วันเสาร์, พฤศจิกายน 01, 2568

เกี่ยวกับ ‘กัน จอมพลัง’ และเทศบาลเชียงใหม่ จะเรียกว่าความคืบหน้า (Developing) หรือลดระดับ (Descending) ดีล่ะ มันโอละพ่อทั้งคู่

จะเรียกว่าความคืบหน้า (Developing) หรือลดระดับ (Descending) สำหรับ กัน จอมพลัง และเทศบาลเชียงใหม่ มันมีความหมาย (ต่อทั้งคู่) ต่างกันแค่เส้นยาแดงผ่าแปด

สำหรับ กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ มาจาก อินฟลูฯ ช่วยชาติ ทำงานจิตอาสาร่วมกับกองทัพบกเป็นปี่เป็นขลุ่ย “สุมหัวกันปั่นชาตินิยม” ดัง ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ว่า “วันนี้สงครามจบเลยวงแตก งัดขี้มาปาใส่กัน” ก็เรื่องขออนุเคราะห์ความช่วยเหลือนั่นละ

๓๑ ตุลา กัน ไล้ฟ์ชี้แจงเรื่องซื้อเสื้อเกราะให้ทหาร ที่ วินธัย สุวารี โฆษก ทบ.บอกว่า ไม่ได้ชาดแคลน ไม่ได้ขอ เอามาให้เองก็รับไว้รักษาน้ำใจ “มีแต่คนบอกว่าทำอันนั้นไม่ถูกอันนี้ไม่ถูก พอบอกความจริงไม่ตรงใจก็เบี่ยงไปอย่างอื่นอีก”

เขายกตัวอย่าง “เช่น หนังสือขอความสนับสนุน เมื่อวานผมเข้าประชุมก็โชว์หนังสือ พอเราโชว์หนังสือไปปุ๊บก็บอกว่ามันเป็นหนังสือขอบคุณอีก โอเค พอผมเปิดหนังสือขอการสนับสนุนก็บอกเป็นหนังสือ ตชด. ไม่ใช่ของทหาร” เขาก็เฮ้ยสิ

พอตอนนี้ความจริงเริ่มโผล่ว่าตำรวจ ทหาร และหน่วยงานมั่นคงอีกหลายแห่ง ออกหนังสือขอความอนุเคราะห์กันทั้งนั้น เนื้อหาหนังสือคล้ายกัน ต่างแต่ชื่อหน่วยงาน ระบุว่าให้ไปสั่งของจากที่นี่นะ ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่จ่ายเงินเท่านั้น

บริษัทอินโรสตาร์ผู้ผลิตบอกได้รับออเดอร์เสื้อเกราะทั้งหมด ๙๐๐ ตัว แต่จดหมายจาก ทบ.และ ตชด. ขอประมาณ ๕๐๐ ตัว จึงยังมีหน่วยงานอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เปิดชื่อ รวมกันอีก ๔๐๐ ตัว มีคนบอกว่าราคาจริง ๖ พัน เขียนเบิกกัน ๑ หมื่น

มาถึงกรณีเทศบาลเชียงใหม่ จัดสวนในวงเวียนจุดหนึ่งด้วยโคมไฟดอกไม้พล้าสติกขนาดใหญ่ หลากสีสด พอพระพันปีหลวงเสด็จสู่สวรรคาลัย ก็เลยไปพ่นสีดอกไม้เหล่านั้นเป็นสีดำ แทนที่จะดูขลึมขลัง มันออกไปทางบ้าบอเสียมากกว่า อีกสองวันต่อมามีการเปลี่ยนแปลง

แถบคอนกรีตขอบสวนที่เคยทาสีลายแดงขาว เพื่อความสะดุดตาของการจราจร กลับเปลี่ยนไปเป็นขาวล้วน เสียงวิพากษ์ชักหนักแล้วตอนนี้ “เทอจะเปลี่ยนสีขอบถนนขาว-แดง เป็นสีขาวเพื่อแค่ไว้อาลัยไม่ได้” นะ เม้นต์ของชาวเฟชบุ๊คคนหนึ่ง

จนเมื่อวาน (๓๑ ตุลา) จาก Pavin Chachavalpongpun อีกแหละ ไล่เลียง “เริ่มจากโคมไฟดอกไม้สีสดใส แล้วเอาสเปรย์ดำไปพ่นทับ ลบขอบถนนขาว-แดงเป็นขาวล้วน จากนั้นถอนดอกไม้ออกทั้งหมด แล้วเปลี่ยนเป็นดอกไม้ขาว”

ล่าสุดทราบว่า “เปลี่ยนสีขอบถนนเป็นขาว-ดำ มึงว่างมากจนเอาภาษีมาถลุง”

(https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/YSGMFd2, https://www.facebook.com/nara.kr.ti.yay.n/posts/1XUGEAkaK และ https://www.facebook.com/NewsWorkpoint/posts/jQdbPLxhtc7m) 

กิจกรรมรำลึก #19ปีนวมทองไพรวัลย์ สามัญชนผู้ยิ่งใหญ่ แท๊คซี่ชนรถถัง พลีชีพต่อต้านรัฐประหาร 2549 ‘ชาติหน้าเกิดมาคงไม่พบการปฏิวัติอีก‘


รำลึก 19ปี นวมทอง ไพรวัลย์ แท๊คซี่ชนรถถัง 31ต.ค.68

Friends Talk

Streamed live 10 hours ago 

สดจากสดมภ์อนุสรณ์ นวมทอง ไพรวัลย์ หน้าสนญ.หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ #พรรคประชาชน #ช่อพรรณิการ์ #รัฐประหาร49 #เจี๊ยบอมรัตน์ #19ปีนวมทองไพรวัลย์

https://www.youtube.com/watch?v=kDYXJSxNGPs






 

https://www.facebook.com/eggcatcheese/posts/pfbid0jJQabnCcZdr3esrvyrMnPdJ38b2c4CHdB6Jj1dVhNrtwxgzTycy2BYehrGc433Jfl

ไข่แมวชีส added photos to the album: 31 ต.ค. 68 รำลึก 19 ปี นวมทอง ไพรวัลย์
1 hour ago
·
บรรยากาศงานรำลึก 19 ปี ”นวมทอง ไพรวัลย์“ พลีชีพต่อต้านรัฐประหาร 2549 ‘ชาติหน้าเกิดมาคงไม่พบการปฏิวัติอีก‘
.
31 ต.ค. 2568 ที่สดมภ์อนุสรณ์ นวมทอง ไพรวัลย์ บริเวณสะพานลอย หน้าสำนักงานใหญ่สำนักพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 ร่วมกับมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย จัดงาน “19 ปี 19 กันยา 2549 ต่อต้านรัฐประหาร รำลึก นวมทอง ไพรวัลย์”
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศวันนี้ตั้งแต่ช่วงเวลา 12.00 น. ที่บริเวณสดมภ์อนุสรณ์ มีผู้ร่วมงาน อาทิ ธิดา ถาวรเศรษฐ, นพ.เหวง โตจิราการ, ญาติของนวมทอง ไพรวัลย์, อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, พรรณิการ์ วานิช, เทวฤทธิ์ มณีฉาย, ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์, จิ้น กรรมาชน, หนวดริมทาง, อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์, กลุ่มทะลุแก๊ซ, ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล, สมยศ พฤกษาเกษมสุข และกลุ่ม 24 มิถุนาเพื่อประชาธิปไตย
.
ต่อจากนั้นมีกาารรับประทานอาหารร่วมกันและเล่นดนตรี ต่อด้วยแรปสดจาก บุ๊ค ธนายุทธ ณ อยุธยา จากนั้นจึงเริ่มพิธีถวายสังฆทานพระสงฆ์จำนวน 4 รูป ต่อด้วยการวางพวงหรีดและดอกไม้แสดงความรำลึก และกล่าวปราศรัยรำลึกถึงนวมทอง ไพรวัลย์
.
สำหรับ นวมทอง ไพรวัลย์ เป็นอดีตพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ขณะนั้นเขาขับรถแท็กซี่ พุ่งชนรถถังของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549
.
31 ต.ค. 2549 ปรากฏว่าเขาพลีชีพตนเองที่ราวสะพานลอยบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก เยื้องกับที่ตั้งสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ จดหมายลาตายระบุว่าต้องการลบคำสบประมาทของ พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษก คปค. ที่ว่า "ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้" เนื้อหาจดหมายมีใจความว่า
.
"สุดท้ายขอให้ลูกๆ และภรรยาจงภูมิใจในตัวพ่อ ไม่ต้องเสียใจ ชาติหน้าเกิดมาคงไม่พบเจอการปฏิวัติอีก ลาก่อน พบกันชาติหน้า ปล. ขอแก้ข่าว ขวดยาที่พบในรถภายหลังเกิดเหตุคืออาหารเสริมแคปซูลใบแปะก๊วยไม่ใช่ยาแก้เครียดตามที่ลงข่าว นสพ. ผมไม่เครียดแต่ประท้วงจอมเผด็จการ"




https://www.facebook.com/Prachatai/posts/1264555782385393

ประชาไท Prachatai.com 
7 hours ago
·
ภาพบรรยากาศงานรำลึก 19 ปี "นวมทอง ไพรวัลย์"
.
31 ต.ค. 2568 ที่สดมภ์อนุสรณ์ นวมทอง ไพรวัลย์ บริเวณสะพานลอย หน้าสำนักงานใหญ่สำนักพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 ร่วมกับมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย จัดงาน “19 ปี 19 กันยา 2549 ต่อต้านรัฐประหาร รำลึก นวมทอง ไพรวัลย์”
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศวันนี้ตั้งแต่ช่วงเวลา 12.00 น. ที่บริเวณสดมภ์อนุสรณ์ มีผู้ร่วมงาน อาทิ ธิดา ถาวรเศรษฐ, นพ.เหวง โตจิราการ, ญาติของนวมทอง ไพรวัลย์, อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, พรรณิการ์ วานิช, เทวฤทธิ์ มณีฉาย, ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์, จิ้น กรรมาชน, หนวดริมทาง, อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์, กลุ่มทะลุแก๊ซ, ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล, สมยศ พฤกษาเกษมสุข และกลุ่ม 24 มิถุนาเพื่อประชาธิปไตย
.
ต่อจากนั้นมีกาารรับประทานอาหารร่วมกันและเล่นดนตรี ต่อด้วยแรปสดจาก บุ๊ค ธนายุทธ ณ อยุธยา จากนั้นจึงเริ่มพิธีถวายสังฆทานพระสงฆ์จำนวน 4 รูป ต่อด้วยการวางพวงหรีดและดอกไม้แสดงความรำลึก และกล่าวปราศรัยรำลึกถึงนวมทอง ไพรวัลย์
.
สำหรับ นวมทอง ไพรวัลย์ เป็นอดีตพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ขณะนั้นเขาขับรถแท็กซี่ พุ่งชนรถถังของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549
.
31 ต.ค. 2549 ปรากฏว่าเขาพลีชีพตนเองที่ราวสะพานลอยบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก เยื้องกับที่ตั้งสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ จดหมายลาตายระบุว่าต้องการลบคำสบประมาทของ พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษก คปค. ที่ว่า "ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้" เนื้อหาจดหมายมีใจความว่า
.
"สุดท้ายขอให้ลูกๆ และภรรยาจงภูมิใจในตัวพ่อ ไม่ต้องเสียใจ ชาติหน้าเกิดมาคงไม่พบเจอการปฏิวัติอีก ลาก่อน พบกันชาติหน้า ปล. ขอแก้ข่าว ขวดยาที่พบในรถภายหลังเกิดเหตุคืออาหารเสริมแคปซูลใบแปะก๊วยไม่ใช่ยาแก้เครียดตามที่ลงข่าว นสพ. ผมไม่เครียดแต่ประท้วงจอมเผด็จการ"
.
รายงานและภาพ: แมวส้ม



เวอร์จิเนีย จุฟเฟร ผู้ดึงแอนดรูว์ ร่วงจากความเป็นเจ้าชาย ครอบครัวของจุฟเฟรได้กล่าวถึงบุตรสาว ที่จากไปหลังทำอัตวินิบาตกรรมเมื่อเดือน เม.ย.ของปีนี้ว่า "เธอได้โค่นล้มถอดถอนเจ้าชายอังกฤษ ด้วยความจริงและความกล้าหาญที่เหนือธรรมดาสามัญของเธอ"

https://www.facebook.com/watch/?v=1102935181687900




เจ้าชายแอนดรูว์ถูกถอดฐานันดร "เจ้าฟ้า" และต้องย้ายออกจากพระราชวังวินด์เซอร์

นูร์ นานจี
ผู้สื่อข่าววัฒนธรรม บีบีซี
31 ตุลาคม 2025

เจ้าชายแอนดรูว์หรือดยุคแห่งยอร์ก พระอนุชาในสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่สาม และพระราชโอรสองค์รองในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองแห่งสหราชอาณาจักร ถูกถอดถอนฐานันดรศักดิ์ "เจ้าฟ้า" ซึ่งเป็นสกุลยศที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ทำให้ต่อไปนี้จะไม่สามารถใช้คำนำหน้าพระนามว่า "เจ้าชาย" ได้อีกต่อไป รวมทั้งต้องย้ายออกจากพระตำหนักในพระราชวังวินด์เซอร์ด้วย

การประกาศถอดฐานันดรศักดิ์ดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่เจ้าชายแอนดรูว์ถูกตรวจสอบอย่างหนัก ในกรณีที่เข้าไปพัวพันกับนายเจฟฟรีย์ เอปสตีน อาชญากรคดีล่วงละเมิดทางเพศ จนเกิดเป็นข่าวอื้อฉาวนานติดต่อกันหลายสัปดาห์

กรณีดังกล่าวส่งผลให้ทางสำนักพระราชวังบักกิงแฮม ออกแถลงการณ์ถอดฐานันดรศักดิ์เจ้าฟ้าของเจ้าชายแอนดรูว์ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่านับตั้งแต่นี้ เจ้าชายแอนดรูว์จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อสกุลแบบสามัญชนว่า "แอนดรูว์ เมาท์แบตเทน วินด์เซอร์" (Andrew Mountbatten Windsor)

ก่อนหน้านี้ไม่นาน เจ้าชายแอนดรูว์ได้สละอิสสริยยศของพระราชวงศ์อังกฤษไปแล้วหลายตำแหน่ง รวมถึงพระยศดยุคแห่งยอร์ก ซึ่งเป็นตำแหน่งสำหรับพระอนุชาขององค์รัชทายาท หรือ "ตัวสำรอง" ของผู้สืบสันตติวงศ์ในลำดับแรกนั่นเอง เนื่องจากเจ้าชายแอนดรูว์ถูกสื่อและสังคมอังกฤษ รุมตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวในชีวิตส่วนตัวอย่างหนัก

เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ เพิ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาในบันทึกความทรงจำของนางสาวเวอร์จิเนีย จุฟเฟร ซึ่งถูกนำออกเผยแพร่หลังจากเธอเสียชีวิตไปแล้ว โดยในบันทึกความทรงจำดังกล่าว มีข้อความที่เน้นย้ำถึงข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศของเจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งจุฟเฟรบอกว่าตอนเธอยังเป็นวัยรุ่น เคยถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับเขาในวาระโอกาสต่าง ๆ ถึง 3 ครั้ง แต่เจ้าชายแอนดรูว์ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาโดยตลอด

หลังจากได้ทราบข่าวการถอดฐานันดรศักดิ์ ครอบครัวของจุฟเฟรได้กล่าวถึงบุตรสาว ที่จากไปหลังทำอัตวินิบาตกรรมเมื่อเดือนเม.ย.ของปีนี้ว่า "เธอได้โค่นล้มถอดถอนเจ้าชายอังกฤษ ด้วยความจริงและความกล้าหาญที่เหนือธรรมดาสามัญของเธอเอง"

แถลงการณ์ของสำนักพระราชวังบักกิงแฮมระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่สาม "มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เริ่มกระบวนการถอดถอนฐานันดรศักดิ์, พระยศแห่งราชวงศ์, และเกียรติยศต่าง ๆ ของเจ้าชายแอนดรูว์ อย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"

นอกจากการถอดถอนฐานันดรศักดิ์แล้ว แถลงการณ์ของสำนักพระราชวังบักกิงแฮมยังระบุว่า "บัดนี้ได้มีการแจ้งอย่างเป็นทางการ เพื่อยุติสัญญาเช่าพระตำหนักรอยัลลอดจ์ (Royal Lodge)" ซึ่งหมายความว่าเจ้าชายแอนดรูว์จะต้องย้ายออกจากที่พำนักปัจจุบันในพระราชวังวินด์เซอร์ ไปยังที่พักส่วนตัวแห่งใหม่ในพระตำหนักซานดริงแฮม โดยคาดกันว่าสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่สาม จะทรงเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วยเงินส่วนพระองค์

"มาตรการลงโทษเหล่านี้ถือเป็นสิ่งจำเป็น แม้ข้อเท็จจริงจะมีอยู่ว่า เจ้าชายแอนดรูว์ยังคงปฏิเสธไม่ยอมรับข้อกล่าวหาที่มีต่อตนเอง" แถลงการณ์ของสำนักพระราชวังบักกิงแฮมระบุ ทั้งยังบอกว่าสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินี ทรงแสดงการสนับสนุนและให้กำลังใจแก่ "เหยื่อของการล่วงละเมิดในทุกกรณีและทุกรูปแบบ"


เจ้าชายแอนดรูว์พำนักที่พระตำหนักรอยัลลอดจ์มาตั้งแต่ปี 2004 ทว่าในตอนนี้ต้องย้ายออกแล้ว

อย่างไรก็ตาม พระธิดาทั้งสองของเจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งก็คือเจ้าหญิงเบียทริซและเจ้าหญิงยูเชนี จะยังคงมีฐานันดรศักดิ์เจ้าหญิงอยู่ต่อไป ส่วนเจ้าชายแอนดรูว์ก็ยังคงมีสิทธิในการสืบสันตติวงศ์ โดยถือเป็นรัชทายาทในลำดับที่ 8

ซาราห์ เฟอร์กูสัน อดีตพระชายาของเจ้าชายแอนดรูว์ จะต้องย้ายออกจากพระตำหนักรอยัลลอดจ์ในครั้งนี้ด้วย และจะต้องจัดหาที่พักใหม่ของเธอด้วยตนเอง ก่อนหน้านี้เธอยังคงใช้ชื่อว่า "ซาราห์ ดัชเชสแห่งยอร์ก" มาโดยตลอด แต่ได้เปลี่ยนกลับไปใช้นามสกุลเดิมก่อนสมรส เมื่อเจ้าชายแอนดรูว์สละอิสสริยยศ "ดยุกแห่งยอร์ก" ในเดือนนี้

คาดกันว่าทางสำนักพระราชวังได้หารือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักร ก่อนจะออกประกาศถอดถอนฐานันดรศักดิ์ดังกล่าว โดยมีรายงานว่ารัฐบาลเห็นชอบและสนับสนุนการถอดถอนครั้งนี้ โดยรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม ลิซา แนนดี ให้สัมภาษณ์ในรายการ Question Time ทางสถานีโทรทัศน์บีบีซีวันว่า การประกาศถอดถอนฐานันดรศักดิ์ในครั้งนี้ "ส่งสารอันทรงพลัง ไปยังเหยื่อของพวกหลอกล่อผู้เยาว์และพวกที่ล่วงละเมิดทางเพศ...นี่คือความก้าวหน้าครั้งใหญ่ และเป็นก้าวสำคัญในการตัดสินพระทัยของพระมหากษัตริย์ ฉันขอบอกไว้แต่แรกเลยว่า ฉันสนับสนุนก้าวสำคัญของพระองค์ในครั้งนี้"


ซาราห์ เฟอร์กูสัน อดีตพระชายาของเจ้าชายแอนดรูว์ จะต้องย้ายออกจากพระตำหนักรอยัลลอดจ์ด้วย

การถอดถอนฐานันดรศักดิ์ของเจ้าชายแอนดรูว์ มีขึ้นหลังจากราชวงศ์อังกฤษต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสาธารณชนมานานหลายสัปดาห์ เนื่องจากเรื่องอื้อฉาวที่เจ้าชายแอนดรูว์มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจฟฟรีย์ เอปสตีน ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้ง หลังบันทึกความทรงจำของจุฟเฟรที่กล่าวหาว่าเจ้าชายล่วงละเมิดทางเพศเธอ ถูกเปิดเผยออกมาในช่วงต้นเดือนนี้

แม้ที่ผ่านมาเจ้าชายแอนดรูว์จะยืนกรานปฏิเสธอย่างหนักแน่น ว่าไม่เคยล่วงละเมิดทางเพศจุฟเฟร แต่เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ มีการเปิดเผยเนื้อหาของอีเมลหลายฉบับ ที่เจ้าชายเขียนเพื่อติดต่อกับเอปสตีนตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งแสดงว่าทั้งสองยังคงคบหากันอยู่ แม้เจ้าชายจะอ้างว่าได้ยุติความสัมพันธ์ฉันมิตรสหายกับเอปสตีนไปแล้ว ตั้งแต่หลายเดือนก่อนหน้านั้น

เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการเช่าที่พำนักในพระราชวังวินด์เซอร์ ยังถูกขุดคุ้ยขึ้นมาเปิดเผยต่อสาธารณชนในเดือนนี้ด้วย ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า เจ้าชายแอนดรูว์เอาเงินจากไหนมาใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย ในตอนที่ไม่ได้รับเงินปีจากการเป็นพระราชวงศ์ที่ทรงงานแล้ว

เจ้าชายแอนดรูว์พำนักที่พระตำหนักรอยัลลอดจ์ ซึ่งอยู่ในเขตพระราชวังวินด์เซอร์มาตั้งแต่ปี 2004 โดยเมื่อปีที่แล้วได้เริ่มทำสัญญาเช่าเป็นเวลา 75 ปี กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (Crown Estate) ซึ่งทำหน้าที่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ผู้ให้เช่าอาคาร เหมือนกับบริษัทของเอกชนโดยทั่วไป

พระตำหนักรอยัลลอดจ์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอสังหาริมทรัพย์ชั้นสอง (Grade II property) ซึ่งหมายถึงอาคารหรือโครงสร้างที่มีความพิเศษทางประวัติศาสตร์หรือสถาปัตยกรรม และจะต้องมีการอนุรักษ์ พระตำหนักนี้ประกอบด้วยอาคาร Chapel Lodge ขนาด 6 ห้องนอน มีทั้งที่พักของคนสวนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บีบีซีได้เปิดเผยรายละเอียดของสัญญาเช่าพระตำหนักดังกล่าว โดยเนื้อหาในสัญญาระบุว่า เจ้าชายแอนดรูว์ต้องจ่ายค่าเช่ารายปีเพียงเล็กน้อยแบบพอเป็นพิธีเท่านั้น หรืออาจไม่ต้องจ่ายเลยในการทำข้อตกลงพิเศษกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

ข้อตกลงพิเศษดังกล่าวระบุว่า ให้เจ้าชายแอนดรูว์จ่ายเงินก้อนเพียงครั้งเดียว ซึ่งเงินก้อนนี้รวมค่าปรับปรุงพระตำหนักเอาไว้ด้วย โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่ารายปีเป็นระยะเวลาถึง 75 ปี ตามสัญญาเช่าที่เป็นทางการ

นั่นหมายความว่า เจ้าชายแอนดรูว์ใช้เงินเพียง 8 ล้านปอนด์ จ่ายค่าเช่าพระตำหนักรอยัลลอดจ์ทั้งหมดล่วงหน้า ทั้งที่สัญญาเช่าได้กำหนดให้จ่ายถึงปีละ 260,000 ปอนด์ เป็นระยะเวลา 75 ปี

นอกจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายส่วนตัวดังกล่าว ในสัปดาห์นี้สื่ออังกฤษยังเปิดเผยว่า เจ้าชายแอนดรูว์เคยรับรองนายเอปสตีนที่พระตำหนักรอยัลลอดจ์ ตอนที่เขาเป็นแขกมาร่วมงานฉลองวันคล้ายวันประสูติเจ้าหญิงยูเชนี เมื่อปี 2006 ซึ่งเป็นช่วงที่ทางการสหรัฐฯ ได้ออกหมายจับนายเอปสตีนในคดีล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ไปแล้วถึง 2 เดือน โดยทางเจ้าชายแอนดรูว์ยังไม่ออกมาชี้แจงต่อสาธารณชนในเรื่องนี้

https://www.bbc.com/thai/articles/cd0478jl22do



ไม่รู้ว่า เค้ารักชาติ รักทหาร กันแบบไหน - โควต้าหวยที่หาย ใครกันหากินบนคราบเลือดคราบน้ำตา บนความเสียสละของผู้ผ่านศึก


ธนเดช เพ็งสุข - Tanadej Pengsuk
9 hours ago
·
[ โควต้าหวยสีเทา ใครกันหากินบนคราบเลือดคราบน้ำตา บนความเสียสละของผู้ผ่านศึก ]
“โควตาหวยของทหารผ่านศึก กว่า 1,000,000.- ใบต่องวด กำลังกลายเป็นเหมืองทองของกลุ่มทุนเทา”
คนที่เคยเสียสละ กลับกลายเป็นเหยื่อในเกมหากินของคนมีอำนาจ
ในแต่ละงวด “องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก” ได้รับโควตาลอตเตอรี่จำนวนมากกว่า 10,000.- เล่มต่องวดจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งเป็น “สิทธิประโยชน์เพื่อทหารผ่านศึก”
ผู้ที่เคยอุทิศเลือดเนื้อ ปกป้องแผ่นดิน เพื่อแลกกับความปลอดภัยของแผ่นดิน
แต่วันนี้… โควตาเหล่านั้นกลับไม่ได้อยู่ในมือของทหารผ่านศึกจริง ๆ โควตาของพวกเขาถูกรวบรวมและจัดการบริหารภายใต้หน่วยงานที่ชื่อว่าสำนักงาน จัดจำหน่ายสลากกินแบ่งและบุหรี่ ที่แปลสภาพตนเป็น “ยี่ปั๊วขนาดใหญ่” ที่ทุกคนในวงการรู้ดีว่าใครคือผู้ถือสิทธิ์ตัวจริง
วันนี้ผมขอถามว่าโควตานี้ “หลุด” ไปอยู่ในมือของกลุ่มใด?
และเหตุใดเครือข่ายเหล่านั้นถึงได้สิทธิ์มากมายขนาดนี้?
หรือเพราะเบื้องหลังของโควตานี้ อาจไม่ได้มีแค่ธุรกิจ… แต่อาจมี “อำนาจ การเมือง มูลนิธิ หรือ สายสัมพันธ์” ที่ค้ำจุนกันอยู่
ผมขอเรียกร้องให้ ผอ.อผศ เปิดเผย การบริหาร “โควตาหวยของทหารผ่านศึก” ว่าถูกบริหารจัดการอย่างไร?ใครคือผู้ได้รับสิทธิ์ประมูลเหล่านี้? และมีใครกำลังหากินบนคราบเลือด คราบเหงื่อและน้ำตาของวีรบุรุษของชาติหรือไม่?
และขอแสดงความห่วงใย ถึง อผศ. ว่าหน่วยงานท่านกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือ “เครือข่ายเทา” ที่กำลังเติบโตบนความไม่โปร่งใส และใช้ชื่อของผู้เสียสละเป็นเครื่องมือหากิน เบื้องหน้าอ้างคุณงามความดีของทหารผ่านศึก แต่เบื้องหลัง… กำลังกินส่วนต่างจากเหงื่อและน้ำตาของวีรบุรุษชาติ

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1463134882486272&set=a.340989224700849


ยุ่งแล้ว! พรรคประชาชน รวบรวม ที่กันเปิดรับบริจาคให้กองทัพ มาเปิดให้ดู มีตั้ง 40 รายการ กองทัพไม่รู้เลยเหรอ ??

https://www.facebook.com/ChayaphonSatondee/posts/pfbid02u1vwqZNdMigWRexrSi2Xjpm3zty63Hmn17ieacKFX1gv5SCDVAz6ae3FAedecu5ul

ชยพล สท้อนดี - Chayaphon Satondee 
Yesterday
·
หลังจากการประชุม กมธ.การทหารในวันนี้ ยังคงมีคำถามค้างคาอยู่ทั้งหมด 7 คำถาม
1) เอกสารขอความอนุเคราะห์จากกองทัพ เพื่อขอสนับสนุนของจากภาคเอกชน มีอยู่จริงหรือไม่
2) กองทัพขาดแคลนสิ่งของที่สำคัญต่อการปฏิบัติหน้าที่จริงหรือไม่
3) กองทัพได้รับของบริจาคจริงหรือไม่
4) กองทัพได้ใช้ของบริจาคจริงหรือไม่
5) กองทัพสามารถให้หน่วยย่อยเปิดรับบริจาคเองโดยไม่ต้องแจ้งหน่วยหลักได้หรือไม่
6) เกิดการเบิกงบประมาณซ้ำซ้อนกับสิ่งของที่รับบริจาคหรือไม่
7) เราสามารถเชื่อในประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณของกองทัพได้หรือไม่


















 


 



ยิ่งชี้แจง ยิ่งงานเข้า ! หลายคำถามที่กองทัพบกยังไม่สามารถชี้แจงได้ เช่น เหตุใดปล่อยให้หน่วยย่อยขอรับบริจาคตามอัธยาศัย นี่เป็นการหลบเลี่ยงระบบจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่ ไปจนถึงมีใครอมเงินงบประมาณกลาโหม 2 แสนล้านบาทต่อปีหรือเปล่า


จากซ้ายไปขวา: นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กันจอมพลัง และ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.)

ข้อสงสัย อมงบ-เลี่ยงระบบจัดซื้อ-ล็อกสเปกของ: คำชี้แจงของ 'กันจอมพลัง' ทำให้เกิดคำถามอะไรบ้างต่อกองทัพบก


จิราภรณ์ ศรีแจ่ม
ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย
31 ตุลาคม 2025, 17:18 +07

ยิ่งฟังชี้แจงยิ่งเกิดคำถามกลับไปที่กองทัพบก อาจเป็นการสรุปภาพรวมสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร วานนี้ (30 ต.ค.) ได้ดีที่สุด

วันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา กมธ.การทหารฯ ซึ่งมีนายเอกราช อุดมอำนวย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน เป็นประธาน เชิญนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กันจอมพลัง และ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) เข้าชี้แจงในการประชุมพิจารณาวาระการบริหารทรัพยากรกองทัพในเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทั้งคู่เข้าชี้แจงต่อ กมธ.การทหารฯ ผ่านระบบการประชุมแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

ประเด็นหลัก ๆ ที่ทาง กมธ.การทหารฯ ต้องการคำชี้แจงจากกันจอมพลังและกองทัพบก คือ กิจกรรมของพลเรือนในพื้นที่ข้อพิพาทและพื้นที่ความมั่นคง โดยต้องการทราบว่าการปล่อยให้มีบุคคลภายนอกซึ่งเป็นพลเรือนเข้าไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทนั้น เป็นมาตรการในส่วนใดของฝ่ายความมั่นคง และจริง ๆ แล้วสามารถปล่อยให้บุคคลภายนอกทำกิจกรรมเช่นนี้ได้หรือไม่

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นข้อกังวลเรื่องการใช้สื่อและการสร้างภาพลักษณ์โดยบุคคลภายนอก ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ รวมถึงทำให้สาธารณะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือไม่

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ คือการสอบถามเกี่ยวกับปัญหาขาดแคลนสิ่งของในหลายด้าน เช่น ยุทโธปกรณ์ ยุทธภัณฑ์ บังเกอร์ อาหาร ฯลฯ ซึ่งทาง กมธ.การทหารฯ เห็นทางกันจอมพลังโพสต์ขอบริจาคผ่านหน้าเฟซบุ๊กเป็นระยะ ๆ ทั้งที่กองทัพบกชี้แจงมาโดยตลอดว่างบประมาณความมั่นคงมีมากพอ และสามารถนำมาบริหารจัดการได้อย่างทันท่วงที

ทาง กมธ.การทหารฯ บอกว่าการเชิญบุคคลทั้งสองมาเข้าร่วมประชุม เป็นเพราะต้องการตรวจสอบและทำความเข้าใจปัญหาเชิงระบบ โดยเฉพาะเรื่องการจัดการงบประมาณด้านความมั่นคง ความโปร่งใสในการรับบริจาคยุทธภัณฑ์ และความเหมาะสมในการให้พลเรือนเข้าทำกิจกรรมในพื้นที่ทางยุทธวิธี

กันจอมพลังระบุ บริจาคยุทโธปกรณ์ตามที่หน่วยงานรัฐขอมา มูลนิธิมีความคล่องตัวด้านการเบิกจ่ายเงินกว่ากองทัพ

กันจอมพลังแสดงเอกสารขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่ส่งไปยังเขา แต่เนื่องจากเป็นการประชุมออนไลน์ทำให้ภาพเอกสารที่เขาแสดงมองเห็นได้ไม่ชัด เขาจึงอ่านเนื้อหาในเอกสารให้ กมธ.การทหารฯ ฟัง โดยขออนุญาตไม่ระบุชื่อหน่วยงานที่อยู่ในเอกสาร แต่บอกว่าหน่วยงานที่ติดต่อขอความอนุเคราะห์เข้ามานั้นมีทั้ง "ทหารและตำรวจ"

ต่อมาเขาโพสต์ภาพเอกสารดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊ก แต่ยังเบลอชื่อหน่วยงานและบุคคลในเอกสารดังกล่าว

เอกสารฉบับนี้ระบุว่า "ขอรับการสนับสนุนแผ่นเกราะแข็งป้องกันกระสุนระดับ IV" จำนวน 250 แผ่น โดยในเอกสารระบุ "เรียน กรรมการผู้จัดการมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ผ่าน บริษัท (เบลอชื่อ) จำกัด"

แม้เนื้อหาในเอกสารถูกเบลอข้อความต่าง ๆ แต่จากการเปิดเผยของกันจอมพลังในที่ประชุม กมธ.การทหารฯ ก็พอทำให้ทราบได้ว่าเป็นหน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ต่อเนื่องจนถึงช่องบก จ.อุบลราชธานี โดยในเอกสารระบุว่า วัตถุประสงค์คือเพื่อเตรียมความพร้อมของกำลังพลและอุปกรณ์ ให้พร้อมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นแก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่

เขาชี้แจงว่าเป็นการขอรับการสนับสนุนจากมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ผ่านมาทางบริษัทเอกชน แต่ไม่ได้เอ่ยชื่อบริษัทดังกล่าวในระหว่างการร่วมประชุมกับ กมธ.การทหารฯ

Facebook กันจอมพลัง ช่วยสู้
เอกสารขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานหนึ่ง โดยกันจอมพลังโพสต์ภาพนี้ลงในเฟซบุ๊กของเขา หลังชี้แจงต่อ กมธ.การทหารฯ

จากนั้น เขาแสดงเอกสารอีกฉบับหนึ่งที่มีเนื้อหาคล้ายกัน ระบุหัวเอกสารว่า "ด่วนที่สุด" ซึ่งขอความอนุเคราะห์สนับสนุนแผ่นเกราะระดับสี่ จำนวน 120 แผ่น แต่ไม่เปิดเผยชื่อหน่วยงานและบริษัทที่ปรากฏในเอกสารดังกล่าว

เมื่อนายเอกราชท้วงว่า กันจอมพลังทราบหรือไม่ว่าพลเรือนไม่สามารถซื้อยุทธภัณฑ์หรือยุทโธปกรณ์เองได้ ทางกันจอมพลังชี้แจงว่า ผู้ทำเอกสารขอการสนับสนุนมายังมูลนิธิฯ คือหน่วยงานของรัฐ ตนเองไม่ได้ดำเนินการในส่วนของการทำเอกสารเพื่อดำเนินการจัดซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ แต่อย่างใด

ทางมูลนิธิฯ เพียงแค่จ่ายเงินให้กับบริษัทที่หน่วยงานของรัฐประสานมาเท่านั้น จากนั้นทางบริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ต่อไป ส่วนตัวเขาเองแค่ไปถ่ายรูปร่วมเฟรม และการสกรีนชื่อ "กันจอมพลังช่วยสู้" บนเสื้อเกราะ ทางบริษัทก็เป็นผู้ดำเนินการเอง

ส่วนประเด็นการเข้าไปในพื้นที่กฎอัยการศึกนั้น ทางกันจอมพลังชี้แจงว่าไม่ได้มีแค่เขาเท่านั้น แต่มีพระสงฆ์และชาวบ้านเข้าไปในพื้นที่ด้วย และเขามองว่าไม่ได้เข้าไปสร้างความเดือดร้อน เพราะ "ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน" รวมถึงมีการพูดคุยและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตลอด

นอกจากนี้ การที่ตนเองให้การสนับสนุนอุปกรณ์ต่าง ๆ กับเจ้าหน้าที่ ก็เพราะว่ามีข้อความทักเข้ามาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อขอความอนุเคราะห์ เช่น คอมพิวเตอร์พกพาหรือโน้ตบุ๊คนั้น ถูกขอเพื่อนำไปใช้ในการคำนวณเพื่อ "กดกระสุนใหญ่" เนื่องจากของเดิมมีสภาพเก่า เป็นความจำเป็นเร่งด่วนของทหารชั้นผู้น้อย เพราะคอมพิวเตอร์ตัวเดิมอาจเปิดไม่ได้ ทางมูลนิธิฯ จึงเร่งดำเนินการให้

"ผมมั่นใจว่าทางกองทัพมีเงินอยู่แล้ว แต่ในเรื่องความรวดเร็วนั้นไม่แน่ใจว่าขนาดไหน" กันจอมพลัง กล่าว


19 ก.ย. 68 เพจเฟซบุ๊กกันจอมพลัง ช่วยสู้ โพสต์ภาพว่าได้สร้างบังเกอร์ป้องกันผู้รุกรานให้ทหารตำรวจตรงบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ใกล้เสร็จแล้ว

สำหรับการสร้างถนนและเส้นทางลำเลียงเข้าไปในพื้นที่ กันจอมพลังบอกว่าเข้าใจดีว่ากองทัพมีศักยภาพทำ แต่คงต้องใช้เวลาเพื่อรอขั้นตอนต่าง ๆ ขณะที่ตัวมูลนิธิฯ เองสามารถทำได้ในอีกสองวันถัดมา

"ถนน ถ้าไม่รีบทำ คนติดอยู่ข้างในเข้าไปช่วยก็ลำบาก หรือเวลาจะหนีออกมา หรือมีคนเจ็บ ก็ออกมาลำบาก" เขาชี้แจง

เขายังขอร้องกับทาง กมธ.การทหารฯ ว่าอย่าให้การให้ข้อมูลของตนเองกระทบกับทหารชั้นผู้น้อย และถ้ามีโอกาสขอเชิญคณะกรรมาธิการไปดูพื้นที่หน้างานจริง บางฐานตั้งมา 10 ปี ขาดแคลนห้องน้ำ บางที่มีทหารอยู่ถึง 50-60 นาย แต่มีห้องน้ำใช้เพียงห้องเดียวเท่านั้น ซึ่งทางมูลนิธิฯ ได้เข้าไปช่วยสร้างห้องน้ำและปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของทหารชั้นผู้น้อยด้วย


อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามถึงจำนวนเอกสารขอความอนุเคราะห์ทั้งหมดที่ได้รับ กันจอมพลังบอกว่ายังไม่สามารถนับจำนวนให้ได้ในทันที เนื่องจากทราบว่าต้องเข้ามาชี้แจงกับ กมธ.การทหาร ไม่ถึงวัน แต่ยินดีส่งเอกสารเพิ่มเติมให้กับ กมธ.

โฆษก ทบ. แจง กองทัพบกไม่มีนโยบายขอรับบริจาค แต่อาจมีบ้างที่หน่วยย่อยขอความอนุเคราะห์ไป

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. ชี้แจงว่า ตามจริงแล้วสิ่งของที่ได้รับการสนับสนุนเมื่อมีวิกฤต มีทั้งหมด 2 ลักษณะด้วยกัน คือ การช่วยเหลือกำลังพล และการช่วยเหลือชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ปฏิบัติงานบริเวณแนวหน้า

เขาบอกว่า ทั้งสองส่วนนี้มีนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่จะไม่รับเป็นเงิน เพราะบริหารจัดการยุ่งยาก รวมถึงอาจมีปัญหาในแง่กฎหมาย ดังนั้นจึงมีวิธีการที่ระบุว่าขอเป็นสิ่งของแทน หากต้องการแสดงน้ำใจ แต่ถ้าหากยืนยันจะให้เป็นเงินเพื่อส่งต่อให้กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต หรือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ ทางกองทัพจะเป็นสะพานเชื่อมให้

"ในส่วนของกองทัพบก ยอมรับว่ามีผู้ประสานเข้ามาเยอะ แต่ก็ยืนยันว่าอยากให้เป็นสิ่งของมากกว่า และไม่อยากเสียมารยาทว่าจะไปเจาะจงเป็นอะไร ทั้งหมดนี้ก็เพื่อจุนเจือความเป็นอยู่ และมีการแสดงเจตจำนงมาในลักษณะที่รับของ" โฆษก ทบ. กล่าว

ก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนพบโพสต์บนเฟซบุ๊กของร้านเหล็กและร้านโลหะภัณฑ์ที่รับตัดเหล็กและเย็บเป็นเสื้อเกราะ จึงสอบถามว่าทำได้หรือไม่ เขาจึงชี้แจงว่าเรื่องนี้ต้องมีมาตรฐาน เพราะผู้บังคับบัญชาต้องรักษาชีวิตลูกน้อง ดังนั้นไม่น่าจะอนุญาตให้ใช้เสื้อเกราะที่ตัดเย็บเอง

พล.ต.วินธัย กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ขอยืนยันว่าหากไปดูคำชี้แจงของเขาทั้งหมด ตนเองไม่เคยห้าม เพราะมองว่าหากเกิดวิกฤต "สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่สิ่งของ แต่มันแสดงให้เห็นว่าเราไม่เคยถูกทอดทิ้ง มันเลยทำให้การบริหารมันไม่เหมือนช่วงปกติ" โฆษก ทบ. กล่าว และยืนยันด้วยว่ากองทัพบกไม่ได้ขาดแคลนยุทโธปกรณ์ และได้รับความเกื้อกูลด้านงบประมาณจากฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติมาโดยตลอด


วันที่ 6 ส.ค. 68 กันจอมพลังโพสต์ภาพว่าเริ่มทดสอบเกราะระดับ 4 ที่ทางมูลนิธิฯ และแฟนคลับช่วยกันจัดให้กับทหารและตรวจด้วยใจ โดยชุดเกราะที่เขาถือนี้เป็นล็อตที่เตรียมส่งให้ ตชด.

กรณีของเสื้อเกราะนั้น ทางกองทัพบกมีการจัดหายุทโธปกรณ์ตามมาตรฐานสากลที่ใช้ เช่น มาตรฐาน NIJ (กองทัพสหรัฐฯ) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นระดับเลเวล 3+ ซึ่งสามารถป้องกันปืนเล็กยาวได้ โดยปัจจุบัน กองทัพบกมีชุดเกราะอยู่ประมาณ 70,000 ชุด และหมุนเวียนใช้อยู่ในสนามรบ แต่บางครั้งอาจไม่เห็นกำลังพลใส่ชุดเกราะ เนื่องจากภาระงานและตำแหน่งที่ตั้ง แต่ยืนยันว่าแนวหน้าทุกคนมีชุดเกราะใช้งาน

พล.ต.วินธัย กล่าวว่า เพิ่งทราบจากการประชุม กมธ. ในครั้งนี้ว่ากันจอมพลังจัดหาเกราะระดับ 4 ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่กองทัพบกทั่วไปใช้ และยังไม่ทราบถึงระบบการทดสอบ (testing) ของเกราะชุดนี้ จึงเห็นว่าการที่พลเรือนเข้ามาบริจาคชุดเกราะ เป็นเรื่องที่กองทัพไม่เคยคาดคิดมาก่อน เพราะเป็นเรื่องทางเทคนิคและมีราคาสูง หากมีการรับมอบเกราะที่มีสเปกดีกว่าที่กองทัพใช้จริง ทหารที่ได้รับก็จะเหมือนมีเสื้อเกราะ 2 ตัว

เมื่อทาง กมธ.การทหารฯ ซักถามว่า ยืนยันหรือไม่ว่ากองทัพขอรับการอนุเคราะห์ยุทธภัณฑ์จากมูลนิธิฯ ทาง โฆษก ทบ. บอกว่า ในส่วนของกองทัพบกไม่มีการขอความอนุเคราะห์ แต่พบว่าในระดับหน่วยงานย่อยอาจมีการร้องขอ เช่น ขอรับการสนับสนุนยางรถยนต์ ยาฆ่าแมลง ยาเส้น หรือผ้าใบกันฝน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ชัดเจนว่าไม่ได้อยู่ในบัญชีสิ่งอุปกรณ์ทางทหาร 1-5

ทาง กมธ.การทหารฯ ถามต่อว่า ทางกองทัพบกทราบหรือไม่ว่าระเบียบกลาโหมว่าด้วยการเงิน รวมถึงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเรี่ยไรและบริจาค หน่วยงานที่จะรับของบริจาคได้จะต้องเป็นหน่วยงานราชการ

พล.ต.วินธัย กล่าวว่า เรื่องนี้เขาไม่มั่นใจ แต่จะขอไปสอบถาม และจะไปหารายละเอียดที่ตรงกับที่ถามมา แต่มีความเห็นว่าลักษณะของการรับมอบของเช่นนี้ สามารถมองได้หลายมุม เช่น เรื่องห้องน้ำ หากมีคนปรารถนาดี อยากให้ทหารได้เข้าห้องน้ำที่ดีกว่านั้น และไม่ได้อยู่ในระบบของ ทบ. ตามปกติ เขาก็มองว่าเป็นเรื่องสร้างสรรค์ แต่ขอไปตรวจสอบก่อนว่ามีหน่วยงานอื่น ๆ ในสังกัดทำใบขอความอนุเคราะห์ไปยังมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้หรือไม่ เพราะเท่าที่เขาทราบคือ "ไม่มี"

พร้อมกันนี้ โฆษก ทบ. บอกว่าไม่มีนโยบายขอรับบริจาค แต่มีนโยบายชัดเจนว่าต้องอยู่รอดด้วยตัวเอง แต่ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า มีประชาชนต้องการแสดงน้ำใจเข้ามาเป็นจำนวนมาก

พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า กรณีที่พลเรือนเข้าไปทำกิจกรรมในพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึกนั้น กองทัพไม่ได้ออกข้อกำหนดห้ามเข้า เพราะถือเป็นเสรีภาพของประชาชน และมีการใช้คำว่า "อำนวยความสะดวก"

อย่างไรก็ตาม บางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ทางยุทธวิธีจริง ๆ เช่น พื้นที่หนึ่งใน จ.สุรินทร์ พลเรือนจะถูกจำกัดการเข้าถึงโดยใช้คำว่า "ขอความร่วมมือ"


วันที่ 12 ส.ค. กันจอมพลังโพสต์ภาพว่ามีหลายหน่วยงานประสานมาที่มูลนิธิฯ เพราะต้องการกล้องใช้สู้ในเวลากลางคืน พวกเขาจึงจัดให้ตามคำขอ โดยบอกว่า "ได้ร่วมทดสอบกับผู้บังคับบัญชาหลายหน่วย ยืนยันว่าใช้ได้จริงและใช้ดีมาก ไม่เปิดเผยตัวผู้ใช้ ไม่สะท้อน ไม่สามารถใช้กล้องอินฟาเรดตรวจจับได้"

ส่วนการที่กันจอมพลังใช้สื่อสร้างภาพลักษณ์ของการเป็นฮีโร่ เขาคิดว่าเป็นเรื่องที่แล้วแต่คนจะมอง

ทั้งนี้ พล.ต.วินธัย รับปากว่าจะไปรวบรวมรายละเอียดและบัญชีรายการสิ่งของบริจาคทั้งหมดที่หน่วยงานย่อยได้รับมา เพื่อตอบคำถามของ กมธ.การทหารฯ อย่างละเอียดอีกครั้ง หากทาง กมธ. ทำหนังสือมาอย่างเป็นทางการ

พร้อมกันนี้ เขายังแสดงความกังวลว่าบรรยากาศวงประชุมครั้งนี้ไม่เป็นมิตรกับทหาร โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้คำว่า "มั่วซั่ว" ซึ่งอาจกระทบต่อขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงาน และยืนยันว่าการทำงานของทหารนั้น ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน

ที่ปรึกษา กมธ.การทหารฯ ระบุ การบริจาคเสื้อเกราะของกันจอมพลังไม่น่าผิด กม. ควบคุมยุทธภัณฑ์ แต่โกงไหม "ไม่รู้"

นายอนาลโย กอสกุล ที่ปรึกษา กมธ. การทหารฯ ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กของเขาว่า การบริจาคเสื้อเกราะของกันจอมพลัง ที่ให้หน่วยงานไปติดต่อซื้อกับบริษัทแล้วทางมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้เป็นผู้จ่ายเงินนั้น ในทางทฤษฎีไม่ถือว่ากันจอมพลังเป็น "ผู้ครอบครอง" ถือว่า "เลี่ยง" ข้อกำหนดในทางกฎหมายได้

"ดังนั้นผมว่าไม่น่าผิดกฎหมายควบคุมยุทธภัณฑ์ แต่โกงไม่โกง ซื้อแพงไม่แพง ไม่รู้" เขาระบุ

ทว่า นายอนาลโยก็เห็นว่าการที่กันจอมพลังกับหน่วยงานระบุเฉพาะเจาะจงว่าต้องการซื้อเกราะจากบริษัทไหนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกัน

เขาอธิบายว่าเกราะเป็นสินค้าที่มีผู้ผลิตน้อยราย แต่โชคดีว่าในประเทศมีบริษัทแห่งหนึ่งที่ผลิตเกราะได้ และมีความสามารถส่งออกขายทั้งในและต่างประเทศ โดยไม่มีปัญหาอะไร

"ถ้าสมมุติว่าหน่วยอยากได้เกราะด่วน หน่วยทำหนังสือไปหากันจอมพลัง แล้ววิ่งไปบริษัทขอซื้อ ให้กันโอนเงินเข้าบริษัทตรง ผมว่า process (กระบวนการ) นี้ มันก็ไม่แปลก นี่พูดตรง ๆ ไม่ได้โลกสวย"

"ทำไมเฉพาะเจาะจง อย่างที่บอกผู้ผลิตเกราะในประเทศไทยมันมีแค่นี้แหละ แล้วบริษัทนี้ก็น่าเชื่อถือที่สุดด้วย จะเจาะจงบริษัทนี้ก็ไม่แปลก" นายอนาลโย ระบุ

ที่ปรึกษา กมธ.การทหารฯ เห็นว่าสิ่งที่อยากให้สังคมสนใจมากกว่าคือ เหตุใดแต่ก่อนกองทัพบอกว่าไม่เคยขอรับบริจาค "แต่ตอนนี้มีหนังสือตราครุฑมาขอรับบริจาคเสียอย่างงั้น" ต่างจากกรณีของตำรวจที่ "มีดราม่าน้อยหน่อย" เพราะไม่เคยประกาศว่าไม่ขอรับบริจาค

อย่างไรก็ดี นายชยพล สท้อนดี สส.กรุงเทพมหานคร เขต 8 พรรคประชาชน ในฐานะรองประธาน กมธ.การทหารฯ ให้ความเห็นกับบีบีซีไทยว่า กรณีนี้ยิ่งทำให้เกิดคำถามว่าหน่วยงานต่าง ๆ สามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเช่นนี้ก็ได้หรือ ซึ่งเขามองว่าเป็นการจัดซื้อโดยไม่ผ่านระบบการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ

"แต่ละหน่วยสามารถหา supporter หรือผู้บริจาคของตัวเอง เสร็จแล้วก็จิ้มเลือกให้เขาไปซื้อของให้ตัวเองก็ได้เหรอ แล้วมันจะไม่ซ้ำซ้อนกับยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ที่เราอนุมัติงบประมาณซื้อไปก่อนหน้านี้เหรอครับ เราจะได้รู้ได้อย่างไรว่าไม่มีการอมเงินระหว่างทาง เพราะมันไม่ได้ผ่านระบบอะไรของส่วนกลางเลย" เขากล่าว

เหตุใดยิ่งฟังคำชี้แจง กองทัพยิ่งงานเข้า ?

นายชยพลมองว่าหากฟังคำชี้แจงวานนี้ในที่ประชุม กมธ.การทหารฯ เขาเห็นว่าทั้งกันจอมพลังและ พล.ต.วินธัย ไม่ได้ตอบคำถามหลัก ๆ ของ กมธ. มากนัก หรือเรียกได้ว่า "แทบจะไม่ได้คำตอบ" โดยเฉพาะกรณีการบริจาคยุทธภัณฑ์หรือยุทโธปกรณ์ แต่เนื่องจากเป็นชุด กมธ.การทหารฯ การตรวจสอบจึงโฟกัสไปที่กองทัพมากกว่า โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณล่าสุด 2 แสนล้านบาท

เขาบอกว่าเมื่อพิจารณาคำชี้แจงของโฆษก ทบ. ที่บอกว่าหน่วยย่อยขอรับบริจาคมา คือพวกยางรถยนต์ ยาเส้น ยากันยุง นั้น เป็นการเบี่ยงเบนประเด็น เพราะจริง ๆ แล้วสิ่งที่ทาง กมธ. พยายามจี้ถามไม่ใช่ของเล็กน้อยเหล่านั้น แต่เป็นพวกชุดเกราะ บังเกอร์ รวมถึงยุทธภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับคุณภาพและความปลอดภัยของชีวิตกำลังพล

"แม้แต่การที่มีประชาชนเอาโดรนไปบริจาคให้ มันก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์การรบ ถ้าหากไม่มีมาตรฐานขึ้นมา มันก็เป็นอันตรายต่อกำลังพล"

"แม้แต่รถกระบะหรือเสื้อเกราะที่มีการสกรีนชื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ตัวรถกระบะที่บริจาคมา ผมเช็คเจอว่าทะเบียนรถยังเป็นของเต็นท์รถอยู่เลย ตรงนี้มันเสี่ยงว่าหน่วยงานอาจถูกฟ้องในการเอาทรัพย์สินคืนได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดอ่อนที่กองทัพไม่ได้ปิด" เขากล่าว

ส่วนอาหารต่าง ๆ นายชยพลเห็นว่า กองทัพควรจัดหาให้กำลังพลอย่างเพียงพอโดยไม่เปิดขอรับบริจาค กำลังพลไม่ควรต้องคอยพึ่งพาข้าวจากวัด หรือรอให้ประชาชนมาบริจาค เนื่องจากกำลังพลถูกหักค่าประกอบเลี้ยงไปแล้ว และกองทัพก็มีงบประมาณในการจัดหาอาหาร

ล่าสุด สื่อต่าง ๆ ของไทยรายงานว่า พล.ต.วินธัย ออกมายอมรับวันนี้ (31 ต.ค.) ว่าจากการตรวจสอบพบว่า กันจอมพลังสนับสนุนแผ่นเกราะแข็งระดับ 4 จำนวน 250 แผ่นให้กับตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และทหารพราน ดังข่าวที่ปรากฏออกมาก่อนหน้านี้จริง

นายชยพล บอกว่า นี่ยิ่งทำให้เห็นความย้อนแย้งในคำชี้แจงของกองทัพหลายต่อหลายครั้ง

"ถ้าเกิดเขาพูดเช่นนี้ ก็ต้องตอบคำถามแล้วครับว่านายพลห้องแอร์ทั้งหลายรู้จริงหรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นที่ชายแดน นี่แสดงว่ามันเกิดปัญหาเรื่องการบังคับบัญชา เรื่องการรายงานตามสายบังคับงานต่าง ๆ นี่แสดงว่าพวกคุณไม่รู้เลยใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่ชายแดน สภาพการรบจริง ๆ เป็นอย่างไร คุณกำลังยอมรับใช่ไหมว่าคุณบริหารราชการงบประมาณ 2 แสนล้านบาทได้ไม่มีประสิทธิภาพ"


วันที่ 31 ต.ค. กันจอมพลังบอกว่ามอบเสื้อเกราะให้ TMAC และลงความเห็นในช่องคอมเมนท์ว่าหยุดรับการบริจาคแล้ว เพราะ "เหนื่อย"

ขณะเดียวกัน กันจอมพลังโพสต์คลิปวิดีโอระบุว่าตนเองได้บริจาคชุดเกราะป้องกันระเบิดที่ทันสมัยและมีน้ำหนักเบากว่าเดิมจำนวน 15 ตัว ให้กับหน่วยทหารหน่วย TMAC หรือ ศูนย์ปฏฺิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ กองบัญชาการกองทัพไทย

เขาบอกว่าเจอทหารชุดนี้เมื่อสัปดาห์ก่อน และเห็นว่าสวมใส่ชุดอุปกรณ์ที่ค่อนข้างเก่า ทางมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้จึงร่วมกับกรมกิจการพลเรือน กองทัพไทย "ช่วยกันจัดซื้อ งบประมาณ 4 แสนกว่า ๆ อายุการใช้งานยาวนาน 10 ปี"

เขาบอกว่าหากจัดซื้อตามระบบ ต้องใช้เวลาราว 6 เดือน ถึง 1 ปี ขณะที่ "พวกเราใช้เวลาเพียงแค่ 1 อาทิตย์เท่านั้น นี่คือความพิเศษของพวกเรา"

กันจอมพลังยืนยันว่าเป็นของดี ไม่แพง ไม่ติดระบบ ตรงตามความต้องการ และได้ใช้งานจริง

ด้านนายชยพลเน้นย้ำว่า กองทัพต้องเคลียร์ตัวเองให้ได้ว่าเหตุใดจึงปล่อยให้หน่วยย่อยไปขอความอนุเคราะห์ได้ตามอัธยาศัยโดยที่หน่วยกลางไม่รับรู้ และเมื่อกองทัพยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่ขาดแคลน แต่เหตุใดหน่วยย่อยต่าง ๆ จึงเปิดรับบริจาค

"สรุปแล้วเกิดการขาดแคลนจริงหรือไม่ แบบนี้แปลว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง" เขากล่าว

ขณะเดียวกัน นายเอกราช ประธาน กมธ.การทหารฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่รัฐสภาวันนี้ว่า ทาง กมธ. ไม่เชิญกันจอมพลังมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว แต่จะขอความร่วมมือให้ส่งเอกสารที่หน่วยงานต่าง ๆ ขอความอนุเคราะห์ไปยังมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ทั้งหมดแทน

กมธ. ยังขอเอกสารกับ พล.ท.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถให้คำตอบกับคำถามของ กมธ.ได้ และตอบรับว่าจะรวบรวมเอกสารส่งมาให้ กมธ. ซึ่งแสดงว่าทหารแนวหน้าขาดแคลนในสิ่งที่กองทัพปฏิเสธข้อเท็จจริงในเรื่องนี้มาตลอด รวมถึงรอเอกสารการชี้แจงต่าง ๆ จากทางกองทัพด้วย

ทั้งนี้ หากกองทัพส่งเอกสารมาไม่ครบถ้วน ทาง กมธ. จะรวบรวมข้อมูลเอง เพื่อปรับปรุงในเชิงนโยบาย และเพื่อเสนอแนะการปฏิรูปกระบวนการจัดงบประมาณของกองทัพ

https://www.bbc.com/thai/articles/c9d6xwqj9d5o


การกล่าวถ้อยคำว่า “คนขายหมู” ไม่ถือเป็นการด้อยค่าผู้อื่นอันเป็นการดูหมิ่น หรือเป็นการใส่ความทำให้ สว.ที่มีอาชีพขายหมูเสียชื่อเสียง เพราะการขายหมูเป็นอาชีพสุจริต ในทางตรงกันข้ามการลงมติของ ส.ว 130 คน เป็นการแก้แค้น อันเป็นการละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรมฯร้ายแรง ที่อาจถูกถอดถอนได้เช่นกัน


Matichon Weekly - มติชนสุดสัปดาห์
10 hours ago
·
การกล่าวถ้อยคำว่า “คนขายหมู” ไม่ถือเป็นการด้อยค่าผู้อื่นอันเป็นการดูหมิ่น หรือเป็นการใส่ความทำให้ สว.ที่มีอาชีพขายหมูเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง เพราะการขายหมูเป็นอาชีพสุจริต

ในทางตรงกันข้ามการลงมติของ ส.ว.ทั้ง 130 คนต่างหาก ที่มีลักษณะเป็นการแก้แค้นหรือเอาคืนด้วยเรื่องส่วนตัว มิได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เป็นกลาง และปราศจากอคติ อันเป็นการละเมิดมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 1 และข้อ 13 ซึ่งถือเป็นความร้ายแรงที่อาจถูกถอดถอนได้เช่นกัน...

นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์
นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5434872

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1213424734153057&set=a.627369316091938



ถอดบทเรียน #แร่หายาก จาก #มาเลเซีย รบ.ไทยไปเซ็น MOU #แร่หายาก ได้อย่างไร โดยไม่ปรึกษาหารือกับประชาชนก่อน?


ถอดบทเรียน "แร่หายาก" จากมาเลเซีย | ทันโลก กับ Thai PBS | 30 ต.ค. 68

Oct 30, 2025 

การลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างสหรัฐฯ กับไทย ในการยกระดับอุตสาหกรรมแร่หายากในไทย กำลังเป็นประเด็นถกเถียงในสื่อสังคมออนไลน์ #ทันโลกกับThaiPBS พาไปสำรวจและถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ในอดีตของมาเลเซีย ที่ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมแร่หายากมาแล้ว กว่า 40 ปี

https://www.youtube.com/watch?v=3tan6DCvCiA

Pipob Udomittipong
17 hours ago
·
รายงานของ Thai PBS ถอดบทเรียน #แร่หายาก จาก #มาเลเซีย เริ่มจากรัฐเประของ #มาเลเซีย เป็นหนึ่งในรัฐที่มีการสำรวจพบแร่หายากจำนวนมาก ตั้งแต่ปี 2528 แต่ต่อมาประชาชนคัดค้าน ลงชื่อเป็นหมื่นคนคัดค้านการให้สัมปทานกับบริษัท Asia Rare Earth บริษัทร่วมทุนจากญี่ปุ่น
หลังพบว่ามีสารปนเปื้อนกัมมันตรังสี เด็กเกิดมาพร้อมกับความบกพร่องทางร่างกาย จำนวนผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น เพราะมีการจัดเก็บที่ไม่ปลอดภัย และลักลอบนำไปทิ้ง ทำให้เกิดการปนเปื้อนอย่างรุนแรง ทั้งศาลและรัฐบาลไม่รับฟังเสียงคัดค้านของขาวบ้าน อ้างว่าการปิดโรงงานจะกระทบต่อคนงาน 183 คน
ผลกระทบต่อสุขภาพที่ยังเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการรณรงค์ระดับสากล และการเปิดโปงข้อมูลโดยสื่อญี่ปุ่น สุดท้ายบริษัทมิตซูบิชิตัดสินใจยุติกิจการในปี 2535 และเริ่มกระบวนการฟื้นฟูด้านสิ่งแวดล้อมที่กินเวลานานกว่า 30 ปี
ต่อมารบ.มาเลเซียอนุญาตให้เปิดโรงงานแปรรูปแร่หายากที่ขุดจากออสเตรเลีย ภายในเวลาสิบปี Lynas บริษัทจากออสเตรเลียผลิดแร่หายากและกากของเสียกัมมันตรังสีกว่าหนึ่งล้านตัน ทำให้ถูกต่อต้านจากชาวบ้าน สุดท้าย รบ.มาเลเซียเพิ่มข้อกำหนดต่อ Lynas ต้องต่อใบอนุญาตเป็นระยะ และต้องขอความเห็นชอบจาก IAEA
รบ.ไทยไปเซ็น MOU #แร่หายาก ได้อย่างไร โดยไม่ปรึกษาหารือกับประชาชนก่อน?
https://youtu.be/3tan6DCvCiA

https://www.facebook.com/pipob.udomittipong/posts/10163278053976649



“แฉไอ้โม่งเทา เขย่ารัฐบาล” The Deal Room - เบื้องหน้าอาจดูสงบ แต่เบื้องหลังเต็มไปด้วยเกมผลประโยชน์ ฟังทุกดีล ทุกแรงสั่นสะเทือน ที่คุณไม่เคยรู้


“แฉไอ้โม่งเทา เขย่ารัฐบาล” The Deal Room l 31 ต.ค. 68

PPTV HD 36

Oct 31, 2025 

เมื่อผลประโยชน์สีเทาเริ่มสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐ ใครอยู่เบื้องหลัง? เบื้องหน้าอาจดูสงบ แต่เบื้องหลังเต็มไปด้วยเกมผลประโยชน์ ฟังทุกดีล ทุกแรงสั่นสะเทือน ที่คุณไม่เคยรู้

https://www.youtube.com/watch?v=gjOa7bZSsfo



หนู... ดูเค้าทำสิครับ !📌 . ที่สิงคโปร์ ส่วนที่ไทยนั้น . (จงเติมคำในข่องว่าง)


https://www.channelnewsasia.com/singapore/prince-holding-group-chen-zhi-money-laundering-probe-singapore-police-5437136

Joey Kanis 
14 hours ago
·
หนู... ดูเค้าทำสิครับ !
.
ที่สิงคโปร์:
.
ตำรวจ ยึดและออกคำสั่งห้ามการจำหน่ายทรัพย์สิน 6 รายการและสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ มูลค่ารวมกว่า 150 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (115 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
.
เพราะพบเส้นเงิน จากกลุ่มธุรกิจ Prince Holding Group ของ Chen zhi (เฉิน จื้อ)
ฟอกเงินในสิงคโปร์
.
#ThaiPBS
#TheExit
#สแกมเมอร์
#กัมพูขา
#Chenzhi
#PHG
.
ปล. ส่วนที่ไทยนั้น. ... (จงเติมคำในข่องว่าง)
.....

.....


Joey Kanis
October 29
·
สิงคโปร์ เค้า เปิดหน้า.. จัดการ แก๊ง
สแกมฯ กันแบบนี้ครับ
.
27 Singaporeans, 7 Malaysians wanted for being part of scam syndicate operating in Cambodia
. https://www.channelnewsasia.com/.../cambodia-scam-27...
.
ส่วนไทย นั้นเหรอ .. กระจายตัว ทั้งในตลาดทุน .. แวดวง การเมือง ฯลฯ
#ThaiPBS



ฮือฮาสุดๆ เมื่อ “เจ้าฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ” ไลฟ์สดTikTok เป็นครั้งแรกในช่องช่างแต่งหน้าส่วนพระองค์ ชาวเน็ตเปย์สติ๊กเกอร์ส่งของขวัญกันฉ่ำมากกกก



daradaily.com
Yesterday
·
ฮือฮาสุดๆ เมื่อ “เจ้าฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ” ไลฟ์สดTikTok เป็นครั้งแรกในช่องช่างแต่งหน้าส่วนพระองค์ ชาวเน็ตเปย์สติ๊กเกอร์ส่งของขวัญกันฉ่ำมากกกก

Cr. Fookiebeautyofficial



https://www.facebook.com/welovedaradaily/posts/1368023328700770
https://www.facebook.com/reel/840837658408141



พระเจ้าชาร์ลถอดยศเจ้าชายแอนดรู เหลือเพียง แอนดรู เม้าท์แบตเตน วินเซอร์ ให้ย้ายออกจากพระราชวัง ไปพักยังที่ส่วนตัว "การลงโทษนี้ถือว่าจำเป็น แม้ตัวแอนดรูจะปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ"


Andrew stripped of 'prince' title and will move out of Royal Lodge | BBC News

Oct 30, 2025 

Andrew will lose his title and move out of Royal Lodge, a statement from Buckingham Palace has said.
 
Buckingham Palace says the King "has today initiated a formal process", and his brother will now be known as Andrew Mountbatten Windsor. 

As well as the title, the Palace says "formal notice has now been served to surrender the lease" on Royal Lodge, and Andrew will move to the royal estate in Sandringham, Norfolk 

"These censures are deemed necessary, notwithstanding the fact that he continues to deny the allegations against him," the Palace said. 

Andrew gave up his other royal titles earlier this month after more questions about his private life. In a posthumous memoir, Virginia Giuffre repeated allegations that, as a teenager, she had sex with Prince Andrew on three separate occasions. Andrew has always denied the claims. 

Also this month, emails from 2011 re-emerged, showing Andrew in contact with sex offender Jeffrey Epstein months after he claimed their friendship ended.
 
https://www.youtube.com/watch?v=VB2eRwOp_Ck
.....



Somsak Jeamteerasakul 
17 hours ago
·
พระเจ้าชาร์ลถอดยศเจ้าชายแอนดรู เหลือเพียง แอนดรู เม้าท์แบตเตน วินเซอร์ ให้ย้ายออกจากพระราชวัง ไปพักยังที่ส่วนตัว "การลงโทษนี้ถือว่าจำเป็น แม้ตัวแอนดรูจะปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ"
หุหุ เอามาให้ดูว่าเขา"ลงโทษ"กันอย่างไร
แต่เมืองไทย ทำไม่ได้ครับ...

https://www.facebook.com/photo?fbid=24797123106580968&set=a.137616112958343
...

แง่คิดที่ได้จากเหตุการณ์นี้
1. ความรับผิดชอบของบุคคลต่อบทบาทสาธารณะ
เมื่อคนหนึ่งอยู่ในตำแหน่งสูง หรืออยู่ในสถาบันที่มีบทบาททางสังคม “ฐานันดร” หรือ “ตำแหน่ง” ไม่ได้หมายความว่าอยู่เหนือกฎหมายหรือเหนือจริยธรรม ถ้ามีพฤติกรรมที่สังคมไม่ยอมรับ ก็เกิดแรงกดดันและผลลัพธ์ตามมาได้
2. ความเลือกตั้งของสถาบันสาธารณะในยุคโปร่งใส
สถาบันกษัตริย์ในยุคนี้ไม่ได้อยู่เฉยๆ โดยไม่มีเสียงของประชาชน – การที่ราชวงศ์อังกฤษเลือก “ถอด” สมาชิกออก ก็เป็นสัญญาณว่าสถาบันต้องปรับตัวให้ทันยุคที่ประชาชนและสื่อมีอำนาจสะท้อนมากขึ้น
(ความเห็นหนึ่ง)



จดหมายของคุณ คือหน้าต่างบานสำคัญของเพื่อนในเรือนจำ Amnesty International Thailand ชวนเขียนจดหมายถึงเพื่อนในเรือนจำ


Amnesty International Thailand 
Yesterday
·
จดหมายจากทัณฑสถานหญิงกลาง จังหวัดกรุงเทพมหานคร บอกเล่าเรื่องราวในเรือนจำในช่วงฤดูฝน
เธอบอกว่าอากาศชื้นในเดือนกันยายน เสื้อผ้าเหม็นอับ จนต้องซื้อชุดชั้นในใหม่
.
"การอยู่ในนี้ต้องรักษาความสะอาดมาก ๆ ไม่งั้นจะเป็นโรคผิวหนังหรือกลิ่นตัวแรง และคนในนี้ก็เป็นกันเยอะพอสมควร อายจึงต้องรักษาความสะอาดมาก ๆ เพราะการอาบน้ำก็ไม่เหมือนปกติเหมือนเวลาเราอยู่บ้าน"
.
จดหมายฉบับนี้เป็นของ "อาย-กันต์ฤทัย" ผู้ถูกคุมขังในคดี ม.112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊ก 8 ข้อความ
.
"(การอาบน้ำในเรือนจำ) เป็นการอาบน้ำที่เร่งรีบและจำกัดปริมาณน้ำ ด้วยเหตุผลผู้ต้องขังเยอะและต้องแข่งกับเวลตั้งแต่อยู่มา อายไม่เคยได้ทานข้าวเช้าและข้าวเย็นด้วยเหตุผลเพราะ “ช้า” อายจะต้องเตรียมชุดเปลี่ยนเวลาอาบเสร็จ ซักชุดชั้นในและก็จัดการราวตากผ้าเฉพาะห้อง คือการขยายกางผ้า ผ้าเช็ดหัว สุ่ม ไม่งั้นจะแห้งยากกว่าเดิม"
.
แม้จะต้องเผชิญกับความลำบากในเรือนจำ แต่อายยังคงยืนยันว่า จดหมายคือสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึก 'ดีใจ' ในชั่วโมงที่มืดมิด
.
"ดีใจมาก ๆ ค่ะที่ได้รับจดหมายอ่านไปก็ร้องไห้ไปคิดถึงไป คิดถึงอิสรภาพของตัวเอง"
.
เช่นเดียวกัน ที่เรือนจำกลางคลองเปรม "วุฒิ" คืออีกหนึ่งผู้ที่ถูกคุมขังในคดี ม.112 จากกรณีโพสต์เฟซบุ๊กจำนวน 12 ข้อความ -- เขาอายุ 50 ปี และถูกพิพากษาจำคุก 12 ปี 72 เดือน หรือราว 18 ปี
.
"สวัสดีเจ้าหน้าที่แอมเนสตี้ ประเทศไทยทุก ๆ คนครับ ผมพึ่งได้รับจดหมายของคุณเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม เองครับ เพราะผมเพิ่งกลับเข้ามาแดน ก่อนหน้านั้นผมออกไปแอดมิทฉีดยาดวงตา ป้องกันต้อเนื้อกลับมาเป็นอีก เพราะเมื่อเดือนมีนาคมผมได้ออกไปผ่าต้อเนื้อตาข้างซ้ายมาครับ
.
"ผมต้องขอบคุณทางแอมเนสตี้ประเทศไทยมาก ๆ เลยครับ ที่คอยช่วยเหลือและพยายามผลักดันให้กฎหมายนิรโทษกรรมผ่านแต่สุดท้ายก็ถูกตีตก ผมรู้ว่าทางแอมเนสตี้, ศูนย์ทนายฯ, iLaw, Freedom Bridge, Thumb Rights ฯลฯ ที่ผมกล่าวมา หรือมากกว่านี้ ที่พยายามช่วยเหลือพวกเรานักโทษทางการเมืองทั่วประเทศและเพื่อน ๆ ที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศให้ได้รับอิสรภาพโดยไวแต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความว่างเปล่า
.
"ผมต้องขอบคุณทางแอมเนสตี้อีกครั้ง ที่ส่งโปสการ์ด ส่งกำลังใจของเพื่อน ๆ ที่อยู่ข้างนอกมาให้อ่าน
ผมอ่านทุกข้อความที่ส่งมา ผมอ่านทีไรน้ำใส ๆ ก็รื้นดวงตาทุกครั้ง ผมต้องยอมเพื่อน ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุก ๆ คนที่ยังห่วงใย และคอยส่งกำลังใจให้กับพวกเรานักโทษทางการเมืองเสมอมา
.
"ท้ายที่สุดผมขอให้ทุกท่านและครอบครัวมีแต่ความสุขความเจริญครับ"
.
อย่างน้อย 56 คนยังถูกคุมขังจากการแสดงออกทางการเมือง
อย่างน้อย 30 คน ถูกคุมขังจากม.112
อย่างน้อย 5 คน ถูกคุมขังจากม.110
อย่างน้อย 32 คน ไม่ได้รับสิทธิประกันตัวระหว่างต่อสู้คดี
อย่างน้อย 22 คน คดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว
.
เพราะจดหมายของคุณ คือหน้าต่างบานสำคัญของเพื่อนในเรือนจำ
เขียนจดหมายถึงเพื่อนในเรือนจำ: freeratsadon.amnesty.or.th
#FreeRatsadon

https://www.facebook.com/AmnestyThailand/posts/1256264479872631