https://www.facebook.com/Moo.Cartoon/videos/10155826983198144/
...
ความในใจ ของ การ์ตูน ชนกนันท์ ร่วมทรัพย์ ผู้ลี้ภัยรายล่าสุด คดี 112
ล่าสุดกำลังจะยื่นขอลี้ภัย ที่เกาหลีใต้.......
เรียบเรียง by Nuttigar Woratunyawit
14 hrs ·
บางส่วนจากบทสัมภาษณ์น้องการ์ตูน ชนกนันท์ ร่วมทรัพย์ ผู้ลี้ภัยรายล่าสุดที่ได้หลบหนีออกจากประเทศไทยตั้งแต่กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา จากที่ทหารแจ้งความเอาผิดตามมาตรา 112 ในรายการ Thais Voice โดย จอม เพชรประดับ
ขณะนี้เธอกำลังเตรียมยื่นเอกสารที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยหลังการยื่นจะสามารถอยู่ที่นี่ได้แบบถูกกฎหมายจนกว่าศาลจะตัดสินว่าจะได้สถานะผู้ลี้ภัยหรือไม่
เหตุที่เลือกเกาหลีใต้นั้นไม่ได้ตั้งใจแต่แรก ทุกอย่างฉุกละหุกไปหมด แต่เพราะสามารถอยู่ที่นี่ได้ 90 วันอย่างถูกฎหมาย ซึ่งนานพอสมควรที่จะจัดการและเพื่อไปประเทศที่สามต่อ
ใจอยากไปประเทศญี่ปุ่นหรือประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษซึ่งต้องใช้วีซ่าและต้องใช้เวลา แต่ได้พบทนายสิทธิที่นี่เข้ามาแนะนำเรื่องกระบวนการ ถ้าต้องรอวีซ่าไปประเทศอื่นทำไมไม่ยื่นที่นี่เลย เท่าที่รู้ถ้าได้จะเป็นคนไทยคนแรกที่ได้สถานะที่เกาหลีใต้
จากคำบอกเล่าของทนายถือเป็นคดีที่แข็งและมีหลักฐานที่แน่นมาก
วินาทีที่ได้รับหมายเรียกข้อหา 112 ซึ่งส่งมาทางไปรษณีย์ พอเปิดอ่านก็มือสั่น ขับรถกลับบ้าน พูดอะไรไม่ออก ปรึกษาเพื่อนและคนใกล้ชิด ทุกคนช๊อค
เหตุจากการแชร์ข่าว BBC กรณีเดียวกับไผ่ ซึ่งถูกตัดสินแล้วว่า จำคุก 5 ปี สารภาพลดเหลือ 2 ปีครึ่ง
จากการที่เคยเข้าไปในคุกไม่ถึงวันเต็มจากที่ได้ประกันตัวในคดีราชภักดิ์และถูกปล่อยตัวที่เรือนจำ ทำให้ได้คิดว่า หากต้องเข้าไปใช้ชีวิตในนั้นสองปีกว่า ออกมาเราคงไม่เป็นแบบนี้แน่ๆ
ความรู้สึกของพ่อแม่คือไม่อยากให้ติดคุก
เวลาในการตัดสินใจและเก็บกระเป๋าไม่กี่ชั่วโมง มีโอกาสลากับครอบครัวและเพื่อนสนิทแค่ไม่กี่คน
ระหว่างเดินทางรู้สึกอยากร้องไห้ตลอดเวลา แต่ก็กลัวเป็นที่ผิดสังเกต ในช่วงอาทิตย์แรกรู้สึกเหงามาก รู้สึกว่าเรามาทำอะไรที่นี่ คิดแค่ว่า ทำให้ตัวเองปลอดภัย
ตอนนี้ความรู้สึกของคนในครอบครัวดีขึ้นเพราะทุกอย่างเริ่มจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น มีที่อยู่ประจำแล้ว เริ่มคุ้นชินกับเมือง พ่อแม่ก็สบายใจขึ้น
คุยกับพ่อแม่ตั้งแต่แรกแล้วว่า การออกมาครั้งนี้อาจจะไม่ได้กลับไปอีกแล้ว หรือได้กลับไปก็คงแก่มากๆ และอีกเหตุผลที่ยื่นเรื่องที่นี่ก็เพราะพ่อแม่จะได้มาเยี่ยมได้ไม่ไกลมาก
ความรู้สึกเหมือนตัวเองออกจากประเทศไทยในปี 2474 แล้วปีหน้าจะเป็น 2475 ซึ่งดูแนวโน้มทางการเมืองแล้วน่าจะสดใสขึ้นบ้าง เนื่องจากเห็นพลังของคนรุ่นใหม่หน้าใหม่ๆที่ออกมาแสดงพลังเคลื่อนไหวตามท้องถนนเพิ่มขึ้นในจำนวนที่เห็นได้ชัด ซึ่งเป็นความหวัง
ช่วงหลังรัฐประหารใหม่ๆ เคยคุยกับเพื่อนๆเล่นๆว่าถ้าจะต้องติดคุกด้วยคดีไหนก็จะสู้ แต่ถ้าต้องติดด้วยคดี 112 ก็ไปเถอะ มันไม่คุ้มที่จะติดคุก
คิดว่าการเมืองมันเปลี่ยนตลอดและอาจจะมีเซอร์ไพร์ก็ได้
ฝากให้กำลังใจและชื่นชมเพื่อนๆที่ออกมาเคลื่อนไหวตอนนี้ ขอให้สู้ต่อไป ซักวันนึงคนแก่ๆก็จะหายไป และซักวันนึงก็จะเป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ ยังไงคนรุ่นใหม่ก็จะสามารถกำหนดอนาคตตัวเองได้
น้องการ์ตูนเริ่มเข้าเส้นทางการเมืองตั้งแต่ตอนอยู่ปี 2 ที่จุฬาฯ จากงานเสวนาเรื่องชุดนิสิตว่าทำไมเรายังต้องใส่ชุดนิสิตอยู่ และเห็นชื่อองค์กรที่จัด ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองเดียวของจุฬาคือ ประชาคมจุฬาเพื่อประชาชน ซึ่งได้สมัครเข้ากลุ่มนี้ สามารถจัดเสวนาได้ทุกเดือนและคนเข้าร่วมเต็มตลอด สามารถจัดเสวนาเรื่องยกเลิก 112 ได้ รวมถึงหลายๆเรื่องที่สามารถพูดได้ที่ไม่มีใครโดนจับ จนกระทั่งรัฐประหารจึงได้เกิดการรวมกลุ่มกันกับเพื่อนต่างมหาวิทยาลัย และถูกจับหน้าหอศิลป์จึงได้เกิด NDM ขึ้นมา
เสนอให้ยกเลิก 112 ซึ่งเป็นความท้าทายที่มีราคาแพงมากๆกับพรรคการเมืองที่ต้องการชูประเด็นนี้ ซึ่งมีคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในจำนวนที่พอๆกัน เชื่อว่าไม่มีใครกล้าเสนอเพราะเหมือนเป็นการฆ่าตัวตายทางการเมืแง และพรรคการเมืองที่จัดตั้งมาใหม่อาจจะต้องการสู้ในประเด็นอื่นๆก่อนแลัวจึงมาแตะ 112 ในภายหลัง
หากมีการเลือกตั้งเชื่อว่าจะช่วยคลายปมขัดแย้งทางการเมืองไปได้เปราะนึง อาจจะโล่งขึ้น แต่ที่น่าสนใจคือ การเลือกตั้งในครั้งนี้จะโปร่งใสแค่ไหน จะแฟร์แค่ไหนมากกว่า ถ้าการเลือกตั้งมีการสืบทอดอำนาจ คสช. ใครที่ได้รับเลือกเข้ามาแต่ไม่สามารถใช้อำนาจได้เต็มที่ก็อาจะเกิดปัญหาต่อไปอยู่ดี
มีคนถามว่าเสียใจมั้ยที่โพสต์ เสียใจมั้ยที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ขอตอบแบบเดิม ตอบแบบนี้มาตลอด 6 ปีว่า ไม่เคยเสียใจ ไม่เคยเสียดายที่ทำอะไรก็ตาม เพราะมันเป็นคอมมอนเซนส์ เป็นสิทธิ์
112 น่ากลัวตรงที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เครื่องมือในการกลั่นแกล้ง ใครจะฟ้องใครก็ได้ อัตราโทษสูง ไม่มีการเปิดเผยการพิจารณา ทำให้เหมือนเราหลุดเข้าไปในหลุมดำเมื่อโดนคดีนี้ เราไม่อาจรู้ได้เลยว่า คดีจะออกมาในรูปแบบไหน และยังเป็นเครื่องมือของความเกลียดชังมากกว่า เช่น เพื่อแจ้งความเพื่อน พี่แจ้งความน้อง ทะเลาะกันแล้วแจ้ง 112 มันน่ากลัวตรงนี้
112 เป็นเรื่องที่ทุกคนควรตะหนักว่าซักวันอาจเป็นคุณ อาจเป็นคนที่คุณรู้จัก เราเองอาจจะตกไปเป็นเหยื่อของเครื่องมือทางการเมืองแบบนี้ ทุกคนควรยืนหยัดพร้อมกันและหนักแน่น ถ้าเรากลัวก็เหมือนกฎหมายนี่เหมือนได้รับของหวานแล้วตัวจะใหญ่ขึ้น
ความลำบากใจที่สุดตอนนี้คือ ผู้ลี้ภัยไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมายอย่างนอยๆ 6 เดือน หลังจากนั้นก็จะขอ work permit และมีการเทรนด์แรงงานเพื่อไปทำงาน ซึ่งอาจเป็นงานที่เราไม่ชอบ ช่วงนี้จึงว่าง ลำบาก จัดการกับสภาพจิตใจที่ไม่มีอะไรทำ
ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเข้ารูปเข้ารอย เริ่มมีทางไป เห็นวันข้างหน้าว่าต้องทำอย่างไรต่อ
ปล.ภาพทั้งหมดจากเฟสบุ๊คน้องการ์ตูนค่ะ
บทสัมภาษณ์ฉบับเต็มตามลิงค์นะคะ
https://www.facebook.com/jom.petchpradab/videos/10156082700853965/
Jom Petchpradab was live.
2 March at 17:37 ·
"การ์ตูน"อีกชีวิตที่..หลุดลอย ตอกย้ำม.112 "หลุมดำ"ของคนไทย
น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ หรือ"การ์ตูน" ผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งได้เดินทางออกจากประเทศไทยกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังทำเรื่องขอลี้ภัยการเมืองในประเทศเกาหลีใต้ ได้ให้สัมภาษณ์ Thai Voice เป็นครั้งแรก เกี่ยวกับชีวิตผู้ลี้ภัยในต่างประเทศของเธอว่า ขั้นตอนการขอสถานะผู้ลี้ภัยในเกาหลีใต้มีความยุ่งยากและใช้เวลานานมาก และไม่เคยมีคนไทยขอลี้ภัยประเทศนี้มาก่อน ซึ่งทนายที่เป็นคนเกาหลีใต้บอกว่าอาจจะใช้เวลานานเพราะต้องต่อสู้กันถึง 3 ศาล เหตุที่เลือกเกาหลีใต้ เพราะมีเวลาตัดสินใจไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะออกจากไทย และมีทนายเกาหลีให้คำแนะนำจึงเลือกเกาหลีใต้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่เสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป เพราะถือสิทธิขั้นพื้นฐานที่สามารถแสดงออกได้ และนี่คือการตอกย้ำให้เห็นถึงปัญหาของก ารบังคับใช้ ม.112 ที่ผู้มีอำนาจรัฐใช้เป็นเครื่องมือเพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจ เป็นหลุมดำของสังคมไทยที่ทำให้ ทุกคนกลัว ดังนั้นหากจะให้แก้ปัญหานี้ สังคมไทยจะต้องหนักแน่นและยืนหยัดร่วมกันเพื่อแก้ปัญหานี้
ที่มา FB
พลเมืองต่อต้าน Single Gateway เพื่อเสรีภาพและความยุติธรรม #opsinglegateway
Page Liked · March 4 ·