เจ็บไหม??? “อภิสิทธิ์” เจอถามกลางธรรมศาสตร์ “อยากบอกอะไรกับวิญญาณน้องเฌอ”!!!
BY BOURNE
ON SEPTEMBER 12, 2017
ispace thailand
ในอดีตผู้นำทางการเมืองไทยหลายคน เช่น จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกฯ พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกฯ ซึ่งในยุคสมัยที่บุคคลเหล่านี้เรืองอำนาจนั้น สุดท้ายจบลงด้วยการต่อต้านจากประชาชน จนเกิดเหตุการณ์นองเลือด มีประชาชนเสียชีวิตจากการใช้อำนาจรัฐปรามปราม ล้วนแต่ไม่ค่อยได้ออกสื่อ พยายามอยู่เงียบๆ เพราะแม้ว่าในเรื่องคดีความต่างๆ ไม่เคยปรากฏว่าสามารถเอาผิดบุคคลเหล่านี้ได้ แต่สังคมล้วนแต่จดจำเหตุการณ์ ความสูญเสียต่างๆได้เป็นอย่างดี ทำให้บุคคลเหล่านี้มักจะไม่ค่อยได้ปรากฏตัวสู่สาธารณะบ่อยนัก
สำหรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มีความคล้ายคลึงกันไม่น้อย แต่ที่แตกต่างออกไปก็คือ นายอภิสิทธิ์ เป็นอดีตนายกฯ คนเดียวที่ไม่ได้มาจากกองทัพโดยตรง แต่ก็ไม่ได้ชนะการเลือกตั้งเช่นกัน แต่กลับมีชื่อเป็นอดีตนายกฯที่ออกคำสั่งในหน่วยงานราชการใช้อาวุธและกระสุนจริงในการปราบปรามประชาชน จนเกิดความสูญเสียแก่ชีวิตประชาชนกว่า 99 คน บาดเจ็บมากกว่า 2,000 คน ในการสลายการชุมนุมทางการเมืองในปี 2553
เมื่อนายอภิสิทธิ์ ยังคงวนเวียนอยู่ในสนามการเมืองของไทย แม้ว่าวันนี้จะยังไม่มีใครสามารถเอาผิดนายอภิสิทธิ์ได้ แต่คำถามต่างๆยังคงถูกถามอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้(12 กันยายน 60) คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้มีการจัดปาฐกถาพิเศษโดยเชิญ อภิสิทธิ์ เวชชาวีชะ อดีตนายกรัฐมนตรีมาบรรยายภายใต้หัวข้อ “จากนักวิชาการ สู่นายกรัฐมนตรี ภาพการเมืองที่เปลี่ยนไปของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในงานรัฐศาสตร์วิชาการ ที่มีการจัดขึ้นทุกปีการศึกษา นายอภิสิทธิ์เองก็หลีกเลี่ยงคำถามเหล่านี้ไม่ได้เช่นเดิม
โดยภายในงานดังกล่าว มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งเข้าร่วมฟังการบรรยาย และแสดงออกเชิญสัญลักษณ์สื่อถึง ความไม่เห็นด้วยต่อการตัดสินใจสั่งสลายการชุมนุมในปี 2553 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 99 ศพ โดยการนั่งถือแผ่นที่เขียนคำพูดของอภิสิทธิ์ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า “And there were fighting on the street and people …unfortunately, some people died” น่าเสียดายที่บางคนก็ตาย
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 อดีตเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ได้เข้าไปสอบถามนายอภิสิทธิ์ในช่วงท้ายของงานว่า “ท่านคิดอย่างไรกับการที่เด็กอายุ 17 ปีถูกยิงตายที่ซอยรางน้ำ?” โดยมีการภาพทหารก้มเก็บปลอกกระสุนด้านหลังมีป้ายที่เขียนว่าเขตใช้กระสุนจริง และภาพมุมสูงที่มองเห็นร่างไร้วิญญาณของ สมาพันธ์ ศรีเทพ ซึ่งเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมในปี 2553 โดยเสียชีวิตจาการถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ
นายอภิสิทธิ์ ตอบด้วยสีหน้านิ่งเรียบว่า “ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นพร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการค้นหาข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม”
“ขอย้ำว่าพยายามจะหลีกเลี่ยงความสูญเสีย แต่เมื่อมีการใช้อาวุธกลับมา มันก็ยากที่จะเลี่ยงความสูญเสีย ซึ่งทุกวันนี้มีวาทกรรมมาต่อว่าตนอยู่ แม้ว่าศาลจะตัดสินไปแล้วก็ตาม” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้นายพริษฐ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับประชาไท โดยระบุว่า เขาและเพื่อนๆ ไม่เห็นด้วยที่ทางคณะกรรมการนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ตัดสินใจเลือกให้ อภิสิทธิ์ มาบรรยาย เนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
“การที่สถาบันทางวิชาการให้พื้นที่กับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ 99 ศพ กลางกรุงเทพฯ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้โดยอย่างยิ่งกับธรรมศาสตร์ที่เป็นมหาวิทยาลัยประวัติทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย มันเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถยอมรับได้ เราต้องแสดงให้เห็นว่าประชาคมธรรมศาสตร์ส่วนหนึ่งไม่ได้เห็นด้วยกับการที่คณะกรรมการนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์เชิญอภิสิทธิ์มาบรรยาย เราเลยประท้วงอย่างสงบด้วยการถือป้ายโควตคำพูดของคุณอภิสิทธิ์มานั่งฟังเขาบรรยาย” นายพริษฐ์กล่าว
แม้ว่าวันนี้ศาลฎีกาจะมีคำสั่งยกฟ้องนายอภิสิทธิ์กับพวกในข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนาเล็งเห็นผล แต่ศาลยกฟ้องโดยให้เหตุผลว่าการฟ้องร้องดังกล่าวนั้นฟ้องร้องผิดที่ การกระทำในฐานความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ จึงต้องฟ้องร้องที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งการยกฟ้องครั้งนี้ก็มิได้ยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ และพวกไม่ได้กระทำความผิดแต่อย่างใด
เพียงแต่คดีความทั้งหมดจะต้องถูกส่งและดำเนินการฟ้องร้องที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ภายใต้การทำสำนวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าการทำงานของ ป.ป.ช. จะมีความเป็นกลาง และยุติธรรมหรือไม่
ispace thailand
ในอดีตผู้นำทางการเมืองไทยหลายคน เช่น จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกฯ พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกฯ ซึ่งในยุคสมัยที่บุคคลเหล่านี้เรืองอำนาจนั้น สุดท้ายจบลงด้วยการต่อต้านจากประชาชน จนเกิดเหตุการณ์นองเลือด มีประชาชนเสียชีวิตจากการใช้อำนาจรัฐปรามปราม ล้วนแต่ไม่ค่อยได้ออกสื่อ พยายามอยู่เงียบๆ เพราะแม้ว่าในเรื่องคดีความต่างๆ ไม่เคยปรากฏว่าสามารถเอาผิดบุคคลเหล่านี้ได้ แต่สังคมล้วนแต่จดจำเหตุการณ์ ความสูญเสียต่างๆได้เป็นอย่างดี ทำให้บุคคลเหล่านี้มักจะไม่ค่อยได้ปรากฏตัวสู่สาธารณะบ่อยนัก
สำหรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มีความคล้ายคลึงกันไม่น้อย แต่ที่แตกต่างออกไปก็คือ นายอภิสิทธิ์ เป็นอดีตนายกฯ คนเดียวที่ไม่ได้มาจากกองทัพโดยตรง แต่ก็ไม่ได้ชนะการเลือกตั้งเช่นกัน แต่กลับมีชื่อเป็นอดีตนายกฯที่ออกคำสั่งในหน่วยงานราชการใช้อาวุธและกระสุนจริงในการปราบปรามประชาชน จนเกิดความสูญเสียแก่ชีวิตประชาชนกว่า 99 คน บาดเจ็บมากกว่า 2,000 คน ในการสลายการชุมนุมทางการเมืองในปี 2553
เมื่อนายอภิสิทธิ์ ยังคงวนเวียนอยู่ในสนามการเมืองของไทย แม้ว่าวันนี้จะยังไม่มีใครสามารถเอาผิดนายอภิสิทธิ์ได้ แต่คำถามต่างๆยังคงถูกถามอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้(12 กันยายน 60) คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้มีการจัดปาฐกถาพิเศษโดยเชิญ อภิสิทธิ์ เวชชาวีชะ อดีตนายกรัฐมนตรีมาบรรยายภายใต้หัวข้อ “จากนักวิชาการ สู่นายกรัฐมนตรี ภาพการเมืองที่เปลี่ยนไปของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในงานรัฐศาสตร์วิชาการ ที่มีการจัดขึ้นทุกปีการศึกษา นายอภิสิทธิ์เองก็หลีกเลี่ยงคำถามเหล่านี้ไม่ได้เช่นเดิม
โดยภายในงานดังกล่าว มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งเข้าร่วมฟังการบรรยาย และแสดงออกเชิญสัญลักษณ์สื่อถึง ความไม่เห็นด้วยต่อการตัดสินใจสั่งสลายการชุมนุมในปี 2553 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 99 ศพ โดยการนั่งถือแผ่นที่เขียนคำพูดของอภิสิทธิ์ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า “And there were fighting on the street and people …unfortunately, some people died” น่าเสียดายที่บางคนก็ตาย
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 อดีตเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ได้เข้าไปสอบถามนายอภิสิทธิ์ในช่วงท้ายของงานว่า “ท่านคิดอย่างไรกับการที่เด็กอายุ 17 ปีถูกยิงตายที่ซอยรางน้ำ?” โดยมีการภาพทหารก้มเก็บปลอกกระสุนด้านหลังมีป้ายที่เขียนว่าเขตใช้กระสุนจริง และภาพมุมสูงที่มองเห็นร่างไร้วิญญาณของ สมาพันธ์ ศรีเทพ ซึ่งเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมในปี 2553 โดยเสียชีวิตจาการถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ
นายอภิสิทธิ์ ตอบด้วยสีหน้านิ่งเรียบว่า “ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นพร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการค้นหาข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม”
“ขอย้ำว่าพยายามจะหลีกเลี่ยงความสูญเสีย แต่เมื่อมีการใช้อาวุธกลับมา มันก็ยากที่จะเลี่ยงความสูญเสีย ซึ่งทุกวันนี้มีวาทกรรมมาต่อว่าตนอยู่ แม้ว่าศาลจะตัดสินไปแล้วก็ตาม” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้นายพริษฐ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับประชาไท โดยระบุว่า เขาและเพื่อนๆ ไม่เห็นด้วยที่ทางคณะกรรมการนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ตัดสินใจเลือกให้ อภิสิทธิ์ มาบรรยาย เนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
“การที่สถาบันทางวิชาการให้พื้นที่กับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่ 99 ศพ กลางกรุงเทพฯ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้โดยอย่างยิ่งกับธรรมศาสตร์ที่เป็นมหาวิทยาลัยประวัติทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย มันเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถยอมรับได้ เราต้องแสดงให้เห็นว่าประชาคมธรรมศาสตร์ส่วนหนึ่งไม่ได้เห็นด้วยกับการที่คณะกรรมการนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์เชิญอภิสิทธิ์มาบรรยาย เราเลยประท้วงอย่างสงบด้วยการถือป้ายโควตคำพูดของคุณอภิสิทธิ์มานั่งฟังเขาบรรยาย” นายพริษฐ์กล่าว
แม้ว่าวันนี้ศาลฎีกาจะมีคำสั่งยกฟ้องนายอภิสิทธิ์กับพวกในข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนาเล็งเห็นผล แต่ศาลยกฟ้องโดยให้เหตุผลว่าการฟ้องร้องดังกล่าวนั้นฟ้องร้องผิดที่ การกระทำในฐานความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ จึงต้องฟ้องร้องที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งการยกฟ้องครั้งนี้ก็มิได้ยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ และพวกไม่ได้กระทำความผิดแต่อย่างใด
เพียงแต่คดีความทั้งหมดจะต้องถูกส่งและดำเนินการฟ้องร้องที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ภายใต้การทำสำนวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าการทำงานของ ป.ป.ช. จะมีความเป็นกลาง และยุติธรรมหรือไม่
อย่างไรก็ตามแม้วันนี้จะยังไม่มีข้อสรุปอะไรที่ชัดเจนนัก แต่สิ่งที่ชัดเจนแล้วก็คือ คำสั่งในทหารใช้อาวุธและกระสุนจริง นายอภิสิทธิ์ เป็นผู้สั่งการจริงๆ มีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากจริง ผลการสอบสวนและตัดสินของศาลอาญากรุงเทพใต้ชัดเจนว่าผู้เสียชีวิตไม่มีอาวุธ และเสียชีวิตจากกระสุนของเจ้าหน้าที่จริง
แต่ความจริงที่คงต้องรอดูกันต่อไปก็คือ การทำงานของ ป.ป.ช. ว่าจะทำงานรวดเร็ว เหมือนการดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในคดีจำนำข้าวหรือไม่ ที่ต้องจับตาดูก็เพราะในอดีต ป.ป.ช. มักจะมีการทำงานที่ถูกตั้งคำถามเสมอเมื่อเป็นการดำเนินการกับบุคคลจากพรรคประชาธิปัตย์ เช่น คดีความเสียหายจากปรส. คดีทุจริตประกันราคาข้าว ฯลฯ ว่าล่าช้าและเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคเก่าแก่พรรคนี้!!!
Reference
https://prachatai.com/journal/2017/09/73182
https://www.matichon.co.th/news/660867
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000097169