วันพุธ, กุมภาพันธ์ 16, 2565

#ยืนหยุดทรราชทุกวัน สำคัญไฉน ?


iLaw
21h ·

"ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยเพื่อนเรา ประยุทธ์ออกไป ศักดินาจงพินาศประชาราษฎร์จงเจริญ ยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ"
.
เสียงสัญญาณแจ้งยุติกิจกรรมในแต่ละวันของการ #ยืนหยุดทรราช การแสดงออกเพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้กับผู้ต้องขังขณะที่คดียังไม่สิ้นสุด โดยจะยืนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที เริ่มเวลา 17.00 น. แล้วจบกิจกรรมเวลา 18.12 น. ของทุกวัน ซึ่งในวันนี้เป็นวันที่ 179 นับรวมเป็นเวลาเกือบๆหกเดือน ตั้งแต่เริ่มมีนักกิจกรรมที่ไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัวจากการแสดงออกทางการเมือง ที่ข่วงประตูท่าแพ
.
ภัควดี วีระภาสพงษ์ นักแปลหนังสือ ตัวแทนผู้จัดกิจรรมยืนหยุดทรราช จากกลุ่มพลเมืองเสมอกัน We, The People เล่าว่าตั้งกลุ่มมาเพื่อทำกิจกรรมหลายอย่างตั้งแต่หลังการรัฐประหารปี 2557
.
โดยกิจกรรมยืนหยุดทรรราชได้เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกเมื่อ 15 เมษายน 2564 หลังจากที่ทนายอานนท์ นำภาและแกนนำราษฎรถูกจับเข้าเรือนจำ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ครั้งนั้นมีการยืนทั้งหมด 46 วันก่อนที่ทั้งหมดจะได้รับการประกันตัวออกมา
.
"มารอบนี้ ก็มาครั้งใหม่เริ่มต้นที่ไผ่กับเพนกวินไม่ได้รับสิทธิประกันตัวเดือนสิงหาหลังจากเขาเข้าเรือนจำไม่กี่วันเราก็เริ่มยืน จนวันนี้เป็นวันที่ 179 ก็คือเกือบหกเดือนใกล้เคียงกับเวลาที่นักโทษการเมืองที่ไม่ได้สิทธิประกันตัว"
.
กิจกรรมยืนหยุดทรราชยังคงมีต่อเนื่องเกือบทุกวัน โดยในช่วงแรกจะยืนที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ต่อมาย้ายมายืนที่ข่วงประตูท่าแพ และทุกวันพฤหัสบดีจะไปยืนที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภัควดีบอกว่าตั้งใจที่จะยืนไปเรื่อยๆจนว่าทุกคนจะได้รับสิทธิการประกันตัว
.
"ตอนนี้เราก็นับอยู่ว่าที่เหลือตอนนี้หลังจากไผ่กับไมค์ออกมาก็เหลือสิบคนรวมเด็ก น้องๆ #ทะลุแก๊ซ วันนี้นัทได้ออกมาคนหนึ่งก็จะเหลือเก้าคน ก็จะมีอานนท์ เพนกวิน อาทิตย์ทะลุฟ้า และมีน้องทะลุแก๊ซ"
.
"ความจริงก็ไม่ควรต้องเข้าไปอยู่ในคุกแต่แรก กระบวนการมันผิดตั้งแต่แรก แล้วก็การได้ประกันตัวออกมาก็ไม่ถูกต้องในแง่ที่ว่ามีเงื่อนไขจำนวนมากซึ่งละเมิดสิทธิของเขา ในเมื่อยังไม่ได้ตัดสินคดีแต่ทำไมจะต้องใส่กำไลอีเอ็ม มีเงื่อนไขห้ามออกนอกบ้าน มีเงื่อนไขนู่นนี่ในเมื่อยังไม่มีความผิด ก็ยังคิดว่ามันยังไม่ใช่กระบวนการที่ถูกต้อง"
.
ทั้งเมื่อถามถึงบทบาทของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อกิจกรรมยืนหยุดทรราช ภัควดีบอกว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเฝ้าทุกวัน แต่ก็ยังจัดกิจกรรมได้ และมาเยี่ยมเธอที่บ้านเป็นบางครั้งในโอกาสพิเศษ
.
"เจ้าหน้าที่เขาก็มาถ่ายรูปตลอดทุกวัน บางทีก็เอารถมา ขับผ่านมา เจ้าหน้าที่บางคนมาถ่ายรวมๆแล้วก็ไป แต่บางคนชอบพยายามจะถ่ายเจาะๆหน้า หรือตั้งกล้องถ่ายโดยเฉพาะผู้ประท้วงที่เป็นผู้หญิงมักจะชอบโดนแบบนี้ คือตั้งกล้องจนน่าเกลียด เราก็จะมีเขียนต่อว่าทางเพจบ้าง"
.
"โดยส่วนตัวจะโดนเฉพาะเจ้าหน้าที่ไปหาที่บ้าน ในช่วงเวลาที่จะมีขบวนเสด็จ หรืองานพระราชทานปริญญา หรืองานอะไรก็ตาม จะมีไปหาที่บ้าน เขาก็จะไปพูดคุยบอกว่ามาทำตามหน้าที่ มาถามว่าจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง ส่วนใหญ่เราก็จะบอกไปอยู่แล้วว่าเราก็ทำอยู่อย่างเดียวคือยืนอยู่ที่ตรงนี้ แต่นอกนั้นเขาก็ไม่เคยมาอะไร"
.
ตลอดการยืนก็จะมีรถที่สัญจรผ่านไปมาชูสามนิ้วให้ หรือบีบแตรยาวๆ ให้ผู้ที่มายืนทำกิจกรรมอยู่ตลอดไม่ขาดสาย ภัควดีบอกว่าตั้งแต่ยืนมาผู้คนก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดีเสมอมา
.
"มันได้รับการตอบรับจากรถที่ผ่านไปมาแล้วก็คนที่ผ่านไปมาเยอะ รวมทั้งชาวต่างชาติด้วย มันก็มีปฏิสัมพันธ์ตอบสนองกันมากก็แสดงให้เห็นว่ามีคนเห็นด้วยกับเราเยอะ ส่วนคนที่มาต่อว่าก็มีน้อยมาก น้อยกว่าที่คิดเยอะ ในช่วงเกือบๆหกเดือน บางคนก็มาสอบถาม ถ้าเป็นรถสัญจรเขาก็จะเข้าใจก็จะมีชูสามนิ้วบีบแตรอะไรให้ตลอด"
.
ภัควดีได้พูดถึงความสำคัญและความหมายของการยืนในทุกๆ วันว่า นอกจากจะเป็นการทำเพื่อคนในเรือนจำแล้วยังเป็นการย้ำเตือนสังคมถึงกระบวนการยุติธรรมที่ผิดปกติ
.
"มันเป็นการให้กำลังใจคนที่อยู่ในเรือนจำ อันนี้เป็นจุดหลัก หลายคนที่เคยอยู่ในเรือนจำก็ออกมาบอกว่าเขาผ่านช่วงเวลาในเรือนจำไปได้เพราะมีคนยืนอยู่ทุกวัน เพราะเขาอยู่ในเรือนจำเนี่ยปัญหาในเรือนจำก็คือชีวิที่ไม่ปกติของเขาซึ่งเขาต้องเผชิญทุกวัน แล้วมันก็มีคนมายืนให้เขาทุกวัน"
.
"อีกอย่างก็มันเป็นเหมือนการบอกกับสังคมว่า สังคมเราไม่ปกตินะ อย่าลืมนะว่ามีนักโทษการเมืองอยู่เคยมีคนเรียกร้องความจริงแทนพวกเรา และเขาต้องอยู่ในคุกตอนนี้ และเหมือนกับบอกผู้มีอำนาจและศาลว่ามันมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการที่ใช้อยู่ตรงนี้"
.
"ในแง่นึงการยืนก็เป็นการวิจารณ์ศาลด้วย วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมว่ามันไม่ถูกต้อง ในส่วนของขบวนการประชาธิปไตยตอนนี้การยืนก็ถือว่าเป็นเซฟโซนอันนึงที่คนสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้ เพราะว่าหลังจากที่การประท้วงในรูปแบบอื่นถูกดำเนินคดีเกือบหมดแล้ว ก็จะเหลือการยืนที่ถึงแม้ว่าที่กรุงเทพฯจะมีการดำเนินคดีแต่ที่เชียงใหม่ยังไม่มี เพราะมันค่อนข้างรักษาระยะห่าง"
...


อานนท์ นำภา added 21 new photos.
Yesterday at 10:56 AM ·

อาทิตย์นี้ยังคงมีความเคลื่อนไหวสำคัญเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับการประกันตัวอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มทะลุฟ้า 5 คน ถูกปล่อยตัวทั้งหมดในช่วง 4-5 ก.พ. ตามมาด้วย ไมค์และไผ่ ในวันที่ 10-11 ก.พ. นอกจากนี้ในวันที่ 14 ก.พ. เยาวชนอายุ 16 ปี ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในสถานพินิจถึง 144 วัน ก็ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในที่สุด ทำให้ช่วงที่ผ่านมามีผู้ได้รับการปล่อยตัวแล้ว 8 คน จำนวนผู้ที่ถูกคุมขังจึงเหลืออีกเพียง 9 คนเท่านั้น นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่จำนวนคนอยู่ในเรือนจำน้อยลงเรื่อยๆ หวังว่าพวกเขาจะได้รับการอนุญาตประกันตัวทั้งหมดในเร็ววัน นอกจากนี้พรพจน์ยังได้ออกจากโรงพยาบาลราขทัณฑ์กลับมาอยู่ในแดนปกติเป็นที่เรียบร้อย
.
การเคลื่อนไหวทางการเงินสำคัญๆของช่วงที่ผ่านมาคือการโอนเงินครึ่งหนึ่ง (129,758.43 บาท) ไปยังกองทุนราษฎรประสงค์ เนื่องจากกองทุนกำลังต้องการเงินเพื่อใช้ประกันตัวในคดีต่างๆที่มีเข้ามาแทบทุกวัน เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้โอนเงินทั้งหมดไปยังกองทุนราษฎรประสงค์หากไม่มีผู้ถูกคุมขังอยู่แล้ว
.
ขอบคุณทุกๆท่านที่ร่วมช่วยเหลือกันมากว่า 1 ปี
.
สำหรับผู้ที่อยากสนับสนุนผู้ต้องขังทางการเมือง สามารถโอนเงินได้ที่ บัญชีออมสิน 054011462840 ชื่อบัญชี อานนท์ นำภา
.
หากอยากสนับสนุนครอบครัวอานนท์ สามารถสั่งซื้อเสื้อยืด WE ARE ALL ARNON ได้ที่เพจ “ทนายอานนท์ นำภา” โดยยังมีเหลืออยู่บางไซต์ราว 100 ตัว เพื่อจะได้เป็นทุนไว้ทำสิ่งอื่นๆต่อไป https://www.facebook.com/arnonnampa
.
สำหรับผู้ที่สนใจข้าวหอมมะลิ ร้อยเอ็ด สามารถติดต่อซื้อโดยตรงกับ Malai Nang คุณแม่ได้เลย