วันจันทร์, ธันวาคม 15, 2568

ความหวาดหวั่นของผู้อพยพ "ชาวบ้านหลายคนที่ผมไปคุยด้วย บอกว่า ตอนนี้เปรียบเหมือนเศรษฐกิจของครอบครัว ได้ล่มสลายไป ตั้งแต่การสู้รบกันครั้งแรก พยายามจะฟื้นกลับมาให้ได้ แต่ต้องมาหยุดทุกอย่างลงไปอีก และไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป"


สันติวิธี พ.
8 hours ago
·
ความหวาดหวั่นของผู้อพยพ

เฉพาะในพื้นที่สุรินทร์ที่ผมอยู่ทำข่าว มีผู้อพยพไปอยู่ตามศูนย์อพยพต่างๆ มากถึง 7 หมื่นกว่าคน (ข้อมูลของทางการ)

ตามหมู่บ้านใกล้จุดการสู้รบที่ผมเข้าไป ส่วนใหญ่อพยพออกไปมากกว่าการสู้รบครั้งที่แล้ว เหลือไว้แค่คนที่มีหน้าที่ดูแลหมู่บ้าน และคนที่ห่วงวัวควายที่เลี้ยงไว้

ที่ศูนย์อพยพ มีทั้งชาวบ้านที่นอนในอาคาร รถยนต์ และสนามหญ้า

บางคนออกมากางเต็นท์ หรือกางเต๊นท์ผ้าใบ พลาสติกแผ่นใหญ่ เท่าที่จะหาได้ กันแดดกันน้ำค้างนอนสนามหญ้า และบนรถ เพราะอาคารด้านในเต็ม บางคนให้เหตุผลเพราะในอาคารแออัด ส่วนบนรถสะดวกสบายกว่า

แต่ถ้าเลือกได้ หลายคนที่ผมได้คุยด้วย อยากกลับไปใช้ชีวิตที่บ้าน และขอเป็นการใช้ชีวิตแบบไม่หวาดระแวงเหมือนที่ผ่านมา เพราะหลังการหยุดยิงครั้งแรก ก็ไม่รู้ว่าจะสู้รบกันเมื่อไรอีก ดังนั้นหลังการสู้รบครั้งนี้ หากต้องเจรจา ก็อยากให้เจรจากันให้จบ แบ่งเขตแดนกันให้จบ ไม่ต้องมีการสู้รบกันอีก

อีกสิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าชาวบ้านหวาดวิตกไม่แพ้การสู้รบ คือการทำมาหากินต่อจากนี้

หลายครอบครัวไม่ได้มีเงินเก็บ หลายครอบครัวรอเงินก้อนจากการเก็บเกี่ยวพืชเกษตร โดยเฉพาะช่วงนี่คือฤดูตัดอ้อย

ส่วนข้าวเพิ่งเก็บเกี่ยวเสร็จ แต่บวกลบค่ารถเกี่ยว ค่าปุ๋ย เหลือไม่เท่าไร พอหมดหน้าเก็บเกี่ยวข้าว ชาวบ้านบางส่วนก็ไปทำงานรับจ้างต่อ

อีกหนึ่งอาชีพ คือสวนยางพารา มีทั้งเจ้าของสวน และคนรับจ้างกรีดยาง ที่ต่างต้องหนีภัยสู้รบไปอยู่ศูนย์อพยพ

พ่อค้าแม่ค้าอีกจำนวนมาก ที่ยังจำเป็นต้องกู้หนี้นอกระบบ ต้องหยุดค้าขาย แต่ดอกเบี้ยไม่หยุดเดิน และเจ้าหนี้ก็ไม่ได้หยุดทวง

แม้แต่หนี้ในระบบเอง ดอกเบี้ยยังเดินไปเรื่อยๆ แต่ชาวบ้านผู้อพยพ ต่างก็ไม่มีรายได้ในช่วงนี้

ชาวบ้านหลายคนที่ผมไปคุยด้วย บอกว่า ตอนนี้เปรียบเหมือนเศรษฐกิจของครอบครัว ได้ล่มสลายไป ตั้งแต่การสู้รบกันครั้งแรก พยายามจะฟื้นกลับมาให้ได้ แต่ต้องมาหยุดทุกอย่างลงไปอีก และไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป

นี่จึงเป็นอีกความหวาดหวั่นของผู้อพยพ ของชาวบ้านตามแนวชายแดน รองๆ ลงมาจากการกลัวการสู้รบ ซึ่งรัฐจะหาหนทางช่วยเหลืออย่างไร

ป.ล.
ชาวบ้านหลายคน ยังสะท้อนตัวอย่างถึงเรื่องเล็กๆ อีกเรื่องหนึ่งที่รัฐควรดูแลว่า ตอนสู้รบกันคราวที่แล้ว หลังกลับจากศูนย์อพยพ บ้านจำนวนไม่น้อย ถูกถอดมิเตอร์ไฟฟ้าออกไป โดยถูกแจ้งว่าค้างค่าไฟฟ้า ซึ่งชาวบ้านขออย่าให้เกิดขึ้นอีกเลยในครั้งนี้

พวกเขาหวังว่าเมื่อถึงเวลาออกจากศูนย์อพยพกลับบ้าน นอกจากบ้านยังอยู่ดีแล้ว ขอให้ไม่ถูกถอดมิเตอร์ไฟฟ้าออกไปด้วย

https://www.facebook.com/photo/?fbid=25157452063883424&set=a.595044893884149