วันศุกร์, กันยายน 09, 2559

วิกฤตเศรษฐกิจไทย กับ มหกรรมถอนขนห่าน





ดูเหมือนว่าช่วงนี้เป็นช่วง ‘ขาขึ้น’ ของประยุทธ์ จันทร์โอชา

ที่จริงน่ะหมายถึง ‘ยกขา’ ดังที่สุทธิชัย หยุ่น เฮียใหญ่เนชั่นกำลังพยายามจะช่วงชิงความกรุณาจากผู้เป็นนาย ให้ petting ลูบหัวลูบหลัง แข่งกับไพบูลย์ นิติตะวัน และวันชัย สอนศิริ อยู่ขณะนี้

(กรณีหยุ่น เนชั่น ฟังจาก อจ. Pavin Chachavalpongpun แกเขียนเล่าว่า

“สุทธิชัย หยุ่น โพสต์รูปโอบาม่าไปลาว ลงจากเครื่องฝนตกเลยกางร่มเอง กับอีกรูป ผู้นำกะลาแลนด์ไปเยือนฝนตกเหมือนกัน แต่มีเจ้าหน้าทีกางร่มให้ ไอ้หยุ่นก็เอาไปเขียนแบบมโนว่า ดูสิ ลาวไม่แคร์โอบาม่าต้องกางร่มเอง แต่กับไทยมีน้ำใจให้ เลยเอาใจเป็นพิเศษ”

ที่เหลือนอกนั้น ‘มันมาก’ (เดี๋ยวอ้วน) ไปอ่านกันเองได้ที
https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/867237190044712)

‘ดูเหมือน’ เช่นกัน ขณะที่สภาวะปากท้องของประชาชนก็กำลัง ‘หัวคว่ำ’ กันระนาว ดูจาก พีร์ พงศ์พิพัฒนพันธุ์ เล่าไว้ที่ประชาไท

“ภาวะวิกฤตของเศรษฐกิจไทยจะเริ่มส่งผลกระทบถึงฐานของประชากรทั่วไป ตั้งแต่ปีหน้า (๒๕๖๐) เป็นต้นไป ตามสำนวนไทยที่ว่า เป็นปีของ การเผาจริง”

(http://www.prachatai.com/journal/2016/09/67771)

อีกหนึ่งใน ๑๑ ข้อแห่งความ ‘หายนะทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ของไทย’ พีร์เขียนไว้ว่า

“มาตรการถอนขนห่านหรือมาตรการรีดภาษีของรัฐบาลไทยเพื่อหารายได้เข้าคลัง ก่อให้เกิดความหวาดกลัวต่อนักลงทุนและนักธุรกิจจำนวนมาก รวมถึงก่อให้เกิดการคอร์รัปชั่นเพิ่มมากขึ้นในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีทั้งหมด”

ตรงนี้มีคนเขาแจกแจงเอาไว้บน ‘ไลน์’ ว่า “กระทรวงการคลังกำลังดันร่าง พรบ.การจัดเก็บภาษีให้รัดกุมและทันสมัย เช่น

๑.ธุรกิจร้านขายอาหาร ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล

๒.ผู้ทำธุรกิจขายตรง ธุรกิจขายสินค้าผ่านออนไลน์ ฯลฯ ต้องจดทะเบียนผู้มีรายได้ต้องเสียภาษี

๓.ธุรกิจให้เช่ารถ เช่นรถตู้ฯลฯต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ต้องเสียภาษีทั้งทางตรง (ภาษีเงินได้) และภาษีทางอ้อม (ค่าทะเบียน, พรบ., ค่าประกันภัยผู้โดยสาร ฯลฯ ตามอัตรานิติบุคคล)

๔.เสริมสวย นวด สปา หมอดูดวงชะตา กวดวิชา ไกด์นำเที่ยว ฯลฯ ต้องเข้าระบบผู้มีรายได้พึงประเมินภาษี

และอื่นๆ อีกมากมายที่รัฐบาลท่านนายกลุงตู่จะรีบเร่งจัดการให้ครอบคลุม ปชช.ทุกหมู่เหล่าตามฉันทามติของ ปชช.รับร่าง รธน.ฉบับปราบโกง

ดังนั้น ปชช.ตาดำๆ คนไหนเลี่ยงภาษีก็ถือว่าโกงชาติ จะต้องเจอมหกรรมถอนขนห่านเร็วๆ นี้”

ถึงกระนั้นพีร์ให้ความหวังเอาไว้

“อาจมีความเป็นไปได้ที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ จะเข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยเหมือนเมื่อคราว ปี ๒๕๔๐ หรือ ปี ‘ต้มยำกุ้ง’ เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าต่อไปได้”





แต่ อจ.กานดา นาคน้อย ณ คอนเน็คติกัต มาอธิบายขยายความลงลึกรายละเอียดต่อยอด ว่า

“ก) การกู้เงินจากไอเอ็มเอฟในปี 2540 เป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์การเงินไทย ไทยกู้ไอเอ็มเอฟครั้งแรกคือปี 2524 ครั้งที่ 2 คือปี 2528 ทั้ง 2 ครั้งเกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่่ำที่ลุกลามจนเกิดวิกฤตการคลังในภาครัฐซึ่งเป็นยุครัฐบาลพลเอกเปรม ส่วนครั้งที่ 3 มาจากวิกฤตการเงินในภาคเอกชนที่สะสมมาตั้งแต่ก่อนรัฐบาลพลเอกชวลิต

ข) วิกฤตเศรษฐกิจไทยคราวหน้าจะเป็นแบบไหน? แบบวิกฤตการคลังในภาครัฐ หรือวิกฤตการเงินในภาคเอกชน?

ถ้าเป็นแบบแรกและถ้ากระทรวงการคลังไม่หมกเหม็ดสถิติก็ไม่น่าจะเป็นปีหน้า แต่เป็นไปได้ภายใน 5 ปีข้างหน้า ปลัดคลังคนก่อน (ไม่ใช่ปลัดเห็บสยาม) เคยเตือนแล้วว่าหนี้สาธารณะของไทยจะสูงถึงเพดาน 60% ของจีดีพีภายใน 5 ปีข้างหน้า

()

แต่ถ้ากระทรวงการคลังหมกเหม็ดสถิติก็จะเกิดวิกฤตการคลังเร็วกว่านั้น มีตัวอย่างการหมกเหม็ดสถิติของกระทรวงการคลังในต่างประเทศ เช่น กรีซ อาร์เจนตินา ฯลฯ

ฉันดูสถิติหนี้สาธารณะของไทยที่เว็บของกระทรวงการคลังทีไรก็อยู่ราวๆ 40% ต่อจีดีพี ทั้งๆ ที่มีข่าวว่ารัฐบาลเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐสารพัดด้านในหลักล้านล้าน มีข่าวว่าภาษีเก็บได้ต่ำกว่าเป้า มีข่าวมาตรการรีดภาษีสารพัดแบบ มีข่าวคนตกงานมากขึ้น ฯลฯ

ถ้าถามฉันว่าเชื่อมั่นในสถิติกระทรวงการคลังแค่ไหน? ฉันก็ขอตอบว่าไม่เชื่อ 100% "ปลัดคลังเห็บสยาม"น่าเชือถือแค่ไหนก็พิจารณากันเองนะ หมกเหม็ดหรือไม่ก็จะไม่รู้จนกว่าจะมีวิกฤตจริงๆ

ยกตัวอย่าง ตอนวิกฤตต้มยำกุ้งหลังขอกู้ไอเอ็มเอฟแล้วไอเอ็มเอฟตรวจบัญชี ถึงได้รู้ว่าแบงค์ชาติสมัยนั้นลงบัญชีแบบหมกเหม็ด ฉันเห็นวาทกรรม ‘เปรมโมเดล’ พักนี้ก็อยากบอกว่า ‘นึกถึงเปรมจงนึกถึงไอเอ็มเอฟ’

ทหารแก่ทหารเก่าชูวาทกรรมนี้เพราะพวกเขาไม่ต้องรับภาระการคลัง อยากได้อะไรก็ได้ดั่งใจด้วยงบกลาโหม นอกจากงบกลาโหมแล้วกองทัพไทยก็มีรายได้ต่างหาก เช่น สัมปทานทีวีทหาร สัมปทานวิทยุทหาร ปันผลหุ้นธนาคารทหารไทย ฯลฯ

เวลากู้ไอเอ็มเอฟก็เป็นภาระของผู้เสียภาษี ถึงได้หลับหูหลับตาชูเปรมโมเดล”

https://www.minds.com/newsfeed/619717370872602624

อันนี้ต้องไปดูคำถามที่ ‘ทวดเอง’ แยงไว้บนพันทิพ (http://pantip.com/topic/35563418)

“คุณสลิ่มครับ ยังยืนยันเหมือนเดิมหรือเปล่าครับ นายกฯคนนอกมีไว้สำหรับยามประเทศเกิดวิกฤติเหมือนที่ผ่านๆ มาเท่านั้น”