เสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลแพทองธาร เห็นท่าจะไปไม่รอด หรือถ้าสามารถประคองไปได้ถึงปี ๗๐ ก็คงไปต่อได้ยาก เพราะนอกจากพรรคหลักของฝ่ายค้าน สะสมคะแนนแบบเก็บเบี้ยใส่ใต้ถุนร้าน มาได้เป็นกอบเป็นกำดีอยู่แล้ว
พรรคคู่แข่งภายในรัฐบาลเอง ก็เดินการเมืองแยบยลเสียจน แทนที่จะถูกเขี่ยไปเป็นฝ่ายค้าน กลับจะเป็นตัวยงในการร่วมรัฐบาลใหม่ โดยไม่มีพรรคเพื่อไทยก็ได้ ดังคำวิจารณ์แบบทายทักของสื่อสายหลักรายหนึ่ง ถึง “ความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล
แม้หน้าฉากบุคคลสำคัญในรัฐบาลออกมาสร้างซีนสมานฉันท์ กลมเกลียว แต่หลังฉากยังมีความไม่ลงรอยให้เห็น” บทความ ‘ประชาชาติ’ หักดิบว่าปัญหาพรรคร่วมแตกความสามัคคี ทำให้พรรคประชาชนเตรียมตัวเลือกตั้งใหม่กันแล้ว
“ซ้ำยังมีปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่แก้ไม่ตก” เมื่อค่ำวานนี้เอง ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ปชน.เอาข่วการจัด rating ของบรรษัทจัดอันดับเครดิตชื่อดังของโลก Moody’s ปรับแนวโน้มเรตติ้งไทยจาก Stable เป็น Negative ยังคงอันดับเรตติ้งที่ Baa1
คุณไหมชี้ว่า “การขึ้นภาษีของสหรัฐ ที่จะซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำอยู่แล้วให้แย่ลงอีก เนื่องจากไทยพึ่งพาตลาดสหรัฐค่อนข้างสูง และความเสี่ยงจะยิ่งทำให้ศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจต่ำลง...คาดการณ์อยู่ที่ ๒ %”
เธอว่านี่เป็น “wake up call” ที่รัฐบาลต้องจริงจังกับการรับมือสถานการณ์ “ตกต่ำจากสงครามการค้า ถ้าไม่อยากให้ฐานะทางการคลังแย่ลง อย่าเพิ่งแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต เก็บกระสุนไว้ยิงเมื่อยามจำเป็น ลดการกู้เงินได้ ลดหนี้สาธารณะได้อีกนะคะ”
และที่เป็นสัญญานว่าการเดินเครื่องของรัฐบาลเวลานี้ไม่เต็มร้อย ก็ ส.ส.เสื้อแดงในพรรคเพื่อไทยรายหนึ่ง ที่ไม่ใช่พวกหลับหูหลับตาแบก ‘ชินวัตร’ สถานเดียว เริ่มพูดถึงสถานการณ์ทางการเมืองอย่างมีสติสัมปชัญญะ บ้างแล้ว
ก่อแก้ว พิกุลทอง ให้สัมภาษณ์ เนชั่นสุดสัปดาห์ตอนหนึ่งว่า “พรรคร่วมฯ ต้องสนับสนุน” นโยบายหลักของรัฐบาล “หรือพรรคเพื่อไทย” ถ้าไม่สนับสนุนก็เป็นความแตกร้าว ดังนั้น “สองพรรคหลักของรัฐบาล ต้องคุยกันให้รู้เรื่องทุกอย่าง”
เพื่อการขับเคลื่อนไปข้างหน้า “ถ้าสิ่งไหนไม่เห็นด้วย ก็ต้องทำความเข้าใจว่าจะปรับเปลี่ยนยังไง ให้มันหาจุดลงตัวได้” ไม่เช่นนั้นก็ต้องไปถึงความจำเป็น ‘ยุบสภาฯ’ แม้นว่าตัดภูมิใจไทย ๗๑ เสียงออกไปเหลือ ๒๔๐ กว่าเสียง “ก็ไม่พอ”
และการจะเอาฝ่ายค้านบางส่วนมาเติม “ก็ยากอยู่” ดังนั้น ทางที่ดีถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้า “พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน ได้ผลการเลือกตั้ง ๒ พรรครวมกันแล้วเกินครึ่ง จัดตั้งรัฐบาลได้ เป็นซีกฝ่ายประชาธิปไตยเสรีนิยมด้วยกัน”
ก็คงจะยากอีกน่ะแหละ ถ้านายใหญ่ยังปล่อยให้พวก อีแบ๊ก ไอแบ๊ก ทำหน้าที่เป็นโฆษก พูดแทนรัฐบาลชินวัตรบนสื่อสังคมออนไลน์อย่าง ‘loose cannon’ ไม่มีหูรูดอยู่ต่อไป
(https://www.facebook.com/nationweekend/posts/9SVFiAu9FC, https://www.facebook.com/SirikanyaOfficial/posts/8giquyiVP6 และ https://www.facebook.com/PrachachatOnline/posts/myASgh7on7)