วันอาทิตย์, ธันวาคม 02, 2561

เกร็ดเล็กน้อยอันยิ่งใหญ่ของ 'จอร์จ บุช' อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 41 ซึ่งถึงแก่อสัญกรรม ด้วยวัย 94




The letter George H.W. Bush left for Clinton is a lesson in grace





Dear Bill,

When I walked into this office just now I felt the same sense of wonder and respect that I felt four years ago. I know you will feel that, too.

I wish you great happiness here. I never felt the loneliness some Presidents have described.

There will be very tough times, made even more difficult by criticism you may not think is fair. I’m not a very good one to give advice; but just don’t let the critics discourage you or push you off course.

You will be our President when you read this note. I wish you well. I wish your family well.

Your success now is our country’s success. I am rooting hard for you.

Good luck—

George
...

“ท่านกำลังจะได้เป็นประธานาธิบดีของประเทศเรา เมื่อท่านกำลังอ่านสารนี้ ผมขอส่งความปรารถนาดีต่อท่านและครอบครัว, ความสำเร็จของท่านคือความสำเร็จของประเทศชาติ ผมขอสนับสนุนต่อท่านอย่างแข็งขัน”บุชส่งสารถึงบิล คลินตัน ผู้ที่โค่นเขาลงจากตำแหน่ง ในการเลือกตั้งปี 1993

บุชประสบความสำเร็จในด้านต่างประเทศ รวมทั้งหยุดอหังการของซัดดัม ฮุสเซน ในสงครามอ่าว แต่แพ้เลือกตั้งสมัยสองให้กับคลินตัน ผู้ซึ่งตอบโจทย์ปัญหาเศรษฐกิจได้ดีและโดนใจคนอเมริกันมากกว่า

“แม้เราจะแข่งขันดุเดือดในสนามเลือกตั้ง แต่การเมืองไม่จำเป็นต้องเถื่อนถ่อยต่ำทรามเสมอไป”เขากล่าวถึงผู้ชนะ และก็ทำตามคำที่ว่าจริงๆ ในภายหลังจากทั้งคู่ถอดหัวโขน ได้ร่วมกันทำสาธารณกุศลอย่างแข็งขัน จากพิบัติภัยสึนามิ ถึงวาตภัยคัทราริน่า

บุชยังบอกว่าเลือกตั้งประธานาธิบหนล่าสุดเขาโหวตให้กับฮิลลารี คลินตัน แทนที่จะเป็นทรัมพ์ ซึ่งสังกัดพรรคเดียวกับเขา

เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงหนังตลกเรื่อง My Americans Fellow เรื่องราวที่ผูกเรื่องให้2อดีตประธานาธิบดีคู่แข่งคู่แค้นมาเผชิญชะตากรรมร่วมกัน จึงชิงดีชิงเด่นตัดแข้งขาสารพัด แต่เมื่อต้องเลือกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัว กับผลประโยชน์แห่งชาติ ทั้งคู่ไม่ลังเลเลยที่จะร่วมกันเลือกอย่างหลัง

https://youtu.be/eOG4-02ktyg

แต่เมื่อมาคิดถึงเรื่องราวที่เป็นจริงในการเมืองไทย ว่าด้วยสปิริต ความมีน้ำใจนักกีฬารู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย และผลประโยชน์แห่งชาติ ก็ทำเอาผมตลกไม่ออกเหมือน

ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์