วันจันทร์, กันยายน 30, 2567

มาแบ่งปัน - ไปเรียนรู้ภัยพิบัติเพียงเล็กๆน้อยๆกับชาวบ้าน ปกาเกอะญอ "ตาโดะซูถ่า "แคววัวดำ ริมน้ำกก ต.แม่ยาว เชียงราย


พฤ โอโดเชา
September 23
·
ไปเรียนรู้ภัยพิบัติเพียงเล็กๆน้อยๆกับชาวบ้านปกาเกอะญอ"ตาโดะซูถ่า"แคววัวดำ ริมน้ำกก ต.แม่ยาว เชียงราย
--------------
ชุมชนนี้มีหลายหย่อมบ้าน หย่อมแคววัวดำนี้เป็นชาวปกาเกอะฮญอหรือกะเหรี่ยงเป็นหลัก และมี 73 บ้าน เดือดร้อนจากน้ำหลาก 31หลังคา ที่นาการเกษตร....ใน 73 บางครอบครัวทั้งบ้านยุ้งข้าวที่นา บางครอบครัวแต่นา(ยังขาดข้อมูล)
1.ไม่ใช่น้ำท่วมอย่างที่เคยเข้าใจ เพราะชาวบ้านไม่เชื่อว่าน้ำจะท่วมขึ้นเร็วและสูงขนาดนี้
2.ช่วงน้ำท่วมก็ออกจากบ้านโดยไม่เก็บของมีค่าอะไรออกมา พอน้ำสูงออกจากบ้านแล้วกลับเข้าไปเก็บสมบัติอะไรไม่ได้แล้ว
3.ช่วงน้ำท่วมสูงมีมือถือแต่ลืมถ่ายเพราะตลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เหลือเพียงครึ่งสติ เหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นกับเหตุการณ์
4.ถนนเส้นทางเข้าออกที่จะติดต่อกับโลกภายนอกถูกน้ำท่วมตัดขาด และไฟฟ้าดับ สัญญาณมือถือหาย ต้องใช้เทียนไข ไฟฉาย เพื่อจุดแสงสว่าง แต่เทียนไม่มีสำรอง แบตไฟฉายมือถือหมด
5.เนื่องจากบ้านแคววัวดำตั้งชุมชนอยู่ในพื้นที่ลาดชันอยู่เนินสูงที่น้ำท่วมไม่ถึง และมีพื้นที่ราบเพียงริมแม่น้ำกก ด้านล่างของถนนที่มีการตั้งบ้านอยู่ ส่วนนี้จึงกระทบหนักทั้งบ้านยุ้งข้าวถูกน้ำพัดไป ได้มีอาคารบ้านเรื่อนเกินครึ่งที่ตั้งอยู่ด้านบนของถนน เมื่อพี่น้องด้านล่างเดือดร้อน จึงขึ้นมาพักอาศัยอยู่กินข้าวกับพี่น้องที่ตั้งบ้านอยู่บนเนิน
6.เมื่อไฟฟ้าดับ ข้าวสารหมดแบตเตอรี่หมด เครื่องสีข้าวไฟฟ้าใช้ไม่ได้ ไม่มีข้าวสารกิน โคลกกระเดื่องภูมิปัญญาเมื่อก่อนชุมชนไม่มีไว้แล้วตามบ้าน และคิดไม่ออกว่า ต้องตำเปลือกข้าวจากกระเดื่อง รอจนเครื่องบินมาบินช่วยส่งอาหาร กับโดรน
7.สังเกตโครงก่อก้อสร้าง เสาบ้านด้วยปูน หูกระต่ายสูง 2ชั้นชั้นบนเป็นไม้ที่ไม่มีการเทคานด้วยซีเมนต์ระหว่างต้นเสาบ้านพอน้ำมาดินแฉะนิ่มเสาเอียงล้มบ้านไม้ชั่นบนถูกน้ำพัดไป แต่บ้านที่มีการเทคานระหว่างเสาบ้าน ส่วนใหญ่น้ำเอาไปไม่ได้ แต่เสียหายหนัก หลังน้ำลดน้ำหายไป แต่ทิ้งโคลนกองสูงมายึดในบ้านนอกบ้าน ทั้งถนนทางเดินแทบเดินไม่ได้
ต้นไทร ต้นตาล ต้นไคร้ ยีนต้านน้ำที่ริมน้ำได้ แถมช่วยกันซากบ้านไม่ให้ไหลไปกับน้ำได้อีก
8.มีน้ำลดแล้วน้ำใจจากคนใจดีต่างๆจากภายนอกหลั่งไหลเข้ามาช่วย อาหารเครื่องนุ่มห่ม หม้อข้าวหุงต้ม ทั้งบางบ้านได้เงินจากผู้ใจบุญบางบ้านไม่ได้รับ ผู้นำรอทางการว่าจะช่วยอย่างไร ชาวบ้านออกมารับของบริจาคตามที่ผู้นำแจ้งมาเป็นระรอกไม่ขาดสาย
9.เริ่มมีเสื้อผ้ามีอาหารแล้ว แต่กลับเข้าบ้านไม่ได้ จะเอาน้ำจากไหนมาล้างโคลนในบ้านออก แค่ที่นอน 1ผืนที่ติดโคลนหนักจะยกลากออกไปแทบไม่ไหว เรือนบ้านบางครอบครัว ถูกน้ำพัดต้องสร้างใหม่หมด อีกหลายสิบหลัง ยิ่งกว่าถูกน้ำพัดเพราะต้องทุบรื้อ ตัดเหล็ก และตักทรายโคลนออก แล้วต้องสร้างใหม่ทั้งหลัง
10.มีจิตอาสามาที่มาช่วยล้าง ต้องนำอุปกรณ์ สูบน้ำ ฉีดน้ำ น้ำมันเครื่องฉีดน้ำ ไม้กวาด คลาดแผ่นดันขุดโคลน และฆ้อน เหล็กชะแลนงัด พลัวถัง เครื่องตัดเหล็ก เพื่อรื้อบ้าน และหาเก็บแผ่นไม้ที่พอติดค้าง หารื้อมาเก็บแผ่นไม้ที่ยังดีอยู่ ยกมาเก็บกองและต้องขนย้ายไปเก็บบนพื้นที่ปลอดภัยจากน้ำที่คาดว่าอาจจะมาอีก
แต่ยังเหลือโคลนชั้นล่าง ไม่รู้จะเอาออกยังไง เพราะพื้นต่ำกว่าโคลนนอกบ้าน บ้างต้องสละทั้ง บ้างจะไปอยู่ที่สวนก่อนไม่กล้าอยู่บ้านแล้วบ้างยืนยันจะอยู่ต่อ
11.เหล่าอาสา บางกลุ่มไปกลับ บางกลุ่มมาพักค้างคืน จึงมาอยู่ใช้บ้านที่ไม่ไม่ถูกน้ำท่วมพักทำกับข้าวเช้ามาก็ไปช่วยทำความสะอาดบ้านให้ชาวบ้านตามชุมชน
12.เริ่มมีรถไถฟางของชาวบ้านมาช่วยกันไถดันโคลนตามถนนและมีรถแมกโครช่วยตักโคลนใส่รถด้ามขนขยะไปทิ้ง แต่ช่วยหลายวันก็ไม่ไหว ถ้าให้อยู่ต่อ ค่าใช้จ่ายวันละ เก้าพันบาท ส่วนรถจากทางการยังมาไม่ถึง หน่วยงานท้องที่มีรถไม่พอกับพื้นที่ที่ต้องให้ความช่วยเหลือพื้นที่เดือดร้อน
--------
ส่วนที่เหมือนชาวบ้านจะลืม คือข้อมูลที่ควรจะมีของชุมไว้ให้กับหน่วยงานข้างนอก โดยที่ชาวบ้านจะต้องตั้งกลุ่มคณะสำรวจจัดทำข้อมูลเตรียมบอกนำเสนอขัอที่ใช่สู่ข้างนอก และโระบบโปร่งใส่เป็นธรรมกับข้างใน
13.คือระบบกลไกคนในชุมชนที่ต้องช่วยกันคิดถึง สิ่งสำคัญที่ควรจะทำแต่ลืม เพราะไม่เคยมีประสบการณ์
ข้อมูลที่ชาวบ้านจะสร้างบ้านอยู่ที่เดิมหรือย้ายไปสร้างที่อื่น แล้วพื้นที่ไหนยังไง ต้องการหินดินมาถมกี่ดั้มคิวรถ บางเรื่องอาจต้องมีมติความเห็นจากประชาคมหมู่บ้านด้วย (บางที่อาจต้องมีพี่เลี้ยง มาช่วยจัดกระบวนประเมินทำระบบข้อมูล) เช่น กี่หลังคากี่กระเบื้องและสังกะสีกี่แผ่น ตะปูกี่กิโลขนาดเท่าไหร่ ปูนซีเมนต์กี่กระสอบเหล็ก ค่าแรงอีก และหลอดไฟกี่หลอด สายไปฟ้ากี่ขนาดกี่เมตรกี่หลัง รถเครื่องรถยนต์ที่ต้องซ่อมกี่คัน ตู้เย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า ประเมินราคาค่าเสียหายแต่ละหลังเท่าไหร่ยังไง
14.ไม่มีการเปิดบัญชีในนามชื่อของชุมชนสักที เพราะจะใช้บัญชีเล่มไหนของหมู่บ้านดี เพื่อบอกกล่าวคนนอกเพื่อระดมทุนช่วยเหลือชาวบ้าน มีหลายใบเหลือเกิน ใบไหนจะน่าเชื่อถือ คนนอกที่อยากช่วยเหลือ ต้องการมอบในชื่อบัญชีที่มีชื่อตรงกับชุมชน และมีกลุ่มดูแลชาวบ้านเชื่อถือตรวจสอบได้
เมื่อช้าคนในคนนอกจึงใช้ความสัมพันธุ์ที่เชื่อถือส่วนตัวระดมกันและนำไปช่วยเหลือชาวบ้าน เร็วทันภ้วนที
เช่น บางบ้านท่วมทั้งบ้านท่วมยุ้ง ท่วมนาหมด ถ้าจะอยู่รอดต้องได้รับข้าวสารเงินเท่าไหร่ บางบ้านท่วมแต่นายุ้งไม่ท่วม ปีนี้มีข้าวกินแต่ฤดูเก็บเกี่ยวที่จะถึงปีหน้าไม่มีข้าวกิน หนักเบาต่างกัน
ข้อมูลพื้นฐานจากชุมชนจึงสำคัญ แต่พอเกิดเหตุรับมือปัญหาแล้วรับมือจากคลื่นการช่วยเหลือจากภายนอก ชุมชนมักจะลืมที่จะตั้งหลักออกแบบจากชุมชนเพื่อให้แก้ปัญหาบางอย่างที่ชุมชนรู้มาเสริมถูกจุดที่ต้องการ และสำคัญการสื่อสารออกไปให้ภายในภายนอกรับรู้ข้อมูลครับ
ยังมีความเสียหายจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับความเสียหายนอกจากบ้านเรือน แต่พื้นที่ที่นี่ทั้งหมดไม่มีใบโฉนดที่ดินตามกฎหมายที่จะได้รับค่าชดเชย จะมีทางอื่นอย่างไร ฝ่ายธุรกิจภาคการท่องเที่ยงจะมาดูแลฟื้นฟูเยียวยากิจกรรมเหล่านี้อย่างไรต่อ ชาวบ้านก็ถามลมในอากาศอยู่ครับ เจ้านาย
เล็กๆน้อยๆที่มาแบ่งปัน ผิดพลาดประการใด ก็ขอให้แก้เติมเปลี่ยนแปลงครับ