วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 01, 2568

พบโรงงานใหม่ที่หนองรี ชลบุรี ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ แต่มีขยะอิเล็กทรอนิกส์เต็มโรงงานแล้ว เชื่อว่าคนจีนเป็นผู้ลงทุน โดยมีคนไทยเป็นนายหน้า รายงานข่าวยังบอกว่า ในคืนก่อนการตรวจสอบ ทางโรงงานดังกล่าวมีการลำเลียงวัสดุออกจากโรงงานอย่างเร่งด่วน



https://www.facebook.com/EarthEcoAlert/posts/1072685614891025
มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH)
8 hours ago
·
พบโรงงานใหม่ที่หนองรี ชลบุรี ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ แต่มีขยะอิเล็กทรอนิกส์เต็มโรงงานแล้ว โรงงานอ้างซื้อมาจากร้านรับซื้อของเก่า แต่ข้อมูลทางลึกระบุว่า เป็นขยะที่ถูกขนมาจากท่าเรือแหลมฉบังโดยรถเทรลเลอร์ขนาดใหญ่ ส่วนในแง่การดำเนินการ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้ถือหุ้นสัดส่วน 45% เป็นชาวจีน และ 55% เป็นคนไทยซึ่งมีอาชีพเกษตรกรรม จึงเชื่อว่า รูปแบบแท้จริงคือ คนจีนเป็นผู้ลงทุน โดยมีคนไทยเป็นนายหน้า ส่วนกิจการจริงๆ คือการทำโรงงานเพื่อเป็นแหล่งรับของเสียเข้ามา
.
วันนี้ (30 เมษายน 2568) มูลนิธิบูรณะนิเวศได้รับข้อมูลและภาพถ่ายจากทนายชำนัญ ศิริรักษ์ เกี่ยวกับการพบขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากในโรงงานใหม่ที่เพิ่งเสร็จแห่งหนึ่งใน ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ทนายชำนัญได้ลงพื้นที่พร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เพื่อตรวจสอบโรงงานต้องสงสัยที่มีชาวบ้านแจ้งเบาะแสมาว่าเห็นรถเทรลเลอร์เข้า-ออกโรงงานอย่างผิดสังเกต ทั้งที่โรงงานเพิ่งสร้างเสร็จเพียงไม่นาน
.
“มีข้อมูลร้องเรียนว่า โรงงานแห่งหนึ่งในตำบลหนองรี กำลังจะตั้งโรงงานประเภท 106 ทั้งที่เพิ่งจดทะเบียนกลางเดือนเมษายน พื้นที่ของโรงงานยังอยู่ติดกับอีกโรงงานที่มีชื่อจีนคล้ายกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครือเดียวกัน” ชำนัญเล่าถึงต้นเรื่อง
.
ส่วนผลจากการลงพื้นที่ ทนายชำนัญให้ข้อมูลว่า ภายในโรงงานพบถุงบิ๊กแบ๊กจำนวนมาก บรรจุเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์บดอัดปะปนกันหลายประเภท โดยอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีได้ขึงเชือกกั้นพื้นที่และเก็บตัวอย่างวัสดุไปตรวจสอบว่ามีสารอันตรายหรือไม่
.
จากการสอบถามถึงแหล่งที่มาของวัสดุกับคนที่พบในโรงงาน ได้รับคำตอบว่า รับซื้อมาจากร้านรับซื้อของเก่า แต่ชำนัญเปิดเผยว่าเคยได้รับข้อมูลมาก่อนหน้านี้ว่า ขยะเหล่านี้อาจถูกขนมาจากท่าเรือแหลมฉบังด้วยรถเทรลเลอร์
.
ส่วนผลการตรวจสอบเกี่ยวกับสถานะการได้รับอนุญาตของโรงงานดังกล่าวพบว่า โรงงานมีเพียงใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเท่านั้น ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน หรือ รง.4 และใบอนุญาตดำเนินกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จากสภาพความเป็นจริงกลับพบทั้งการติดตั้งเครื่องจักรและการลำเลียงวัสดุ ซึ่งคือขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาแล้วเป็นจำนวนมาก
.
นอกจากนั้น จากการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานหรือบริษัท ชำนัญพบว่า มีผู้ถือหุ้นชาวจีน 45% และชาวไทย 55% โดยผู้ถือหุ้นชาวไทยเป็นชาวบ้านซึ่งมีอาชีพเกษตรกร ในพื้นที่ ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
.
ทั้งนี้ จากการเกาะติดข้อมูลกลุ่มโรงงานเหล่านี้มาอย่างต่อเนื่อง ชำนัญให้ความเห็นว่า รูปแบบการประกอบกิจการเกี่ยวกับของเสียอันตรายเหล่านี้ มักใช้วิธีการตั้งโรงงานสำหรับรับของเป็นจุดๆ โดยโรงงานมีคนจีนเป็นคนลงทุน แล้วให้คนไทยเป็นนายหน้า
.
“น่าจะมีหลายจุดที่เป็นแบบนี้ ผมว่ามันเหมือนแฟรนไชส์ มีคนจีนลงทุนให้ มันเอาของเข้าของออกให้ แต่มีคนไทยรับเป็นนายหน้า เหมือนเป็นเจ้าของโรงงานเฉยๆ จะเป็นลักษณะนี้”
.
นอกจากนี้ ชำนัญยังเปิดเผยว่า ในคืนก่อนการตรวจสอบ มีรายงานจากสายข่าวว่า ทางโรงงานดังกล่าวมีการลำเลียงวัสดุออกจากโรงงานอย่างเร่งด่วน จึงคาดว่าอาจมีการรับรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการเข้าตรวจ
.
สำหรับในวันที่เข้าไปตรวจสอบ โรงงานแห่งนี้ยังไม่มีการชี้แจงแหล่งที่มาของขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่พบในโรงงานอย่างเป็นทางการ และยังไม่มีเอกสารประกอบการใดแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ในขณะที่ทางเพจ “สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี” ก็ยังไม่มีการรายงานหรือเผยแพร่เกี่ยวกับการตรวจสอบโรงงานแห่งนี้แต่อย่างใด
...
...
เรียบเรียงโดยปานรักษ์ วัฒกะวงศ์ และนราธิป ทองถนอม มูลนิธิบูรณะนิเวศ
ขอบคุณภาพถ่ายจากชำนัญ ศิริรักษ์







.....




ภาพจาก https://www.facebook.com/Yai.Chamnan