วันศุกร์, พฤษภาคม 20, 2559

สองปีเต็มแล้วสิ รัฐประหารไทยเวอร์ชั่นบูรพาพยัคฆ์ไม่อยากเสียของ เลยต้องอ้อนบ้างโกหกบ้างตามทางที่ถนัด





สองปีเต็มแล้วสิ รัฐประหารไทยเวอร์ชั่นบูรพาพยัคฆ์ไม่อยากเสียของ เลยต้องอ้อนบ้างโกหกบ้างตามทางที่ถนัด

ก่อนที่ทั่นจันทร์โอชาจะบินรีบจากเลนินกราดไปโซชิเพื่อคำนับปูติน ต้นแบบนายใหญ่ตัวจริงประเทศที่กำลังโอบอ้อมเผด็จการแบบมาร์เฟียครองเมืองน้องใหม่ในเอเชียอาคเนย์ชื่อ ‘ไตแลนเดีย’

ที่ปารีสมีรายการตบหน้า คสช. อีกครั้ง ด้วยแถลงของสมาพันธ์สิทธิมนุษยชนนานาชาติ

ว่า “รัฐบาลไทยหลอกลวงนานาชาติเรื่องสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศ ระหว่างการรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศไทยต่อที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ ๑๑ พ.ค.ที่ผ่านมา

องค์กร FIDH โต้แย้งข้อมูลของตัวแทนรัฐบาลไทยที่เสนอต่อที่ประชุม UNHRC ซึ่งระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจตามมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวอย่างจำกัด ทั้งที่ข้อเท็จจริงนั้น พล.อ.ประยุทธ์ บังคับใช้อำนาจตามมาตรา ๔๔ ถึง ๗๐ ครั้ง ตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธ.ค. ๒๕๕๗ – ๔ พ.ค. ๒๕๕๙...

นายคาริม ฮาลิดจี ประธานองค์กร FIDH กล่าวว่าความพยายามของรัฐบาลไทยที่จะกวาดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนไปซุกไว้ใต้พรม ได้ถูกตีแผ่ต่อที่ประชุมในนครเจนีวา และสมาชิกสหประชาชาติจำนวนมากต่างกังวลต่อสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนที่กำลังเป็นปัญหาในประเทศไทย”

(https://www.facebook.com/BBCThai/photos/a.1527194487501586.1073741828.1526071940947174/1774799729407726/?type=3 และ https://www.fidh.org/…/government-deceives-international-co…)

แน่นอน สถานการณ์สิทธิมนุษยชนไม่มีอะไรกระเตื้องแม้แต่นิดในทางการเมือง เมื่อวาน (๑๙ พ.ค.) ญาติผู้เสียหายและมิตรประชาธิปไตยราว ๔๐๐ คนไปพร้อมกันที่แยกราชประสงค์ ยกป้ายเตือนใจ ‘ที่นี่มีคนตาย’ และผูกแถบผ้าดำตามเสา





พวกเขาร่วมกันรำลึกถึงความหฤโหดของรัฐบาลและคณะทหารชุดเดียวกันที่ครองเมืองขณะนี้ ในเหตุการณ์สลายชุมนุมด้วยกระสุนจริงเมื่อ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ที่ทำให้คนตายเกือบร้อย แถมด้วยอาสาสมัครผู้บริสุทธิ์อีก ๖ ถูกกระสุนสไน้เปอร์ทหารปลิดชีพในเขตอภัยทานวัดปทุมวนาราม

การเข่นฆ่าประชาชนฝ่ายหนึ่งในครานั้นมีการทบทวนอย่างฝังใจกันมากมายหลายมิติ ด้วยเหตุที่ความยุติธรรมถูกกดดันไว้ไม่ยอมให้ปรากฏ แต่สิ่งที่อยากให้ลืมกลับจำนี้จึงต้องมีการทบทวนอย่างสม่ำเสมอทุกปี

ในปีนี้ขอนำบันทึกของ Tewarit Bus Maneechai มาจารึกซ้ำในที่นี้ เพื่อสดุดีอาสาสมัครผู้เสียชีวิตในวัดปทุม ๖ คน ซึ่ง ‘บัส’ เล่าว่า

“มีอาสาสมัครหลายท่านที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ปราบปรามการชุมนุม เมษา-พ.ค. ๕๓ ไม่ว่าจะเป็น บุญทิ้ง ปานศิลา กู้ชีพวชิรพยาบาล ๑๔ พ.ค.ที่ราชปรารภ มานะ แสนประเสริฐศรี อาสาสมัครปอเต็กตึ๊ง ๑๕ พ.ค.ที่งามดูพลี กมนเกด อัดฮาด อาสาพยาบาล และอัครเดช ขันแก้ว ผช.พยาบาล อีก ๒ ใน ๖ ศพวัดปทุม เป็นต้น”

เขาไฮไล้ท์ ๑ ใน ๖ ศพวัดปทุมฯ คือ มงคล เข็มทอง อาสาสมัครปอเต๊กตึ๊งวัย ๓๖ ปี “ถูกยิงขณะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ กระสุนปืนทำลายปอด ตับ หัวใจ” ขณะเข้าไปช่วยนรินทร์ ศรีชมภู ซึ่งถูกยิงที่ศีรษะบริเวณหน้าบ้านย่านราชดำริ ใกล้แยกสารสิน ตอนสายวันที่ ๑๙ พ.ค. (http://vimeo.com/23938362)

“ศาลสังคดีไต่สวนการตาย มงคลรวมอยู่ใน ๖ ศพวัดปทุม ระบุว่า

๑.เกิดจากการกระทำของเจ้าพนักงานทหาร

๒.ผู้ตายทั้ง ๖ ไม่มีคราบเขม่าดินปืนที่มือทั้งสองข้าง แสดงว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืนมาก่อน

๓.การตรวจยึดอาวุธในวัดปทุมวนาราม ไม่น่าเชื่อว่ามีการตรวจยึดจริง และ

๔.กรณีชายชุดดำ ไม่ปรากฏว่ามีชายชุดดำอยู่ในบริเวณดังกล่าว

(อ่านรายละเอียด เปิดคำสั่งศาลโดยย่อ ทำไม ‘๖ ศพวัดปทุมฯ เสียชีวิตจากทหาร’ http://www.prachatai.com/journal/2013/08/48057)

ขณะนรินทร์ ศาลสั่งว่ากระสุนมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ทหาร (อ่านรายละเอียดศาลสั่งอีก 'นรินทร์' เหยื่อสลายชุมนุม ๑๙ พ.ค. ๕๓ กระสุนมาจากฝั่งทหาร http://www.prachatai.com/journal/2014/03/52428)





แต่ทว่า ‘I hear สั่งฆ่า E ha สั่งยิง’ วลีสลวยใช้แทนผู้รับผิดชอบสั่งการปราบตายประชาชนปีนั้น ก็ยังไม่มีวี่แววปรากฏ กลับถูกบดบังอย่างมึนมัวกับวลีสลิ่ม “เผาบ้านเผาเมือง”

กระทั่งรัฐประหารนั่งห้าง กปปส. + ปชป. ๒๕๕๗ ที่ว่า “เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง” ก็ยังมิต่างกับครั้งก่อน โดยเฉพาะพวกที่ลงมือมาจากองค์เดียวกัน

‘ในวาระครบรอบสองปีรัฐประหาร’ ที่บีบีซีประเทศไทยไปสัมภาษณ์สตรี ‘คนธรรมดาคนหนึ่ง’ ซึ่งอยู่ท่ามกลางวาทกรรม “มีเครื่องซักผ้าด้วย” (เหรอ) น.ส.พัฒน์นรี หรือหนึ่งนุช ชาญกิจ มารดาวัย ๔๐ ปี ของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ ‘จ่านิว’ นักศึกษาประชาธิปไตยใหม่





“มีความคาดหวังอะไรมั้ย ว่าเราจะผ่านความขัดแย้งนี้ไปได้ยังไง” ผู้สัมภาษณ์ถาม

“ถ้าคิดว่าอยากจะให้มันจบ ก็...ทำอะไรให้มันเร็วขึ้น ถ้าสองปีแล้วยังไม่มีอะไรขึ้น คุณมีอะไรอีกมั้ย ที่มันจะทำแล้วมันเร็วขึ้น อยากใช้คำว่า เร็วๆ

...ถามว่ารอได้มั้ย รอได้ เหมือนเรารอรถเมล์น่ะ เรารอได้ แต่มันมาเร็วก็ดีนะ หรือว่าถ้ามาแล้วเรามีที่นั่งก็ดีนะ อะไรอย่างนี้

ไม่ใช่ว่ารอ เรานั่งรอ ก็ไม่มาซะที มันก็หงุดหงิด”

ถามอีก “อะไรที่อยากให้มีการแก้ไขเร็วที่สุด”

“เศรษฐกิจเลย ถ้าถาม ในฐานะที่เป็นคนธรรมดา ถ้าใช้คำว่าธรรมดา รากหญ้า ก็คือเศรษฐกิจ...ผลกระทบมันเศรษฐกิจนี่ละ

อย่างที่เขาบอกว่า เนี่ยโรงจำนำเขาเปิด เราเป็นผู้ปกครองเราต้องประหยัด เราอย่าไปฟุ่มเฟือย คุณรู้ไม้ว่าชุดนักเรียนชุดหนึ่งเท่าไหร่

คุณน่ะบอกให้พอเพียง พอเพียง เราก็พยายามจะพอเพียง เราพยายาม เราประหยัด

แต่คุณรู้ไหม สิ่งที่เราประหยัดน่ะ มันสาหัสนะ”