วันอาทิตย์, เมษายน 12, 2563

ฟัดกันถึงขิง สงครามน้ำลาย 'จีน-ไทย' บนทวิตเตอร์ เล่นไม้เด็ด แช่งให้ประยุทธ์อยู่ต่อ

หลายคนบอกว่า “อันนี้เจ็บจริง” Soraj Hongladarom @Sonamsangboคนหนึ่งละ “ตอนนี้คนจีนเปลี่ยนมาด่าใหม่ กลายเป็นขอให้อยู่ใต้ประยุทธ์ไปตลอดชาติ” แม้นว่า @PavinKyoto จะช่วยแก้ (หรือ ซ้ำดั้มพลอยก็ไม่รู้ได้)

“อีจีนแช่งให้ไทยถูกทหารปกครองนานๆ เสือกลืมไปว่า มึงถูกคอมมิวนิสต์ปกครองมา ๗๑ ปีแล้ว อีโง่ #nnevvy” แฮ้สแท็กเบื้องท้ายประโยคนี่แหละคือต้นตอ สงครามน้ำลาย ไทย-จีน ครั้งมหากาพย์อลังการ บนดาวทวิตเตอร์

ซึ่ง prajak kong @bkksnow เอ่ยถึงว่า “เป็น สงครามไซเบอร์ ที่แปลก ขบขัน และซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่สุดใน ปวศ.ของทั้งสองประเทศ” และเช่นนั้น “ชาวเน็ตประเทศเล็กๆ อย่างไทยเอาชนะ พญามังกรไปด้วยสกิลการวิจารณ์+ภูมิต้านทานที่เหนือกว่า”

ไม่แต่เท่านั้น มันเป็นปรากฏการณ์ข้ามชาติและเผ่าพันธุ์ “cross-cultural, geopolitical phenomenon” ดั่ง kaewmala @Thai_Talk ว่า “ภาษาที่ใช้ในการสนทนาบนแฮ้สแท็ก #nnevvy นอกจากอังกฤษ ไทย จีน แล้วยังมีเวียตนาม อินโดนีเซีย ตากาล็อก ญี่ปุ่น” ด้วย
 
ประจักษ์ชี้ถึง “ความสามารถในการหัวเราะให้กับชะตากรรมของประเทศตนเอง” ตัวอย่างเช่น “Chinese: **Rebuked all of Thai** Thai: I don't care Because it's true and All of Thai people wait for our PM (to) die.” (@mojitozaa03)

ต้นเหตุของสงครามมักจะมาจากน้ำผึ้งหยดเดียว กรณีนี้ดูจะหนีไม่พ้น อันเนื่องมาแต่ ไบร๊จ์ ดาราวัยรุ่นไทย ‘heartthrob’ ระดับนานาอาเซียน ไปรีทวี้ตข้อความเกี่ยวกับการเริ่มระบาดของโคโรน่าไวรัสที่หวูฮั่น ซึ่งบอกว่าโรงพยาบาลที่นั่น “มีคลังไวรัสอยู่ถึง ๑,๕๐๐ สายพันธุ์”

ถึงเขาจะลบทวี้ตเดิมและเขียนขอโทษตามมา ก็สายไปแล้วเมื่อชาวเน็ตติเซ็นจีนก่อหวอดแสดงความไม่พอใจ ที่ซึ่งจากการวิเคราะห์ของ จิมมี่’ James Buchanan @JBuchananBKK บอกเป็นผลงานของพวก ‘wumao’ หรือ ไอโอของรัฐบาลจีน น่าจะใช่
 
“มันบ้าบอและน่าขัน” เขาเขียนบนทวิตเตอร์ก่อนไปนอนเมื่อเลยเที่ยงคืนวันที่ ๑๑ เมษา “ขอเตือนให้ระลึกกันไว้ว่า แม้จะมีการให้ร้ายข่มเหงจากบรรดา ‘bots’ (จิ๊กโก๋ไซเบอร์) และกำลังพลไอโอ มันไม่ได้เป็นเสียงที่มาจากชาวจีนทั่วไปบนแผ่นดินใหญ่”

มีคนเห็นด้วย “ทวิตเตอร์กับเฟชบุ๊คถูกแบนหรือห้ามใช้ในประเทศจีน” ฉะนั้นพวกที่มารุมถล่มไบร๊จ์เป็น “คนที่ #CCPChina จ้างมาขัดขวางเสรีภาพในการแสดงออกและฉีดน้ำยา #FakeNews” (แบบเดียวกับที่เฮียแดงเค้าสวมชุดมนุษย์อวกาศออกฉีดตอนค่ำๆ นั่นละ)

จิมมี่ยังเอ่ยถึงมนุษย์สายพันธุ์ สลิ่มที่มิใช่มีแต่ในประเทศไทยหรือสหราชอาณาจักรประเทศบ้านเกิดเขาเอง ในจีนก็มีอยู่ไม่น้อย เรื่องมันถึงได้ยืดยาวก็เพราะสลิ่มจีนไปขุดเอาทวี้ตของแฟนไบร๊จ์ #nnevvy นั่นไง
 
เธอโพสต์ยั่วยวนคนรัก สวมชุด ไต้หวันเกิร์ลแล้วมีบางส่วนไปพัวพันกับแฮ้สแท็กอื่นๆ ที่ระบุว่าไต้หวันเป็นประเทศ เท่านั้นแหละเป็นเรื่องให้ไอโอเข้าไปก่อกวน ว่าเฮ้ยพูดงี้ได้งัย ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนเหมือนฮ่องกงนะ

การตอบโต้ต่อจากนั้นโดยเน็ตติเซ็นไทย ถึงลูกถึงคนด้วยอารมณ์ขันอย่าง ‘brilliant’ เชียว (คำของ susan shih @susanthshih) ตัวอย่าง @smek_og :Please do not say 'fuck you thais' Coz we are fucked by gov. everyday #nnevvy

อีกราย @dcann58618191 บอก “โปรดส่งคืนหน้ากากที่บริจาคโดยประเทศของเรา” ก็มี โถอีควาย’ @jungmonarakmak2 ไปตอบว่า “We already sold it to the USA.” ทว่าปังกว่านั้นเป็นบทสนทนาระหว่าง Bow Nuttaa Mahatttana กับ Emika Ashford*

เข้าถึงแก่นเจาะถึงกึ๋นเลยทีเดียว โบว์ว่า “เค้าไม่รู้ว่าคนไทยที่ด่าจีนเนี่ย คือคนที่เกลียดความเผด็จการแบบจีนๆ ที่มีอยู่ในไทย...มันเลยกลายเป็นความฟินสองต่อ”

ด้าน เอ็มบอก “ขำมาก...ด่าเราประเทศด้อยพัฒนา...แล้วด่าราชวงศ์...เลยส่งรูปใหม่ไปให้...หลังๆ เหมือนมันจับทางเราถูก บอกให้ #ประยุทธ์ อยู่ต่อตลอดไปนานๆ เลย อันนี้กูเริ่มขำไม่ออกละ อีดอก”
 
*หมายเหตุดอกจันทร์ เอ็มมิกา แอชฟอร์ด นี่เป็นคนที่เขียนโพสต์ทวงหาเงินเยียวยา ๕ พัน “กูลงไว้ว่าทำงานนวด และเป็นกะหรี่ ซึ่งเป็นความจริงทุกประการ เดือดร้อนมากเพราะปิดประเทศ ฝรั่งเข้ามาไม่ได้กูเลยไม่มีลูกค้า”

เธอยกเหตุผลอันสมควรได้รับการเยียวยาว่า “ไม่มีอาชีพไหนจะอิสระไปกว่านี้แล้ว” ท่านผู้อ่านคงทราบแล้วหละว่าที่เขาแจก ๕ พันนั่น สำหรับพวกแรงงานนอกระบบไม่อยู่ในกระบวนประกันสังคม และผู้มีอาชีพอิสระ แต่ปรากฏคนเหล่านั้นถูกปฏิเสธเยอะแยะ

เพราะระบบคัดกรอง ห่วยมากผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศซึ่งไปเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ถูกระบบตีตราเป็นนักศึกษา ผู้ใช้แรงงานบางรายถูกแทงกลับว่าเป็นเกษตรกรเสียดื้อๆ ถ้ามี #กะหรี่ตกอับ ไปลงทะเบียนกันมากๆ อยากรู้ว่าระบบตอบว่าไง