200450749&set=a.523964959098315