เรื่องเนติวิทย์คงต้องยืดต่อไปอีกยาว ตราบเท่าที่พวกคนดีๆ ไทยๆ ไม่หยุดจิกกัดเด็กรุ่นใหม่ผู้ไม่ยอมอลุ่มอล่วยให้กับความล้าหลังของสังคมคนนี้
ช่วงสองวันที่ผ่านมานี่มีความพยายามอย่างต่อเนื่องจะกดหัวเขาให้หงอกลัว แม้กระทั่งวัยรุ่นสองคนขี่จักรยานยนตร์เข้าไปที่คณะรัฐศาสตร์จุฬา ถามหาเนติวิทย์ในลักษณะข่มขู่คุกคามมุ่งทำร้าย ทำให้เจ้าตัวต้องไปแจ้งความต่อสถานีตำรวจเพื่อปกป้องตนต่อไป
“ขอโอกาสให้ผมเถอะครับ ถือว่าให้โอกาสคนรุ่นใหม่ได้พิสูจน์ตัวเอง ถ้าเห็นต่างก็ไม่เป็นไร แต่เราควรจะมาคุยกัน
ถ้ารักสังคมไทยจริง อย่าทำให้โลกและคนทั้งหลายเห็นเลยครับสังคมเรามาเฟียป่าเถื่อน อะไรๆ ก็ใช้แต่ความรุนแรง
ผมกลัวครับ แต่ผมจะสู้ต่อไป ขอให้เพื่อนๆ มาช่วยกันด้วย เราจะใช้สันติวิธี เราเชื่อว่าการชนะความเกลียดต้องด้วยความรัก ความเคารพในสิทธิของคนอื่น
ผมอยากให้ประเทศไทยเป็นที่ของคนรุ่นใหม่เก่ามีปฏิสัมพันธ์คุยกัน ไม่ครอบงำกัน เราต้องช่วยกันจริงๆ”
นั่นเป็นข้อความที่เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตรัฐศาสตร์ จุฬา ชั้นปีสองที่เพิ่งได้รับเลือกเป็นประธานสภานิสิตมาหมาดๆ รอเข้ารับช่วงปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ ๑ มิถุนายน โพสต์พร้อมกับข้อเขียนของเพื่อนนิสิตอีกคนหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อบนเฟชบุ๊คว่า Tanawat Wongchai
ธนวัฒน์ วงชัย เขียนเล่าเหตุการณ์ถึง “ผู้ไม่หวังดีสองคนขับรถจักรยานยนต์เข้ามาภายในตึกเก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ยี่ห้อ SCOMADI สีดำ ไม่ทราบหมวดทะเบียน หมายเลข ๑๔๓๓ ด้วยท่าที่คุกคามและเดินเข้าไปค้นหานายเนติวิทย์
คุณลุงยามเห็นท่าทีนั้นจึงได้มองด้วยความสงสัย ชายสองคนนั้นได้ตอบกลับไปว่า มึงมองหน้าทำไม มีปัญหาหรอ มึงเป็นแค่ยาม”
“เนติวิทย์พึ่งได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานสภานิสิต และยังไม่ทันจะได้ทำหน้าที่นี้เลย กลับมีคนตัดสินเขาไปแล้วจากการปั่นข่าวของสำนักข่าวบางสำนัก ด้วย HATE SPEECH ต่างๆ และลงข่าวด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ใส่ร้าย และสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในสังคม
เนติวิทย์ไม่เคยคุกคามและข่มขู่ชีวิตของใคร เขาเป็นเพียงนิสิตธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เขาเพียงแค่นำเสนอแนวคิดใหม่ๆ ให้กับสังคมได้ตระหนักคิดเท่านั้น เขาไม่เคยบังคับใครให้เชื่อตามเขา ไม่เคยจับคนที่คิดต่าง”
ทำให้มองเห็นภาพนานาความชั่วร้าย ที่พากันระดมทับถมเนติวิทย์ รวมทั้งทำให้เป็นเป้าหมายทางการเมืองถล่มพรรคที่เคยชนะเลือกตั้งมาตลอดสิบกว่าปี จนต้องถูกรัฐประหารซ้ำซ้อนสองครั้งสองครา
เมื่อใครบางคนที่เป็นขาประจำเว็บทีนิวส์ นำภาพตกแต่งซึ่งมีชายหนุ่มก้มกราบแทบเท้าตัวเต็งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนต่อไป (เมื่อใดที่ คสช. ยอมให้ทำกิจกรรมได้) มุสาว่าคนก้มกราบนั่นคือเนติวิทย์
และแล้วนักเขียนหย่าย วสิษฐ์ เดชกุญชร ผู้ยกตัวเป็นสุดยอดรอยัลลิสต์ ก็รีบนำไปขยายความในคอลัมน์ประจำหนังสือพิมพ์ มติชน ‘ในฐานะที่เป็นนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ ๑’
เขาป้ายสี (แดง) ให้นายเนติวิทย์ว่า “เป็นผู้เลื่อมใสในแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งสวมเสื้อแดงเป็นสัญญลักษณ์ ผมเคยเห็นภาพคุณเนติวิทย์กราบลงบนพื้นแสดงความเคารพคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์”
ทั้งที่ความจริงปรากฏออกมาเมื่อเจ้าตัวคนที่ก้มกราบในรูปเป็นนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย แจงว่าตนไปกราบลาอุปสมบท พร้อมด้วยภาพกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ และกับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร
ทำให้คุณหญิงหน่อยให้ทนายไปแจ้งความว่าคนโพสต์และแชร์รูปทำให้เสียชื่อเสียง ๔ ราย สองในสี่เป็นนายทหารยศสูง แต่ไม่ยักพ่วงวสิษฐ์กับมติชนด้วย
อย่างไรก็ดีคนที่โพสต์รูปผู้ใช้นาม ‘บูรพ์ พุละกาพย์’ พอรู้ตัวว่าล้ำเส้นโดนจับได้ รีบแก้ตัวทันควัน “ที่ปรากฏภาพบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง คือพี่การุณ พี่สุดารัตน์ไปนั้น ผมขอโทษจากใจจริง...
วัตถุประสงค์ต้องการล้อเลียนนิสิตท่านนั้นเพียงคนเดียว...กระผมรับปากว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก หลังจากนี้”
พี่เก่งกับเจ๊หน่อยจะเอาเรื่องนายคนนี้ต่อไปหรือไม่ ไม่สำคัญเท่า damage has already been done to วสิษฐ์ เดชกุญชร โดนทั้งถอนหงอกและตอกหน้า ป่านนี้อาจจะยังไม่หายชา
เอาตอกหน้าก่อน จากโพสต์ของ สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ “คุณวสิษฐ อคติ ใช้ความคิดขวาจัดเป็นตัวตั้ง อ่อนข้อมูล และขาดความเมตตามาก
ตั้งแต่เรื่องไปกล่าวว่าเนติวิทย์เป็นผู้สนับสนุน นปช.เสื้อแดง ซึ่งถึงเป็นความจริงก็เป็นเรื่องความคิดทางการเมืองที่ต่างจากคุณวสิษฐ ไม่ได้มีอะไรเสียหาย...
นอกจากนี้ เรื่องหมอบกราบสุดารัตน์ ก็เป็นเรื่องข้อมูลผิด ที่แสดงความไร้เดียงสาของคุณวสิษฐ ยิ่งกว่านั้น คุณวสิษฐไม่ทราบหรือแกล้งไม่ทราบว่า รัชกาลที่ ๕ ยกเลิกการหมอบกราบอย่างเป็นทางการตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๑๖”
สำหรับตอน ‘ถอนหงอก’ นั่นหนุ่มแฟร้งค์จัดเองอีกละ “คุณลุงรุ่นแรกกลับเขียนอย่างขาดวุฒิภาวะ" เขาว่า
"อ่านหนังสือไม่รอบคอบ เชื่อความเท็จ ใส่ความผมโจมตีผมอย่างผิดๆ เรื่องผมไปกราบคุณหญิงสุดารัตน์...
คุณลุงไม่ตามข่าวเชคข่าวบ้างหรือ ถ้าคุณลุงมีเมตตากับผมไม่ได้ ผมจะเป็นตัวอย่างให้ท่าน
ผมถูกคุณลุงรังแกใส่ความเท็จ ผมจะไม่ว่าอะไรคุณลุงในเรื่องนี้ แต่ผมเห็นใจคุณลุงที่ตกเป็นเหยื่อของความเท็จ ของสื่อที่บิดเบือน และชราภาพที่ครอบงำ”
ท่อนฮุคตรงที่ว่า “ผมจะเป็นตัวอย่างให้ท่าน” นั่นละอธิบาย ‘Netiwit Saga’ มหากาพย์ทั้งหมด