คลิป (มีถอดความภาษาไทยประกอบ) จากรายการ 'Between the lines.' โดย ทิมัวร์ นาบิลิ ที่สัมภาษณ์สองนักวิชาการไทย ปณิธาน วัฒนายากร และวีรพัฒน์ ปริยะวงศ์
ซึ่งผู้ดำเนินรายการเปิดฉากด้วยคำถามว่า
"นี่เป็นมรณะกรรมของประชาธิปไตยในประเทศ (ไทย) ดังที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์อ้าง หรือว่าเป็นไปตามกระบวนเรียกร้องในบัญชีโค่นของฝ่ายตรงข้ามเธอ เพื่อเริ่มต้นยุคใหม่แห่งการปฏิรูป"
ข้อเขียนข้างล่างนี้ เป็นความคิดเห็นของผู้อ่านไทยอีนิวส์ท่านหนึ่ง ซึ่งใช้นามว่า 'TAWANSEEDANG' กล่าวถึงกรณีปฏิกิริยาตอบโต้ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แดเนียล รัสเซิล อันเนื่องจากเนื้อถ้อยในการแสดงปาฐกถาของตัวแทนพิเศษรัฐบาลโอบาม่า เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๘
๑ ก.พ. ๒๕๕๘
จากเหตุการณ์มาเยือนของนาย
เดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา และจากการพูดบรรยายพิเศษ
ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อไม่กี่วันผ่านมานั้น กลายเป็นสื่อสัญญาณระดับประเทศ ที่ทำให้เกิดสภาพ after shock ของแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงต่อสังคมไทย
โดยเฉพาะกับกลุ่มไม่ยอมรับแนวทางระบอบเสรีประชาธิปไตย กลุ่มสนับสนุนแนวทางเผด็จการ
และกับกลุ่มผู้ปกครองไทยที่ไม่ได้มาตามครรลองระบอบประชาธิปไตย อย่างคาดไม่ถึง
ด้วยสภาพ after shock ที่ว่า ทำให้หัวหน้าคณะผู้นำ
คณะผู้ปกครองและเหล่าผู้สนับสนุนทั้งหมด ต่างพากันออกมาแสดงอารมณ์ความโกรธ
ความคลั่งแค้นและความไม่พึงพอใจ ด้วยการใช้คำสบถ ประนาม ด่าว่า อย่างเสียหายโต้ตอบประเทศสหรัฐอเมริกา
ทั้งในสื่อออนไลน์ และสือต่างๆภายในและนอกประเทศทุกชนิด อย่างไม่ต้องผ่านการวิเคราะห์ถึงเหตุผลว่าทำไม หรือเพราะเหตุใดประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือผู้ปกครองไทยมาโดยตลอด
จึงมีท่าทีไม่ให้การสนับสนุน
ด้วยความเป็นคนไทยคนหนึ่งซึ่งติดตามความเป็นมาของการเมืองไทยอยู่โดยตลอด
จึงอยากจะมีคำถามถึงกลุ่มที่กล่าวมาแล้วข้างต้นทุกคนช่วยหาคำตอบว่า :-
๑.
ประเทศไทยสมัครเป็นสมาชิกและยังเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศฝ่ายโลกเสรีประชาธิปไตยใช่หรือไม่? (เช่น UN, )
๒.
ประเทศไทยเคยลงนามตกลงหรือยอมรับกฏระเบียบ
ข้อบังคับ ข้อตกลงที่ต้องปฎิบัติ หรือการเข้าร่วมปฏิญญาต่างๆกับองค์กร
หรือกลุ่มประเทศฝ่ายโลกเสรีประชาธิไตยหรือไม่?
๓.
การลงนามต่างๆ ประเทศไทยไม่ได้รับการยกเว้นที่จะไม่ต้องปฎิบัติตามข้อตกลงเหล่านั้นใช่หรือไม่?(อย่างเช่น ทหารไม่สามารถทำการรัฐประหาร
หรือยึดอำนาจและล้มล้างรัฐธรรมนูญการปกครองประเทศได้)
ในเมื่อคำตอบคือ ‘YES’ ไม่ว่าข้อหนึ่งข้อใดจากโจทย์ที่ถามมา และไม่ว่าประเทศไทยจะใช้วาทะกรรมใดๆเพื่อหลีกเลี่ยงการไม่ปฎิบัติตามพันธกรณีที่ได้ตกลงกันไว้
สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศสมาชิก และยังเป็นประเทศที่ถูกยอมรับ (รวมทั้งประเทศไทยด้วย)
ให้เป็นประเทศผู้นำของกลุ่มประเทศฝ่ายโลกเสรีประชาธิปไตย จึงมีสิทธิเต็มอย่างชอบธรรมที่จะเข้ามาเพื่อเรียกร้อง
เสนอแนะ บอกกล่าวหรือตักเตือนให้ประเทศสมาชิกที่กำลังทำผิดกฎข้อตกลงปฎิบัติตาม
ดังนั้นการที่รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกาส่งให้นาย เดเนียล รัสเซล เป็นผู้แทนที่มีอำนาจเต็มมาประเทศไทย ประเทศอเมริกาจึงมิได้
‘เสือก’ หรือ ‘ก้าวก่าย’ กิจการใดๆต่อประเทศไทยตามที่โจมตีกันอยู่ แต่เป็นการเข้ามาชี้แจงในฐานะความห่วงใยของความเป็นมหามิตร
และความเป็นประเทศสมาชิกหุ้นส่วนในอุดมการณ์เดียวกัน ให้ปฎิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งสมควรจะได้รับการยกย่อง
ขอบคุณ เสียมากกว่าที่จะไปกล่าวหาหรือด่าทอ
แต่ถ้า ท่านผู้นำและพวกทั้งหมดไม่ต้องการอยู่ร่วมในอุดมการณ์เดียวกันกับกลุ่มประเทศฝ่ายโลกเสรีประชาธิปไตย
ยังเห็นว่าเป็นการ ‘เสือก’ ธุระไม่ใช่ หรือการ ‘ก้าวก่าย’ เพื่อเป็นการตัดปัญหามิให้มีการเสือกหรือก่าวกายอีกต่อไป
ก็อยากจะขอแนะทางเลือกให้พวกท่าน ซึ่งตอนนี้มีอำนาจเต็ม สามารถจะทำอะไรก็ได้ทุกอย่างในประเทศไทย ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิก ประกาศยกเลิกพันธกรณีต่างๆที่ได้ลงนามไว้เสียทั้งหมด เพื่อปิดประเทศไม่ต้องคบค้าสมาคมกับใครทั้งสิ้นอีกต่อไป
ประเทศไทยจะได้เป็นอิสระ ทำอะไรได้ตามใจชอบ ไม่ต้องฟังหรือต้องปฎิบัติตามใครๆอีกต่อไป
และหากเผื่อยังมีประเทศไหนมาบอกหรือกล่าวตักเตือนอีก จะได้ใช้คำว่า ‘เสือก’ หรือ ‘ก้าวก่าย’ ได้อย่างถูกต้องและเต็มคำ
แต่ก็ขอฝากคำเตือนไว้สักนิด
ถ้าหากพวกท่านไม่สามารถอยู่ได้ตามลำพัง และยังต้องคบค้าสมาคมอยู่ โดยอาจจะหันไปเข้าร่วมอุดมการณ์เดียวกับประเทศจีน
ซึ่งใช้ระบบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ (ซึ่งพวกคุณเคยเกลียดกลัว) หรือ
ประเทศเกาหลีเหนือ ที่ใช้ระบบการปกครองแบบเผด็จการผูกขาด ซึ่งคุณคิดว่าดีและสามารถปฎิบัติได้ตามพันธกรณีที่ตกลงไว้
อย่างนั้นก็อย่าไปด่าว่าเขา ‘เสือก’ หรือ ‘ก้าวก่าย’ อีกก็แล้วกัน
ถ้าเผื่อวันใดที่เขาต้องมาแจ้งเตือนหรือบอกให้คุณต้องปฎิบัติตามข้อตกลง
โชคดีนะครับสำหรับคนไทยที่อยากให้ประเทศไทยเป็นและอยู่ในสภาพเช่นนี้