
Puangthong Pawakapan
8 hours ago
·
กัมพูชาเดินหน้าเร็วมาก เป็นการรุกที่สำคัญ เขาต้องการพิสูจน์ให้ชาวโลกเห็นว่ากัมพูชาทำตามข้อตกลงหยุดยิง ไม่ว่าเมื่อคืนนี้ หลังเที่ยงคืน กัมพูชาจะละเมิดข้อตกลงจริงหรือไม่ แต่วันนี้เขาได้เริ่มเชิญ "ฝ่ายที่ 3" มาพิสูจน์ให้เห็นกับตนเอง ฉะนั้น หลังจากนี้ คู่พิพาทจะกล่าวหากันอย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีน้ำหนักเท่าคำยืนยันจากบุคคลที่ 3 ที่เป็นกลาง
ยังมีรายงานว่า พล.อ.โมฮัมหมัด นิซัม บิน จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย ได้เดินทางถึงกัมพูชาในบ่ายวันที่ 29 กรกฎาคม เพื่อประชุมหารือกับพลเอกวง พิเสน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกัมพูชา โดยการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานงานการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงและการฟื้นฟูสถานการณ์ให้กลับสู่สถานการณ์ปกติ..
ในทางตรงกันข้าม เรายังไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ในฝั่งไทยเลย ดิฉันภาวนาว่าฝ่ายไทยจะยินดีให้ฝ่ายที่ 3 เข้ามาตรวจสอบและสังเกตการณ์หยุดยิงตามแนวชายแดนไทย อยากให้มองในแง่ดีว่า
1. หากกัมพูชายิงก่อน ไทยก็จะมีประจักษ์พยานที่มีน้ำหนักอย่างยิ่ง
2. ถ้ามีคนกลางตั้งอยู่ชายแดนทั้งสองฝั่ง ก็เชื่อว่าจะไม่มีฝ่ายใดกล้าละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ประชาชนย่อมรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น ไม่ต้องหวาดผวาตลอดเวลา
ในทางตรงกันข้าม ถ้าไทยปฏิเสธไม่ยอมให้มีคนกลางมาสังเกตการณ์เท่ากับเราเป็นฝ่ายไม่ทำตามข้อตกลงหยุดยิงเสียเอง เพราะคำแถลงร่วมระบุไว้ด้วยว่า มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน พร้อมที่จะทำหน้าที่ประสานทีมผู้สังเกตการณ์เพื่อตรวจสอบและทำให้เกิดความมั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง (Malaysia stands ready to coordinate an observer team to verify and ensure its implementation).
ถ้าไทยปฏิเสธ ไม่ยอมรับคณะผู้สังเกตการณ์ หากมีการปะทะกันอีก แล้วฝ่ายไทยกล่าวว่ากัมพูชาโจมตีก่อน ข้อกล่าวหาของไทยก็จะไม่มีน้ำหนักเพียงพอ
ที่ผ่านมา เราทราบกันดีว่ารัฐบาลและกองทัพไทยต้องการให้ปัญหากับกัมพูชา เป็นการเจรจาระดับทวิภาคีเท่านั้น ปฏิเสธบทบาทขององค์กรภายนอกโดยสิ้นเชิง โดยฝ่ายไทยก็ไม่เคยให้เหตุผลชัดเจนว่า "ทำไม"
ไทยปฏิเสธ ICJ เป็นสิ่งที่พอจะเข้าใจได้ เพราะมีบาดแผลจากกรณีปราสาทพระวิหาร จน ICJ เป็นเสมือนผีที่ตามหลอกหลอนไทย กลายเป็นความเชื่อว่า ICJ มีอคติกับไทย จะไม่มีวันเข้าข้างไทย แต่อาเซียนไม่ใช่ ICJ อาเซียนเป็นสิ่งที่ประเทศไทยมีบทบาทในการสร้างสรรค์ขึ้นมา และไทยเป็นส่วนหนึ่งของอาเซียนมาตั้งแต่ปี 2510
คำประกาศก่อตั้งอาเซียนเรียกว่า Bangkok Declaration ถูกประกาศที่กรุงเทพฯ ไทยเป็นหนึ่งผู้ก่อตั้ง (the founding member) และทำให้อาเซียนเป็นที่รู้จักทั่วโลก
ไทยมีบทบาทผลักดันให้เกิด สนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia - TAC) ซึ่งเป็นเสมือนหลักการของการอยู่ร่วมกันของอาเซียน หนึ่งในหลักการนั้นก็คือ
ประเทศสมาชิก "พึงเชื่อมั่น ว่าการระงับข้อขัดแย้งหรือกรณีพิพาทระหว่างประเทศของตน จะต้องกําหนดให้เป็นระเบียบโดยกระบวนการที่มีเหตุผล มีประสิทธิผล และมีความยืดหยุ่นเพียงพอ โดยเลี่ยงที่จะใช้ท่าทีในทางปฏิเสธใดๆ ซี่งอาจเป็นอันตรายหรือเป็นการขัดขวางต่อการร่วมมือกัน"
ไทยไม่ควรมองบทบาทของอาเซียนว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทย เพราะตลอดเกือบ 6 ทศวรรษที่ผ่านมา ไทยใช้ประโยชน์จากอาเซียนในการแก้ปัญหาให้กับตนเอง ได้แก่
1. ระดมความร่วมมือจากอาเซียน ให้ประณามกรณีเวียดนามบุกยึดกัมพูชา/โค่นล้มเขมรแดงตั้งแต่ปี 1979-1991
2. เมื่อฮุนเซนเกิดขัดแย้งกับเจ้ารณฤทธิ์อย่างรุนแรงในปี 1997 ต่างฝ่ายกล่าวหาว่าต้องการทำรัฐประหาร โค่นล้มกัน เจ้ารณฤทธิ์พ่ายแพ้หนีออกนอกประเทศ อาเซียนเข้าแทรกแซงด้วยการประกาศตั้ง ASEAN Troika ประกอบด้วยไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นตัวกลางเจรจา โดยเงื่อนไขสำคัญคือ ฮุน เซนต้องยอมให้เจ้ารณฤทธิ์ กลับไปดำรงตำแหน่งนรม.คู่กับตนต่อไป (ในช่วงนั้นกัมพูชามี นรม. 2 คน)
ดิฉันคิดว่าฝ่ายไทยควรมองบทบาทอาเซียน/มาเลเซีย ด้วยทัศนะที่ไว้วางใจกัน ได้แต่หวังว่าไทยจะไม่มองอาเซียนด้วยทัศนะว่า "ไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร" จึงไม่ยอมให้ใครมาทำหน้าที่กำกับดูแล
ประการสำคัญ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซียอยู่ในระดับดีมาก ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลแม้แต่น้อยว่ามาเลเซียจะไม่เป็นกลาง
หลายประเทศทั่วโลกมีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง จนเจรจากันเองไม่ได้ ก็ต้องอาศัยบุคคลที่ 3 มาช่วยเป็นตัวกลางให้การเจรจาเดินต่อไปได้ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เสียหน้าแต่ประการใด และไทยก็เคยทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างประเทศมาแล้ว
ไทยกับกัมพูชามาถึงจุดที่ต้องยอมรับความจริงว่า วันนี้สองประเทศคุยกันเองไม่ได้แล้ว การปะทะอย่างรุนแรงในช่วง 5 วันที่ผ่านมาก็คือผลจากการคุยกันไม่ได้แล้ว เราจำเป็นต้องอาศัยคนกลางเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย เพื่อให้เกิดสันติภาพได้จริง
สิ่งที่ไทยต้องระวังคือ แม้ว่าศักยภาพด้านการทหารของไทยจะเหนือกว่ากัมพูชา แต่โลกจะไม่ปล่อยให้เรารบกันจนราบเป็นหน้ากอง ถ้าเราปฏิเสธบทบาทอาเซียน เราก็อาจต้องเผชิญกับบทบาทขององค์กรระดับสหประชาชาติต่อไป อันเป็นสิ่งที่กัมพูชาต้องการให้เกิดขึ้นด้วย
. อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/foreign/news_5298054