วันอาทิตย์, ธันวาคม 02, 2561

รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายเปล่งศักดาแก่กล้าขนาดนี้ รัฐบาลหน้าจะไปถึง 'ที่สุด' กันไหมนี่


วิษณุ เครืองาม เดี๋ยวนี้ไม่มากไม่น้อยไปกว่า เหลิงอำนาจ เหมือนพวกทหาร คสช. วันก่อน (๓๐ พ.ย.) พูดเองเออเอง

คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ รวมถึงคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ๖ ด้าน ไม่ต้องยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เพราะหลายคนทำท่าตกใจ ขอลาออกจากตำแหน่ง” ไม่เท่านั้น คำสั่งด้วยปากทั่นรองฯ ครอบคลุมไปถึงกรรมการในองค์การมหาชน กรรมการสภามหาวิทยาลัยด้วย

ที่เป็นข่าว “บางท่านอาจลาออกไปแล้วด้วยซ้ำไป บางท่านกำลังเตรียมจะลาออก” วิษณุบอก “กรุณาอย่าไปลาออก เพราะทั้งหมดที่เป็นประกาศ ป.ป.ช.ออกไปนั้น เขาจะแก้ไขหรือยกเลิกทั้งหมด เพราะฉะนั้นเมื่อทบทวนใหม่แล้ว มันจะไม่ครอบคลุมสิ่งที่ท่านเป็นอยู่”

ไม่รู้เป็นเพราะเหตุกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งประกาศว่า “ไม่อยากยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ปปช. แต่ในช่วงท้ายกลับระบุว่า หาก ปปช.มีการเปลี่ยนแปลงประกาศ ขยายเวลาเพิ่มและประกาศเดิมไร้ผลบังคับ ก็จะขอระงับใบลาออก” หรือเปล่า

ไม่เช่นนั้นน่าจะเพราะกรรมการบอร์ดหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) สี่คนยืนยันจะลาออกแน่นอนเพราะมีปัญหากับการยื่นบัญชีทรัพย์สิน (ก่อนหน้านี้มีแพทย์หญิงคนหนึ่งพูดให้ฮาว่า ถ้าให้ต้องยื่นบัญชีแล้วจะเป็นการเสี่ยงต่อโจรผู้ร้ายปล้นทรัพย์)

แต่สี่คนนีทำให้รัฐมนตรีสาธารณสุขสั่นเป็นเจ้าเข้า ในเมื่อไปอ้อนวอนให้อยู่ก่อนแล้วไม่มีใครเอา อ้างจะมีผลกับการประชุมบอร์ดไม่ครบองค์ ๗ คน ไม่สามารถพิจารณาเรื่องสำคัญได้ ต้องเร่งจัดการสรรหากรรมการใหม่มาแทนที่ ภายในวันที่ ๓ ธันวานี้เลย โหยยุ่งตายห่ละนี่

รองนายกฯ รัฐบาล คสช. ฝ่ายกฎหมายเปล่งศักดาแก่กล้าขนาดนี้ ร้อนถึงสภาคณาจารย์ ศูนย์ประสานงานเจ้าหน้าที่อุดมศึกษา และกลุ่มเสริมธรรมาภิบาลมหาวิทยาลัย ร้องฮ้าว่านี่ คสช. จะใช้ ม.๔๔ กดดันการทำงานของ ปปช.เชียวหรือ

นพ.สุธีร์ รัตนะมงคลกุล ผู้ประสานงานของที่ประชุมชี้ว่าคำพูดของนายวิษณุ “เข้าข่ายการแทรกแซงการทำหน้าที่อย่างโปร่งใสขององค์กรอิสระ” อีกทั้ง “อาจถือได้ว่าเป็นการใช้อำนาจจากตำแหน่งที่มีทางการเมืองเข้าแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบที่เป็นมาตรฐานตามหลักธรรมาภิบาล”


ไม่เท่านั้นอาการทั่นรองฯ หัวหมอที่เดี๋ยวนี้พูดจาวางก้ามหนักข้อ (ไม่ช้าคงออกลายเจ้านาย มีสร้อย ห่าเหว ซังกะบ๊วย บ้างละ) ลามไปถึงเรื่องแบ่งเขตของ กกต. ซึ่ง เกอรีแมนเดอร์ เสียจนภาพแผนที่เขตที่แบ่งเป็นรูปตัวด้วงและผีเสื้อ น่าร้าก
 
วิษณุบอกใครไม่พอใจไปร้องศาลปกครองเอาเอง แต่คำสั่ง คสช.ที่ออกมาให้อำนาจ กกต.เรื่องนี้ ฉบับที่ ๑๖/๒๕๖๑ นั้นดีไซน์ไว้ “เป็นตัวป้องกันในการฟ้องร้อง ซึ่งจะคุ้มครองเฉพาะกรรมการชุดใหญ่ ที่เราเขียนป้องกันไว้ให้”

ส่วนพวกลูกไล่หางแถว “ในระดับล่าง หรือ กกต.จังหวัด” ที่มีหลักฐานยืนยันว่า “การทุจริตหรือตุกติก” ไม่ได้มาจากชุดใหญ่ “ถ้าไปยื่นแล้วศาลเห็นว่าคำร้องที่ถูกยื่นไม่เข้าข่ายเพราะการแบ่งเขตที่ออกมาเป็นที่สุดแล้ว ศาลก็จะไม่รับคำร้องดังกล่าว”

เรื่องสุดไม่สุดนี่ต้องฟังทั่นรองฯ อีกคน รายนี้รองเลขาธิการ กกต. ณัฎฐ์ เล่าสีห์สวกุล พูดเอาไว้ให้กึ๊ก “การแบ่งเขตของ กกต.ทั้ง ๓๕๐ เขต ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ ๑๖/๒๕๖๑ ให้ถือเป็นที่สุด”
 

ถ้าจะให้สุดๆ แต่ไม่ พิสุทธิ์ คงต้องสไตล์พวกตะหาน คสช. ใช้กฎหมายและคำสั่งที่ออกกันมาเอง แบบว่าเที่ยวฟ้องนักการเมืองคนโน้นคนนี้เป็นชนักปักหลังไว้ หรืออย่างน้อยแกล้งให้ไปนอนคุกเสียสามสี่คืนฐานที่วิพากษ์ด่าว่า คสช. ให้ได้อาย

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. แก้ตัวแทนคณะรัฐประหารว่าการฟ้องคดีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยนั้น ไม่ได้แอบแต่เดินเข้าไปแจ้งความตามปกติ “หากมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่น หมิ่นประมาท ทำให้บุคคลหรือองค์กรได้รับความเสียหาย”
 
ความเสียหายที่ว่าคือการไปออกรายการว้อยซ์ทีวีเมื่อ ๕ เดือนที่แล้ว บอกว่า “การเขียนรัฐธรรมนูญ การออกฏหมายลูก คำสั่ง คสช.ที่ออกมาโกง อีกทั้งยังมีการสืบทอดอำนาจ” ที่ใครๆ ก็พูดอย่างนี้เกลื่อนเว็บ บางรายเพราะเกิด ตาสว่าง ทั้งที่เคยเป่านกหวีดกวักมือเรียกทหารเข้ามายึดอำนาจด้วยซ้ำ

ข้อสำคัญมันอยู่ที่ “ไปขอหมายจับวันศุกร์ตอนบ่าย กะว่าถ้าจับตนได้ก็ต้องนอนในห้องขังก่อน เพราะศาลหยุดวันเสาร์อาทิตย์ แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงศาลแล้ว ศาลไม่ออกให้เพราะตนไม่ได้ฆ่าคนตาย ไม่ได้ค้ายาเสพติด ไม่ได้ผิดลูกเมียใคร เขาพูดเรื่องประชาธิปไตย” ต่างหาก


นี่ เสรีเพิ่งท้าประยุทธ์ (จันทร์โอชา) มาลงเลือกตั้งแข่งกันมั้ย ใครชนะอีกฝ่ายต้องหยุดการเมืองตลอดชีวิต ซึ่งแน่อยู่แล้วประยุทธ์ไม่เอาหรอก เขารอพวกพรรคลิ่วล้อเอาเสลี่ยงมาหามไปเป็นนายกฯ

แต่ถึงตอนนี้มีปัญหา แม้จะได้เป็นนายกฯ แต่เสียงในสภาผู้แทนฯ ไม่พองัดกับฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าเขารวมตัวกันได้เกิน ๒๕๐ เสียงโดยไม่ยาก สามารถยื่นญัตติไม่ไว้วางใจนายกฯ แล้ว สว.ลากตั้งไม่มีสิทธิเข้ามาช่วย ก็จบเห่