ข้อสังเกตุ Atukkit Sawangsuk เรื่องนี้เข้าเค้าเป็นจริงได้ “มันเป็นการปูทางไปสู่การเชือด สส.ก้าวไกล เชือดเต้ก่อน (โดนข้อหาชูสามนิ้วด้วย) ทำให้คนสะใจ เหมือนเชือด ‘ปารีณา’ (ไกรคุปต์) แล้วมาตัดสิทธิ ‘ช่อ’ (พรรณิการ์ วานิช)”
เรื่องของเรื่องมาจากกรณี ปปช.ชี้มูลความผิด ‘เต้’ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เหมือนโดนเชือดบูชายันต์ จากการลาประชุมสภาผู้แทน ๒ ชั่วโมงครึ่ง เพื่อไปดูหนังเรื่อง ‘4 KINGS’
ข้อกล่าวหาความผิด “ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง” เมื่อปี ๒๕๖๔ ซึ่งเมื่อชี้มูลแล้วก็จะส่งสำนวนไปยังศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง หากศาลตัดสินว่าผิด ผู้ถูกร้องจะถูกตัดสิทธิทางการเมือง
‘เต้’ กล่าวถึงกรณีนี้ว่าตนไม่ทราบเลย และไม่คิดมาก่อนว่ามีการชี้มูลความผิดจาก ปปช. กรณีที่ตนซื้อตั๋วภาพยนตร์เรื่องนั้น ๑๐๐ แจกให้นักเรียนนักศึกษาที่ยากจนได้ไปดูหนังร่วมกับตน “อยู่ดีๆ ป.ป.ช.ก็ชี้มูลมาเลย ตนก็งง”
เขาบอกว่า ตนทำหนังสือลาราชการตั้งแต่ ๑๔.๐๐ น. วันนั้นปิดประชุมสภาเมื่อเวลา ๑๖.๓๐ น. หนังฉายเวลา ๑๗.๔๐ น. ปปช.ไม่มีการทำหนังสือแจ้งมาเลยเรื่องการชี้มูล ทีข้อหาที่ไปร่วมชุมนุมชูสามนิ้ว ปปช.มีจดหมายแจ้งข้อหามาก่อน
พิเคราะห์ความผิด มีหมวด ๒ และ ๓ หมวดสอง “อาจจะทำให้เสี่ยมต่อตำแหน่งหรือไม่ และส่วนหมวด ๓ ไม่อุทิศเวลาให้ราชการ...การลาราชการ ปกติเมื่อลาแล้วจะไปทำอะไรก็ได้ และทุกครั้งที่ตนไม่เข้าประชุมจะทำหนังสือลาตลอด
ไม่เหมือน ส.ส.เป็นร้อยคนที่เบิกค่าเครื่องบินมาประชุมสภาที่ กทม. แต่ 1.ไม่เข้าประชุมสภา 2.มาเข้าประชุมแต่เซ็นชื่อเสร็จแล้วออกไปเลย 3.หายไปเลยทั้งวัน มาตอนเย็นแล้วหายไปเลย โดยไม่มีหนังสือลาราชการว่าหายไปไหน”
สุดท้าย ‘เต้’ ว่าจะสู้คดีนี้ถึงที่สุดทั้งสองศาล “แต่ขอตรวจสอบขั้นตอน ป.ป.ช.ก่อน ว่าครบถ้วนขั้นตอนหรือไม่ ถ้าไม่ครบ ก็ฟ้องศาลปกครองขอให้เพิกถอนกระบวนการพิจารณาทั้งหมด”