อันเนื่องมาจากบทความของ อมาตยา กุมาร เสน นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลในหนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดี้ยน เนื้อความตอนสำคัญว่า
“ผลลัพท์ที่ดีๆ ของบริการสุขภาพถ้วนหน้าโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจล่มจม ที่จริงแล้วเป็นไปในทางตรงข้าม จะเห็นได้จากประสพการณ์ของหลายๆ ประเทศ นี่รวมถึงความสำเร็จอย่างเยี่ยมยอดของประเทศไทย ซึ่งในระยะหนึ่งทศวรรษครึ่งที่ผ่านมาได้มีการปฏิบัติอย่างมุ่งมั่นในการอำนวยบริการสุขภาพต่อประชาชนทั้งมวลโดยไม่แพงและเชื่อถือได้
ประสพการณ์ด้านบริการสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทยควรแก่การยกย่อง ทั้งในส่วนของความก้าวหน้าเรื่องสุขภาคครบวงจรและในการลดความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นและท้องถิ่น ก่อนจะมีระบบสุขภาพถ้วนหน้าในปี ๒๕๔๔ มีการประกันสุขภาพที่ดีพอควรสำหรับประชากรราว ๑ ใน ๔ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้เปรียบทางฐานะ เช่น ข้าราชการที่ตำแหน่งมั่นคง ซึ่งมีคุณสมบัติต้องตามโครงการสุขภาพชั้นดีของรัฐบาล กับลูกจ้างบริษัทเอกชนที่จัดระเบียบองค์กรอย่างเรียบร้อย ด้วยการประกันสังคมภาคบังคับตั้งแต่ปี ๒๕๓๓ เป็นต้นมา โดยมีภาครัฐอุดหนุน
แม้ในช่วงทศวรรษนี้เริ่มมีการอุดหนุนบริการสุขภาพจากภาครัฐบ้างแล้ว แต่ก็ปรากฏว่ายังขาดประสิทธิภาพอยู่มาก ประชาชนส่วนใหญ่ยังต้องควักกระเป๋าตนเองเป็นหลักเพื่อจ่ายค่าดูแลทางการแพทย์ อย่างไรก็ดีในปี ๒๕๔๔ รัฐบาลได้ประกาศใช้โครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ครอบคลุมถึงประชาชนทุกคนถ้วนหน้า ด้วยหลักประกันว่าผู้ป่วยไม่ต้องจ่ายเกิน ๓๐ บาทต่อการเข้ารับการรักษาแต่ละครั้ง (ยกเว้นในบางกรณีสำหรับค่าบริการแก่ผู้ที่ยากจนมากประมาณ ๑ ใน ๔ ของประชากร)
ผลจากการที่ประเทศไทยมีการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้อัตราการเสียชีวิตของประชากรลดลงอย่างชัดแจ้ง (โดยเฉพาะอัตราการตายของเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก อัตราเด็กแรกเกิดเสียชีวิตนั่นต่ำลงถึง ๑๑ คนต่อ ๑,๐๐๐) พร้อมทั้งการขึ้นสูงของอัตราความอายุยืน ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ ๗๔ ปีเมื่อแรกเกิด นับเป็นความสำเร็จอันสำคัญยิ่งสำหรับประเทศที่ยากจน ยังมีการลดความเหลื่อมล้ำอย่างเป็นประวัติการณ์ระหว่างท้องถิ่นที่มั่งคั่งและยากไร้ในเรื่องของอัตราการตายของเด็กแรกเกิดด้วย ถึงขั้นที่อัตราการตายของเด็กแรกเกิดในประเทศไทยอันต่ำมากนี้เฉลี่ยไปทั่วทั้งในท้องที่อูฟูและถิ่นทุรกันดาร”
(http://www.theguardian.com/society/2015/jan/06/-sp-universal-healthcare-the-affordable-dream-amartya-sen)
จึงมีคนไปขุดประวัติ Universal Health Care ของไทยที่เป็นข่าวนั้นมาตีแผ่ว่าใครแน่เป็นผู้ต้นคิด
ประมวลความตามเนื้อผ้าได้ว่า
"หมอสงวนคิด ทักษิณทำ คนระยำค้าน ทหารเอาไปโชว์"