เปรียบเทียบฝีมือ— Killer (@KillerPress) October 2, 2018
รัฐมนตรีเผด็จการชุดนี้ ฝีมือต่ำชั้นกว่ารัฐบาลเผด็จการสุรยุทธมากนัก
และไม่น่าเชื่อว่า ยุคเผด็จการที่คัดตัวได้แบบไร้ขีดจำกัดเรื่องมุ้งก๊วนทางการเมือง จะได้มาแค่นี้ เพราะทั้ง 2 ครม.ฝีมือต่ำชั้นกว่ารัฐบาลเลือกตั้งสมัยทักษิณอย่างเทียบไม่ติด#จบการรีวิว https://t.co/XDmjdXJvae
กระตุ้นบริโภคโค้งสุดท้ายคลังเร่งเบิกจ่ายงบปี62ดันเศรษฐกิจ
Post Today
คลังสั่งเร่งเบิกจ่ายงบปี 2562 หวังกระตุ้นบริโภคโค้งสุดท้าย เอกชนยันไตรมาส 4 กำลังซื้อฟื้น
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงการคลังทำงานเต็มที่ แม้ในปีหน้าจะมีการเลือกตั้งก็ห้ามข้าราชการเกียร์ว่าง โดยเฉพาะต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2562 ให้ได้ตามเป้าหมาย และเร่งดำเนินการรับจ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้หมด หากมีปัญหากฎระเบียบให้รีบแก้ไข เพื่อให้เม็ดเงินออกไปมากที่สุด
นางญาณี แสงศรีจันทร์ โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2562 กรมบัญชีกลางได้เร่งทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ ในปีนี้จะให้แต่ละหน่วยงานตั้งคณะทำงานดูแล ติดตามการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน จะส่งผลให้เม็ดเงินในการเบิกจ่ายช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
นายปริญ มาลากุล ณ อยุธยาผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบียร์ไฮเนเก้น กล่าวว่า ในไตรมาส 4 คาดว่าภาพรวมตลาดเบียร์จะดีขึ้นจากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาตลาดไม่เติบโต ความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีผลทำให้เงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ความชัดเจนในการเลือกตั้งส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุนจะส่งผลดีต่อการบริโภคนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เป็นต้นไป เป็นแรงส่งต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ กับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ตลาดรถยนต์เติบโตสูงในปีนี้
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 จะเติบโต 4.2% มีปัจจัยฉุดหลักคือราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
ooo
‘สช.’ เร่งหาเงินกว่า 450 ล. ช่วยร.ร.แก้วิกฤติค่าหนังสือเรียน
3 ตุลาคม 2561
มติชนออนไลน์
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(กช.) เปิดเผย กรณีโรงเรียนในคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ประสบปัญหาไม่มีเงินจ่ายค่าหนังสือเรียนให้แก่ร้านค้า เนื่องจากนโยบายของ ศธ. เรื่องการบริหารจัดการหนังสือเรียน และแบบฝึกหัดตามโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานกรณีโรงเรียนในสังกัด มีนโยบายว่าในปีการศึกษา 2561 จะเเจกหนังสือเรียนครบ 100% แต่ขณะนี้โรงเรียนได้รับการจัดสรรงบประมาณเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ว่า ความคืบหน้าในการจัดหาเงินจำนวน 651 ล้านบาท เพื่อจัดสรรจ่ายเป็นค่าหนังสือเรียนให้กับโรงเรียนในสังกัด สช. สัปดาห์ที่ผ่านมา สช.ได้ส่งหนังสือสอบถามงบเหลือจ่ายจากต้นสังกัดคือสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ว่ามีเงินเหลือจ่าย จากหน่วยงานที่ สป.ศธ.ดูแลอยู่เท่าไร เช่น สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เป็นต้น เนื่องจากสถานะการเงินของสช. ไม่มีเงินเหลือจ่ายแล้ว หากได้รับเงินเหลือจ่ายจาก สป.ศธ. ไม่พอ สช.จะดำเนินการสอบถามยังสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง เพื่อของบกลาง มาใช้และวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา สช.ได้รับเงินเหลือจ่ายจาก สป.ศธ. มา 200 ล้านบาท ขณะนี้ยังขาดเงินกว่า 450 ล้านบาท เพื่อจะมาจัดสรรจ่ายเป็นค่าหนังสือให้โรงเรียน
“ดังนั้น การดำเนินการต่อไปของ สช. คือ ประสานและทำหนังสือไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อของบกลางมาใช้ต่อไป ซึ่งไม่ทราบว่ากระบวนการใช้ระยะเวลากี่วัน หากสำนักงบ ตรวจสอบเรื่องเรียบร้อยแล้ว จะนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อทำการพิจารณาอนุมัติต่อไป ทั้งนี้เงินจำนวน 200 ล้านบาท สช.ไม่อยากจะเก็บไว้ เพื่อรอเงินจากสำนักงบมาสมทบให้ครบเต็มจำนวน 651 ล้านบาท เพราะทราบว่าโรงเรียนในสังกัดเดือดร้อนมาก จึงวางแผนจัดสรรเงินจำนวนนี้ให้กับโรงเรียนที่เดือดร้อน และมีวิกฤติด้านการเงินไปก่อน” นายชลำ กล่าว
คลังสั่งเร่งเบิกจ่ายงบปี 2562 หวังกระตุ้นบริโภคโค้งสุดท้าย เอกชนยันไตรมาส 4 กำลังซื้อฟื้น
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงการคลังทำงานเต็มที่ แม้ในปีหน้าจะมีการเลือกตั้งก็ห้ามข้าราชการเกียร์ว่าง โดยเฉพาะต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2562 ให้ได้ตามเป้าหมาย และเร่งดำเนินการรับจ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้หมด หากมีปัญหากฎระเบียบให้รีบแก้ไข เพื่อให้เม็ดเงินออกไปมากที่สุด
นางญาณี แสงศรีจันทร์ โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2562 กรมบัญชีกลางได้เร่งทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ ในปีนี้จะให้แต่ละหน่วยงานตั้งคณะทำงานดูแล ติดตามการเร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน จะส่งผลให้เม็ดเงินในการเบิกจ่ายช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
นายปริญ มาลากุล ณ อยุธยาผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบียร์ไฮเนเก้น กล่าวว่า ในไตรมาส 4 คาดว่าภาพรวมตลาดเบียร์จะดีขึ้นจากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาตลาดไม่เติบโต ความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีผลทำให้เงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ความชัดเจนในการเลือกตั้งส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุนจะส่งผลดีต่อการบริโภคนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เป็นต้นไป เป็นแรงส่งต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ กับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ตลาดรถยนต์เติบโตสูงในปีนี้
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 จะเติบโต 4.2% มีปัจจัยฉุดหลักคือราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
ooo
‘สช.’ เร่งหาเงินกว่า 450 ล. ช่วยร.ร.แก้วิกฤติค่าหนังสือเรียน
3 ตุลาคม 2561
มติชนออนไลน์
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(กช.) เปิดเผย กรณีโรงเรียนในคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ประสบปัญหาไม่มีเงินจ่ายค่าหนังสือเรียนให้แก่ร้านค้า เนื่องจากนโยบายของ ศธ. เรื่องการบริหารจัดการหนังสือเรียน และแบบฝึกหัดตามโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานกรณีโรงเรียนในสังกัด มีนโยบายว่าในปีการศึกษา 2561 จะเเจกหนังสือเรียนครบ 100% แต่ขณะนี้โรงเรียนได้รับการจัดสรรงบประมาณเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ว่า ความคืบหน้าในการจัดหาเงินจำนวน 651 ล้านบาท เพื่อจัดสรรจ่ายเป็นค่าหนังสือเรียนให้กับโรงเรียนในสังกัด สช. สัปดาห์ที่ผ่านมา สช.ได้ส่งหนังสือสอบถามงบเหลือจ่ายจากต้นสังกัดคือสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ว่ามีเงินเหลือจ่าย จากหน่วยงานที่ สป.ศธ.ดูแลอยู่เท่าไร เช่น สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เป็นต้น เนื่องจากสถานะการเงินของสช. ไม่มีเงินเหลือจ่ายแล้ว หากได้รับเงินเหลือจ่ายจาก สป.ศธ. ไม่พอ สช.จะดำเนินการสอบถามยังสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง เพื่อของบกลาง มาใช้และวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา สช.ได้รับเงินเหลือจ่ายจาก สป.ศธ. มา 200 ล้านบาท ขณะนี้ยังขาดเงินกว่า 450 ล้านบาท เพื่อจะมาจัดสรรจ่ายเป็นค่าหนังสือให้โรงเรียน
“ดังนั้น การดำเนินการต่อไปของ สช. คือ ประสานและทำหนังสือไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อของบกลางมาใช้ต่อไป ซึ่งไม่ทราบว่ากระบวนการใช้ระยะเวลากี่วัน หากสำนักงบ ตรวจสอบเรื่องเรียบร้อยแล้ว จะนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อทำการพิจารณาอนุมัติต่อไป ทั้งนี้เงินจำนวน 200 ล้านบาท สช.ไม่อยากจะเก็บไว้ เพื่อรอเงินจากสำนักงบมาสมทบให้ครบเต็มจำนวน 651 ล้านบาท เพราะทราบว่าโรงเรียนในสังกัดเดือดร้อนมาก จึงวางแผนจัดสรรเงินจำนวนนี้ให้กับโรงเรียนที่เดือดร้อน และมีวิกฤติด้านการเงินไปก่อน” นายชลำ กล่าว