อภิปรายวันแรกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ๓ ฉบับจาก ๓ พรรค มีสองพรรคยืนยันแน่ๆ ไม่แก้หมวด ๑ และหมวด ๒ พรรคเพื่อไทยอ้างต้องปฏิบัติตาม รธน.ปัจจุบัน มาตรา ๒๕๕ ส่วนพรรคภูมิใจไทยย้ำว่าต้องเคารพคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญเคร่งครัด
ตีความจากสองประเด็นย่อยๆ ดังกล่าว ดูย้อนแย้งอยู่หน่อยสำหรับพรรคเพื่อไทย ให้ปฏิบัติตาม รธน.ฉบับที่ต้องการแก้ไขอย่างเคร่งครัด (แล้วจะแก้ได้อย่างไร) ส่วนพรรคภูมิใจไทยอภิปรายว่า อีกสองร่างไม่มีข้อห้ามแก้หมวด ๑ และ ๒ ไว้ ย่อมสุ่มเสี่ยง
กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง อภิปรายตอนหนึ่งว่า “เมื่ออ่านร่างของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ทําให้เกิดคําถามว่า ซับซ้อนไปหรือไม่ ทําได้จริงหรือไม่ จะนําไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ของสังคมไทยหรือไม่ และเสี่ยงขัดต่อคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่”
เขาพูดทับถมร่างของอีกสองพรรคเพราะต้องการให้โหวตร่างฯ พรรคเขาเป็นหลักในการพิจารณา เนื่องจากกำหนดแน่วแน่ว่าจะไม่แตะหมวด ๑ และ ๒ แล้วยังพินอบพิเทากับ ตลก.รธน.ชัดแจ้ง ทั้งที่คำสั่งของศาลฯ สั้นๆ ประโยคเดียว ไม่มีเหตุผลกำกับ
เขาบอกว่า “อยากให้ทุกคนมองโลกในความเป็นจริง ซึ่งอาจจะขัดใจบ้าง” แต่เชื่อว่าถ้าเดินหน้าไปด้วยความเคารพในกติกาเก่า ที่ รธน.ปัจจุบันกำหนด และกติกาใหม่ที่ศาล รธน. เพิ่งสั่งไว้ ก็จะไปสู่ความสำเร็จได้ แม้จะมีเวลาน้อยเพียงแค่สี่เดือน
สำหรับ ชูศักดิ์ ศิรินิล ผู้อภิปรายของพรรคเพื่อไทย ดูจะไม่เต็มใจนักกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญกระบวนนี้ เขาบ่นว่า เอ็มโอยูของ ปชน.-ภท.นั้น “ลดอายุของสภาผู้แทนราษฎร จาก ๔ ปีให้เหลือ ๒ ปี” แล้วยัง “ผูกพันต้องมีรัฐธรรมนูญใหม่
โดยยังไม่รู้เลยว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่หน้าตาเป็นอย่างไร” แม้เขาบอกว่าไม่มีเจตนาแก้ไขหมวด ๑ กับ ๒ เนื่องเพราะ ม.๒๕๕ ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้เอง ห้ามไว้ แต่การเอา “อำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปให้องค์กรอื่นวินิจฉัย”
ดังตัวอย่างปี ๒๕๕๐ “ที่มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เป็นการล้มล้างการปกครอง” เขาว่ากระบวนการแก้ รธน.ครั้งนั้น “เป็นการลงทุนมหาศาล และความสำเร็จก็ยังไม่แน่ใจ 100%”
(https://www.matichon.co.th/politics/news_5410946, https://www.facebook.com/Prachatai/posts/31Yt1A5jWHq และ https://www.facebook.com/thestandardth/posts/avdWqbJw)