วันศุกร์, ตุลาคม 31, 2568

กกต.ประกาศจัดเลือกตั้งพร้อมประชามติแล้วนะ ปลายมีนา ๖๙ แต่ก็ยังไต่สวนคดีฮั้ว สว. ๑๓๖ คนไม่คืบ ทั้งที่ผ่านมา ๑ ปี ๔ เดือน โดนฟ้องศาลฎีกาให้รวบรัดใน ๗ วัน

กกต.ประกาศแล้ว จัดเลือกตั้งพร้อมประชามติ ปลายมีนา ๖๙ หลังจากที่นรัฐบาลยุบสภา ๓๑ มกรา ต้นปีนั้น ทว่าแผนงานของ กกต.ยังไม่สะเด็ดน้ำทั้งเรื่องเลือกตั้งและประชามติ ประเด็นหนึ่งก็คือ ในเมื่อพ่วงกันอย่างนี้ บัตรออกเสียงจะมีกี่ใบ

เท่าที่ กกต.เตรียมไว้ แต่เลขาฯ แสวง บุญมี ยังตอบไม่ได้แน่นอนว่ามี ๓ หรือ ๔ ใบกันแน่ บัตรสี่ใบได้แก่ บัตรเลือก สส.เขต บัตรเลือก สส.บัญชีรายชื่อ บัตรประชามติเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ๒ คำถาม และบัตรยกเลิกเอ็มโอยูกับเขมร

ถ้าจะมีบัตรออกเสียงเพียง ๓ ใบ นัยว่าจะรวมคำถามแก้รัฐธรรมนูญเข้ากับเรื่องยกเลิกเอ็มโอยู อันนี้มีเสียงท้วง โดยเฉพาะจาก อจ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี นักกฎหมายจุฬาฯ บอกว่า “ทำให้เสี่ยงต่อความผิดพลาด และอาจเกิดการชี้นำ”

คือ “การตอบคำถามหนึ่งอาจทำให้เกิดความโน้มเอียงไปสู่อีกคำถามหนึ่ง” ได้ แม้จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายพิมพ์บัตรอีก ๕๕ ล้านใบ แต่มีทางออกสำหรับคำถามเอ็มโอยู รัฐบาลสามารถตัดสินใจได้เอง ไม่จำเป็นต้องเอาไปถามประชาชนทั้งประเทศ

ยิ่งไปกว่านั้นมีผู้สันทัดกรณีในภาคประชาชนบางคนให้ความเห็นเกี่ยวกับเอ็มโอยู โดยเฉพาะเอ็มโอยู ๔๓ ว่าไม่จำเป็นต้องยกเลิกด้วยซ้ำ รัฐบาลสามารถแก้ไขเอง ผ่านกระบวนการรัฐสภา เพราะเอ็มโอยูเป็นเพียงข้อตกลง ไม่ใช่สนธิสัญญา

“เจ้ากรมแผนที่ทหารให้ข้อมูลว่า การยกเลิกจะทำให้การสำรวจหลักเขตแดนที่ทำมา ๒๐ ปี หายไปหมด” และ “การเจรจาใหม่จะต้องใช้เวลาหลายปี” อาจถูกตีความว่าพยายามบ่ายเบี่ยงพันธกรณี ดังนั้นมีบัตรกรอกแสดงความเห็นสี่ใบน่ะดีแล้ว

อีกเรื่องหนึ่งที่ กกต.ทำตัวเกร็งไปหน่อยเกี่ยวกับบัตรเลือก สส. ๒ ใบ แบ่งเขตกับบัญชีรายชื่อ ที่มีเสียงเรียกร้องให้ใช้เบอร์เดียวกัน แต่ กกต.อ้างกฎหมายเลือกตั้งเป็นอย่างนั้น คือให้พรรคส่งแบ่งเขตก่อน แล้วจึงส่งบัญชีรายชื่อ

ก็เลยต้องออกบัตรสองรอบ ทั้งที่การแก้ไขไม่ยาก โดยแก้รัฐธรรมนูญมาตรา ๙๐ “แม้ยังต้องใช้เสียง สว. ๑ ใน ๓ แต่ไม่ต้องทำประชามติ” ข้อสำคัญ กกต.ไม่ค่อยทำอะไรเท่าไร แล้วอ้างโน่นอ้างนี่ เพื่อที่จะเดินไปเรียบๆ ง่ายๆ ไม่รู้มีเลศนัยหรือเปล่า

ต่อกรณี สว.สำรอง ๑๐ คน ออกมาร้องอีกแล้ว ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ว่า กกต.ใช้เวลานานเกินไปในการพิจารณาคดีฮั้วเลือกตั้ง สว.๑๓๖ คน นี่ไต่สวนมา ๑ ปี ๔ เดือนแล้ว ถูกทวงถามตลอดมา แต่ไม่เคยชี้แจงอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

คราวนี้ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ กกต.สรุปสำนวนภายใน ๗ วัน และขอให้ สว.ที่ต้องคดีฮั้วทั้ง ๑๓๖ คน “หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำสั่ง” อย่างหนึ่งอย่างใด

(https://www.facebook.com/thestandardth/posts/0221Y9cFiev8, https://www.facebook.com/siripan.nogsuansawasdee/posts/31Dn4k7 และ https://www.bbc.com/thai/articles/c201znp39lpo)