วันพุธ, กันยายน 13, 2560

ฉายาใหม่ ศศิน เฉลิมลาภ 'นักอนุรักษ์เป็นพักๆ' อ่ะครับ

สปริงนิวส์เล่นข่าวแบบนี้ต้องเรียก เฟคนิวส์มีอย่างที่ไหนบอกว่า “รัฐบาล คสช.กำหนดวันกาบัตร ๑๐-๑๒ พ.ย.๖๑” แล้วอ้าง “สาเหตุที่รัฐบาลต้องเร่งกำหนดเลือกตั้ง เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ”

ข้อแรก กำหนดวันเลือกตั้งนี่เลื่อนมาไม่รู้กี่หนแล้วตลอดสองปีมานี่ ล่าสุด กกต. คำนวณว่าจะเป็นสิงหา ๖๑ คสช. ก็ว่าไม่ใช่อีก อ้างต้องออกกฎหมายลูก ๔ ฉบับให้เสร็จก่อน แถมรอให้ผ่านงบประมาณปี ๖๒ ในดือนกันยา ฉะนั้นไม่มีทางเลือกตั้งได้ก่อนพฤศจิกา

นั่นละ ‘fake’ ตรงที่บอกว่า เร่ง จริงๆ ต้องเรียก ลากส่วนจะ ยาว ต่อไปอีกไหม คงต้องดูใจเค้าแหละ

อ้อ แล้วก็พูดออกมาได้อย่างไร “สะท้อนได้จากความเป็นอยู่ของประชาชน ยังเผชิญปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น แต่ราคาสินค้าเกษตรกลับตกต่ำทุกตัว ซึ่งรัฐบาล คสช.ยังไม่สามารถแก้ไขเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้

ทำให้ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองต้องการให้รัฐบาล กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจนในปีหน้านี้


ผู้หย่งผู้ใหญ่ที่ไหนกัน พวก คสช.คับบ้านคับเมืองอย่างนี้ยังไม่หย่ายอีกหรือ ไอ้ที่ทำไปไม่เคยผิด ส่วนที่ไม่ได้ทำก็ล้วนเป็นเรื่องไม่ถูก ทำไมไม่คิดเสียบ้างว่าเวลาเหยียบขี้หมา มันเหม็นที่ตัวเรา ไม่ได้กลิ่นก้นหมา

กรณีมหาดไทยอนุญาต กระทิงแดงเช่าที่ป่าชุมชน ๓๓ ไร่กว่าสำหรับใช้ในการผลิตอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม อ้างว่าเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ไม่ใช่ป่าต้นน้ำสำหรับอนุรักษ์ แต่ความจริงปรากฏว่าพื้นที่นั้นเป็นป่าสมบูรณ์ จึงมีการโวยวายกันขึ้น

เสร็จแล้วรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกลับบอกว่า หากเป็นดังที่ร้องเรียนกัน “ถ้าไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกฎหมาย เจ้าหน้าที่ส่วนใดดำเนินการต้องรับโทษทั้งสิ้น...

ต้องหาคนทำผิดให้ได้ แปลกเหมือนกันจังหวัดไม่ได้ใหญ่โต แต่ทำไมคนไม่เห็นด้วยนั้นมี แต่เอกสารที่ส่งขึ้นมาบอกว่าประชาชนเห็นด้วยเป็นเอกฉันท์ เป็นเรื่องหนึ่งที่สงสัย เอกสารร้องเรียนไม่มีขึ้นมา


แหม่ หยั่งงี้ไม่เห็นจะต้องสงสัยอะไรมาก ใครๆ ก็ตอบได้ว่า ถ้าไม่ใช่ผู้น้อยชงเรื่องขึ้นมาตบตานาย ก็มี ผู้ใหญ่ กระซิบให้จังหวัดจัดการแทนเท่านั้นเอง เมื่อเรื่องมันแดงขึ้นมา ตัวนายนั่นละรับไป จะเป็นด้วยความงี่เง่า หรือว่ามูมมาม อย่างใดอย่างหนึ่งหนีไม่พ้น

แต่นี่ คสช. เสียอย่าง กำลังจะลอยนวลอีกครั้ง ในเมื่อสำนักข่าวอิศราขุดเจอใบอนุญาตให้บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ใช้ที่ดินสาธารณะห้วยเม็กเป็นเวลา ปี สิ้นสุด วันที่ ๑๐ ก.ค. ๒๕๖๔ นั้น

ลงนามโดยนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในฐานะผู้อนุญาตในขณะนั้น (ปัจจุบันนายกำธรเสียชีวิตแล้ว)


หนักเข้าไปใหญ่ ผู้ว่าฯ คนปัจจุบันออกมาช่วยแก้ไขให้อีกด้วยว่า “ชาวบ้านออกมาบอกว่าคัดค้านไม่เอาด้วย มีกี่คนกี่กลุ่ม

ถ้าชาวบ้านเสียงส่วนใหญ่กว่า ๙๐% เห็นด้วย มากกว่าชาวบ้านเสียงส่วนน้อยที่มีประมาณ ๑๐% จากนั้นคนเสียงส่วนน้อยก็ออกมาบอกว่าไม่เอาด้วยกับเสียงคนส่วนใหญ่ แบบนี้มันเป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยหรือไม่

ทว่านายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้ฟังข้อร้องเรียนของชาวบ้านหรือยัง ที่เขาถามว่า “การทำกระบวนการประชาคมของชาวบ้านในพื้นที่ มีความถูกต้องตามหลักวิธีการปฏิบัติหรือไม่

สถานะของชาวบ้านที่ลงนามสนับสนุนเป็นใครมาจากไหน? มีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่? มีเหตุผลปัจจัยอะไรที่ทำให้ต้องสนับสนุนไม่คัดค้าน

ส่วนที่ทั่นรัฐมนตรีพูดเอาเท่ห์ ว่าถ้ามีชาวบ้านไม่เห็นด้วยแม้คนเดียวก็จะงด ไม่ให้เช่าอีกต่อไป น่าจะเป็นเพราะมั่นใจอะไรสักอย่างหรือเปล่า ว่าที่สั่งรองอธิบดีกรมที่ดินลงไปตรวจสอบให้เสร็จภายใน ๑๕ วัน ผลจะเป็นอย่างไร

เรื่องนี้ ท่าที คสช. นั่นพอทำเนา ชาวบ้านพอรู้ว่าลงมีอะไรที่จะเข้าเนื้ออย่างนี้ คสช. มีผลลัพท์สำเร็จรูปไว้แล้ว ดูผลสอบทุจริตโครงการราชภักดิ์เป็นตัวอย่าง

ที่พูดกันว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษนั้น ขณะเดียวกันวิกฤติผิดพลาดก็ส่อให้เห็นธาตุแท้ของวีรบุรุษจอมปลอมเช่นกัน การนี้ไม่มีอะไรน่าขันเท่าปฏิกิริยาของ ศศิน เฉลิมลาภ นักอนุรักษ์เลื่องชื่อผู้ได้รับแต่งตั้งจาก คสช.ให้เป็นกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า และกรรมการอุทยานแห่งชาติ
 
พลันเมื่อปรากฏกรณี ป่ากระทิงแดง ก็มีการถามหาศศินว่าหายไปไหน ไม่ออกมาช่วยชาวบ้านห้วยเม็กร้องเรียนบ้าง “ทหารมานี่ถึงกับง่อยเปลี้ยเสียขากันเลย”

เขาอดรนทนต่อไปไม่ไหวจึงออกมา โต้คำเรียกร้อง “เค้าไม่ออกมาเดินค้านแล้วเหรอ อนุพงษ์ยกป่าให้กระทิงแดงแล้ว” ว่า

“ก็คนที่โพสต์เรื่องป่ากระทิงแดง มาเดินนำสิ...ถ้ามันแย่จริงคงมีคนออกมาเดินตาม ดังกว่าผมอีก ไล่รัฐบาลเผด็จการแบบที่เขาหาว่าผมไล่รัฐบาลเพื่อไทยได้ด้วย”

เขาอ้างด้วยว่าที่เคยคัดค้านเขื่อนแม่วงก์เพราะว่ามีข้อมูลพร้อม แต่ครั้งนี้ให้คนที่หวงป่ากระทิงแดง เดินนำสิ “ทำไมไม่เดินเองละ แปลก”

ร้อนถึง Liberal Democracy @ThaiFarmer_Son จึงคอมเม้นต์ว่า “นักพิทักษ์ป่าเลือกที่จะทำบางเรื่อง ไม่ทำบางเรื่อง อุดมการณ์ ยืดๆ หดๆ ได้ 555”

จึงเป็นที่มาของฉายาใหม่สำหรับศศิน เฉลิมลาภ มอบให้โดย Stop Dadjarit เรียกเขาว่า “นักอนุรักษ์เป็นพักๆ อ่ะครับ”