"ยิ่งลักษณ์" ค้านใช้ภูทับเบิกโมเดลยึดทรัพย์จำนำข้าว-จีทูจี วอนอย่าชี้นำคดีกรณีหมอวรงค์ ย้ำ กำลังใจดี เผย กม.ลูกต้องเหมาะสม
#NEWSROOM #TV24 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมารับฟังการไต่สวน คดีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งครั้งนี้เป็นการไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 3
ทั้งนี้ บรรยากาศที่หน้าศาล เต็มไปด้วยประชาชนที่มารอให้การต้อนรับและให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรีอย่างคับคั่ง
ก่อนจะเข้าไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ ไม่เห็นด้วยกรณีที่รัฐบาลอาจใช้ ม.44 แบบภูทับเบิกโมเดล โดยออกเป็นคำสั่งทางปกครองและกลไกของกรมบังคับคดี เนื่องจากเคยยื่นคัดค้านมาหลายครั้งและคดีอาญาก็ยังไม่สิ้นสุด
ส่วนกระบวนการของการไต่สวนจำนำข้าวที่ผ่านมากว่าครึ่งทางแล้วนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า มีกำลังใจที่ดี
ขณะเดียวกันเมื่อ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาทีมทนายของอดีตนายกฯได้ยื่นเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สอบสวนกณีที่อาจมีข้อมูลรั่วไหลออกมาจากคณะกรรมการความรับผิดทางละเมิด ที่มีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาจรับทราบข้อมูลด้วยนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวย้ำว่าอย่าชี้นำคดี
ส่วนกฎหมายลูกต่างๆที่ดำเนินการในขณะนี้ อย่าง พ.ร.ป.พรรคการเมือง อดีตนายกฯกล่าวว่า ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนร่าง ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด จึงต้องจับตาดูต่อไป อย่างไรก็ตามอยากให้อยู่บนความพอดี และให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชน
สำหรับการไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยวันนี้ มีรายงานว่า ศาลจะไต่พยานจำเลย 2 ปาก ประกอบด้วย นายสัตว์แพทย์ ชัย วัชรงค์ นักวิชาการอิสระ และนายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหาร บ.ซีพี อินเตอร์เทรด จำกัด ในเวลา 09.30 น. และให้ยกเลิกนัดไต่สวนวันที่ 23 ก.ย.นี้ เนื่องจากองค์คณะฯ ต้องเข้าร่วมประชุมใหญ่ศาลฎีกา
โดยการนัดไต่สวนครั้งล่าสุดเมื่อ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ทนายความจำเลยนำนายวราเทพ รัตนกร อายุ 52 ปี อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไต่สวนเพียงปากเดียว ในรายละเอียดในโครงการ ทั้งมาตรการป้องกันการสวมสิทธิ และการรับฟังข้อเสนอแนะ
โดยคดีนี้ เป็นคดีหมายเลขดำ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท
TV24 NEWSROOM
ooo
“ยิ่งลักษณ์” ค้าน ม.44 ยึดทรัพย์ เตือนรัฐหยุดทำตัวเป็นคู่ขัดแย้ง
https://www.youtube.com/watch?v=yZmnD1npRI0
TV24 Official
Published on Sep 9, 2016
#TV24 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศสดจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช้านี้ ประชาชนจำนวนมากเดินทางมาให้กำลังใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นไต่สวนคดีจำนำข้าวฯ ทั้งนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว หากมีการใช้คำสั่งทางปกครองฟ้องร้องคดีทางแพ่งเพื่อยึดทรัพย์นั้นว่า "คดีดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของอาญา ต้องรอผลทางอาญาก่อน ไม่ควรก้าวล่วงศาล และตัวเองได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ต้องขอบคุณทุกกำลังใจจากประชาชน ส่วนกรณีมีผู้นำข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าวมาเปิดเผย เห็นว่าข้อมูลควรเป็นกลาง ไม่ควรรั่วไหล ขออย่าชี้นำคณะกรรมการตรวจสอบการรับผิดทางละเมิด อยากให้พิจารณาจากข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง และทราบว่าขณะนี้ ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายลูก แต่เมื่อประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญแล้ว กฎหมายลูกก็ควรพิจารณาตามเนื้อหาและเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ"
ทั้งนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลระบุจะไม่ใช้อำนาจมาตรา 44 ยึดทรัพย์คดีจำนำข้าว แต่จะใช้คำสั่งทางปกครองดำเนินการตามกฎหมาย ว่า "ตนไม่แน่ใจว่าการใช้มาตรา 44 นั้นจะเป็นการล่วงอำนาจศาลหรือไม่ แต่ส่วนตัวเราไม่เห็นด้วยแต่ต้นแล้ว และได้มีการเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากหลายฝ่าย กระบวนการต่างๆ ในวันนี้ยังอยู่ในกระบวนการของศาลอาญาฯ ยังไม่จบ กระบวนการเรียกค่าเสียหายก็คงจะต้องหลังจากที่ทราบผลคดีอาญา ทั้งนี้ ไม่ว่าจะใช้วิธีใดไม่ว่าจะเป็นอำนาจมาตรา 44 หรือคำสั่งทางปกครองก็ตาม จริงๆ แล้วก็ถือว่าเป็นการที่รัฐบาลจะใช้อำนาจในฐานะของการเป็นคู่ขัดแย้งของตน ดังนั้นจึงควรให้ศาลแพ่งเป็นผู้พิจารณาเป็นการเหมาะสมกว่า"
ooo
#TV24 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศสดจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช้านี้ ประชาชนจำนวนมากเดินทางมาให้กำลังใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นไต่สวนคดีจำนำข้าวฯ ทั้งนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว หากมีการใช้คำสั่งทางปกครองฟ้องร้องคดีทางแพ่งเพื่อยึดทรัพย์นั้นว่า "คดีดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของอาญา ต้องรอผลทางอาญาก่อน ไม่ควรก้าวล่วงศาล และตัวเองได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ต้องขอบคุณทุกกำลังใจจากประชาชน ส่วนกรณีมีผู้นำข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าวมาเปิดเผย เห็นว่าข้อมูลควรเป็นกลาง ไม่ควรรั่วไหล ขออย่าชี้นำคณะกรรมการตรวจสอบการรับผิดทางละเมิด อยากให้พิจารณาจากข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง และทราบว่าขณะนี้ ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายลูก แต่เมื่อประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญแล้ว กฎหมายลูกก็ควรพิจารณาตามเนื้อหาและเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ"
TV24 สถานีประชาชน