.jpeg)
Panote Saechiew
Yesterday
·
เลือกตั้ง 69
ไม่เล็งผลเลิศ ต่อประเทศเลย ตอนนี้เราน่าจะเข้าสู่ภาวะที่ ปชต จะทำงานได้น้อยที่สุด คือ เสียงแตกมาก และไม่สามารถมี consensus อะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวได้
คะแนนเสียงโดยทั่วไปจะไม่ข้ามฝั่ง แต่จะย้ายกันเองในฟากเดียวกัน การเปลี่ยนขั้วคะแนนโดยมากจะเกิดจากการเปลี่ยนรุ่น
แค่สองปีรุ่นคงไม่เปลี่ยนมาก ดังนั้นเราจะได้ฐานเสียง ปชน+พท ใกล้ๆของเดิม คือ 290 เสียงโดยประมาณ
โอกาส พรรคใดพรรคหนึ่งจะข้าม 250 ยากมากจนถึงเป็นไปไม่ได้
ถ้าเราอยู่ภายใต้สมมุติฐานว่า พท ฐานแตก และ ภจท ดูด เราอาจเห็น ภจท ขึ้นไปที่ประมาณ 100-120 ส่วนปาร์ตี้ลิสต์คงไม่ได้เหมือนเดิม
ปัญหาคือสามเส้า แดง-ส้ม-น้ำเงิน ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กันหมดแล้ว หัวใจใหญ่คือแดง-น้ำเงินนั้นเป็นความขัดแย้งทางผลประโยชน์ล้วนๆโดยไม่มีมิติอุดมการณ์ (เราจะเห็นนายแบกและนางแบกตัวท็อปยังยืนยันว่ากลับไปจับกันได้) ในขณะที่ แดง-ส้ม กับ ส้ม-น้ำเงิน นั้นมีรอยร้าวชัดในระดับฐานเสียง
สถานการณ์แบบนี้ถึงส้มตั้งรัฐบาลได้ ก็ต้องประนีประนอมมาก และถ้าทำอะไรไม่ได้มาก กระแสตีกลับจากฐานเสียงก็จะกลับมาอีก โอกาสตั้งรัฐบาลไม่ได้สูงกว่า แต่ถ้าแดงกลับไปจับกับน้ำเงิน ความขัดแย้งแดง-ส้มก็จะยิ่งรุนแรง
เรื่องตลกร้ายคือหัวใจของความขัดแย้งทั้งหมดคือน้ำเงิน นั่นคือทั้งสองสีที่เหลือชี้หน้าอีกฝ่ายว่าถ้ามันเลวจริงแล้วไปจับมันทำไม แต่ดันเป็นสีเดียวที่ลอยตัว
ไปๆมาๆอนาคตประเทศอาจไม่ใช่ว่าใครจะชนะ เพราะถึงส้มชนะก็คงตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่คือน้ำเงินต้องไม่แซงหน้าแดง
เพราะถ้าน้ำเงินมาอันดับสอง(หรือแม้แต่อันดับหนึ่ง) ก็น่าจะจับมือแดงเป็นรัฐบาล และในกรณีนั้น เราจะเห็นอนุทินเป็นนายก ในระยะเวลาที่ยาวกว่านี้ มีอำนาจมากกว่านี้ แต่ไม่ได้บริหารงานดีกว่านี้
และเราก็เห็นแล้วว่าถ้าแดงชนะ ก็บริหารอะไรไม่ได้ ถ้ามีน้ำเงินอยู่ข้างๆ
Panote Saechiew
นี่ยังไม่นับมิติทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่เอื้อต่อพรรคที่เป็นอุดมคตินิยมแบบส้ม
เช่นฮุนเซนหาเรื่องตลอด ตามหลักการส้มควร playdown ความรุนแรง พยายามหยุดยิง แต่สภาพแบบนี้มันอิหลักอิเหลื่อ นั่นคือหยุดยิงแต่อีกฝ่ายไม่หยุด ตัวเองก็เสีย จะพูดให้รุนแรงก็ไม่ได้ จะให้หยุดยิงก็ไม่ได้
พอบวกคนบ้าอย่างทรัมป์เข้าไปก็เละเทะไปเลย
แล้วโดย position ที่เป็นค่านิยมหลักแบบตะวันตกเลยไปกันใหญ่ จะเอียงสหรัฐ มันก็บ้า จะเอียงจีน ก็ขัดกับฐานตัวเอง
สภาพแบบนี้เหมือนๆอียู ที่อิหลักอิเหลื่อออกไม่ได้เหมือนกัน เพียงแต่เราแย่กว่าเขา
ไปๆมาๆ position บ้าๆบอๆแบบอนุทินมันเลยง่ายกว่า(แม้ผลจะไม่ดีกว่า)
https://www.facebook.com/panote.saechiew/posts/26400131446253874
·
เลือกตั้ง 69
ไม่เล็งผลเลิศ ต่อประเทศเลย ตอนนี้เราน่าจะเข้าสู่ภาวะที่ ปชต จะทำงานได้น้อยที่สุด คือ เสียงแตกมาก และไม่สามารถมี consensus อะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวได้
คะแนนเสียงโดยทั่วไปจะไม่ข้ามฝั่ง แต่จะย้ายกันเองในฟากเดียวกัน การเปลี่ยนขั้วคะแนนโดยมากจะเกิดจากการเปลี่ยนรุ่น
แค่สองปีรุ่นคงไม่เปลี่ยนมาก ดังนั้นเราจะได้ฐานเสียง ปชน+พท ใกล้ๆของเดิม คือ 290 เสียงโดยประมาณ
โอกาส พรรคใดพรรคหนึ่งจะข้าม 250 ยากมากจนถึงเป็นไปไม่ได้
ถ้าเราอยู่ภายใต้สมมุติฐานว่า พท ฐานแตก และ ภจท ดูด เราอาจเห็น ภจท ขึ้นไปที่ประมาณ 100-120 ส่วนปาร์ตี้ลิสต์คงไม่ได้เหมือนเดิม
ปัญหาคือสามเส้า แดง-ส้ม-น้ำเงิน ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กันหมดแล้ว หัวใจใหญ่คือแดง-น้ำเงินนั้นเป็นความขัดแย้งทางผลประโยชน์ล้วนๆโดยไม่มีมิติอุดมการณ์ (เราจะเห็นนายแบกและนางแบกตัวท็อปยังยืนยันว่ากลับไปจับกันได้) ในขณะที่ แดง-ส้ม กับ ส้ม-น้ำเงิน นั้นมีรอยร้าวชัดในระดับฐานเสียง
สถานการณ์แบบนี้ถึงส้มตั้งรัฐบาลได้ ก็ต้องประนีประนอมมาก และถ้าทำอะไรไม่ได้มาก กระแสตีกลับจากฐานเสียงก็จะกลับมาอีก โอกาสตั้งรัฐบาลไม่ได้สูงกว่า แต่ถ้าแดงกลับไปจับกับน้ำเงิน ความขัดแย้งแดง-ส้มก็จะยิ่งรุนแรง
เรื่องตลกร้ายคือหัวใจของความขัดแย้งทั้งหมดคือน้ำเงิน นั่นคือทั้งสองสีที่เหลือชี้หน้าอีกฝ่ายว่าถ้ามันเลวจริงแล้วไปจับมันทำไม แต่ดันเป็นสีเดียวที่ลอยตัว
ไปๆมาๆอนาคตประเทศอาจไม่ใช่ว่าใครจะชนะ เพราะถึงส้มชนะก็คงตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่คือน้ำเงินต้องไม่แซงหน้าแดง
เพราะถ้าน้ำเงินมาอันดับสอง(หรือแม้แต่อันดับหนึ่ง) ก็น่าจะจับมือแดงเป็นรัฐบาล และในกรณีนั้น เราจะเห็นอนุทินเป็นนายก ในระยะเวลาที่ยาวกว่านี้ มีอำนาจมากกว่านี้ แต่ไม่ได้บริหารงานดีกว่านี้
และเราก็เห็นแล้วว่าถ้าแดงชนะ ก็บริหารอะไรไม่ได้ ถ้ามีน้ำเงินอยู่ข้างๆ
Panote Saechiew
นี่ยังไม่นับมิติทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่เอื้อต่อพรรคที่เป็นอุดมคตินิยมแบบส้ม
เช่นฮุนเซนหาเรื่องตลอด ตามหลักการส้มควร playdown ความรุนแรง พยายามหยุดยิง แต่สภาพแบบนี้มันอิหลักอิเหลื่อ นั่นคือหยุดยิงแต่อีกฝ่ายไม่หยุด ตัวเองก็เสีย จะพูดให้รุนแรงก็ไม่ได้ จะให้หยุดยิงก็ไม่ได้
พอบวกคนบ้าอย่างทรัมป์เข้าไปก็เละเทะไปเลย
แล้วโดย position ที่เป็นค่านิยมหลักแบบตะวันตกเลยไปกันใหญ่ จะเอียงสหรัฐ มันก็บ้า จะเอียงจีน ก็ขัดกับฐานตัวเอง
สภาพแบบนี้เหมือนๆอียู ที่อิหลักอิเหลื่อออกไม่ได้เหมือนกัน เพียงแต่เราแย่กว่าเขา
ไปๆมาๆ position บ้าๆบอๆแบบอนุทินมันเลยง่ายกว่า(แม้ผลจะไม่ดีกว่า)
https://www.facebook.com/panote.saechiew/posts/26400131446253874