
Neti Satjaviso
Yesterday
·
สิ่งที่ “กัน จอมพลัง” แสดงออกสะท้อนให้เห็นว่าเขายังอยู่ในกรอบความคิดแบบ “ปกป้องอัตตา” มากกว่า “ปกป้องหลักการ” เมื่อถูกวิจารณ์หรือท้าทาย ก็เลือกใช้วิธีโต้กลับด้วยอารมณ์ ความสะใจ หรือการประจาน มากกว่าการใช้เหตุผลและความรับผิดชอบต่อสังคม
ประเทศที่เจริญแล้ว ไม่ได้วัดกันที่ “ใครเสียงดังกว่า” ควร “ใคร่ครวญใช้สติ+ หลักฐานมากกว่า” การโต้วาทีสาธารณะในที่เหล่านั้น เขาจะเน้นข้อมูล เหตุผล ความถูกต้อง ไม่ใช่เอาอารมณ์มาชี้นำ
พฤติกรรมแบบนี้ถ้าเกิดในประเทศพัฒนาแล้ว(ซึ่งมักมีระบบการศึกษาที่เน้นการคิดวิเคราะห์วิจารณ์)คนจะมองว่า “ยังไม่ผ่านการอบรมทางจิตใจ” หรือที่พระท่านว่า “อารมณ์นำปัญญา”
ปรากฏการณ์ "ความนิยมในความสะใจ" ในสังคมไทย เพราะสังคมเรายังมีรากของความนิยมใน “ความสะใจ” มากกว่า “ความเข้าใจ” เลยทำให้คนแบบนี้มีพื้นที่ในสื่อ+กับปรากฏการมาแปลก ๆ อยู่เสมอ
โดยสรุป เป็นผลรวมของการขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ในการรับมือกับการวิจารณ์ ควบคู่ไปกับบริบททางสังคม และสื่อที่ให้คุณค่ากับ "อารมณ์ที่เร้าใจ" มากกว่า "เหตุผลที่ยั่งยืน" ทำให้คนที่มีพฤติกรรม "อัตตานำ" ยังคงเป็นที่นิยมและมีอิทธิพลในสังคมครับ
https://www.facebook.com/neti.satjaviso.7/posts/2241678136331739.....
.....
·
สิ่งที่ “กัน จอมพลัง” แสดงออกสะท้อนให้เห็นว่าเขายังอยู่ในกรอบความคิดแบบ “ปกป้องอัตตา” มากกว่า “ปกป้องหลักการ” เมื่อถูกวิจารณ์หรือท้าทาย ก็เลือกใช้วิธีโต้กลับด้วยอารมณ์ ความสะใจ หรือการประจาน มากกว่าการใช้เหตุผลและความรับผิดชอบต่อสังคม
ประเทศที่เจริญแล้ว ไม่ได้วัดกันที่ “ใครเสียงดังกว่า” ควร “ใคร่ครวญใช้สติ+ หลักฐานมากกว่า” การโต้วาทีสาธารณะในที่เหล่านั้น เขาจะเน้นข้อมูล เหตุผล ความถูกต้อง ไม่ใช่เอาอารมณ์มาชี้นำ
พฤติกรรมแบบนี้ถ้าเกิดในประเทศพัฒนาแล้ว(ซึ่งมักมีระบบการศึกษาที่เน้นการคิดวิเคราะห์วิจารณ์)คนจะมองว่า “ยังไม่ผ่านการอบรมทางจิตใจ” หรือที่พระท่านว่า “อารมณ์นำปัญญา”
ปรากฏการณ์ "ความนิยมในความสะใจ" ในสังคมไทย เพราะสังคมเรายังมีรากของความนิยมใน “ความสะใจ” มากกว่า “ความเข้าใจ” เลยทำให้คนแบบนี้มีพื้นที่ในสื่อ+กับปรากฏการมาแปลก ๆ อยู่เสมอ
โดยสรุป เป็นผลรวมของการขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ในการรับมือกับการวิจารณ์ ควบคู่ไปกับบริบททางสังคม และสื่อที่ให้คุณค่ากับ "อารมณ์ที่เร้าใจ" มากกว่า "เหตุผลที่ยั่งยืน" ทำให้คนที่มีพฤติกรรม "อัตตานำ" ยังคงเป็นที่นิยมและมีอิทธิพลในสังคมครับ
https://www.facebook.com/neti.satjaviso.7/posts/2241678136331739.....
.....
Pavin Chachavalpongpun
15 hours ago
·
มีคนทำโพลล์ถามว่า กันจอมพลัง สมควรเป็นนายกไหม อกอีแป้น คนกดไลค์เพียบ นี่คือสังคมอุดมคนโง่ แต่การตอบว่าเพราะคนมันโง่ อาจจะง่ายเกินไป มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ในการอธิบายว่า ทำไมหลายๆ คนยังเห็นกันจอมพลังเป็นฮีโร่
...คนไทยไม่มีความรู้ในวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถึงถ้ารู้ ก็รู้แบบ selective วิชา IR มันไปซ่อนอยู่ในวิชาประวัติศาสตร์ ถ้าอยากรู้ลึก ต้องรอถึงในระดับอุดมศึกษา ทีนี้พอมันไปซ่อนในวิชาประวัติศาสตร์ และดันเป็นประวัติศาสตร์ชาตินิยมแบบไทยๆ การมอง IR ของชาวบ้านทั่วไปจึงมีอคติ และ arbitrary
...นักการเมืองไทยไม่รู้/ไม่ใส่ใจประเด็น IR เรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน เรื่องนโยบายทางการทูต ไม่เคยอยู่ในการหาเสียงการเลือกตั้ง ยุคที่พอจะเห็นแสงสว่างทางการทูตคือยุคทักษิณไทยรักไทย แต่นั่นก็เป็นการทูตแบบไทยคือศูนย์กลางจักรวาล ขาดความเข้าใจประเทศเพื่อนบ้าน จะมีความพยายามเป็นมิตร ก็กลับจะไปครอบงำเค้า นักการเมืองทั่วไปไม่รู้เรื่อง world affairs ดิชั้นกล้าท้าว่า ครึ่งหนึ่งของ สส ในสภาไม่รู้ว่าอาเซียนมีกี่ประเทศ อะไรบ้าง แม้แต่เด็กรัฐศาสตร์อย่างแพทองธาร ยังพูดหน้าตาลอยว่าในโลกนี้ไม่มีประเทศไหนมีนายก 2 คนในเวลาเดียวกัน ทั้งๆ ที่มันมีจริงในกัมพูชา และ "อังเคิล" ของแพทองธารนั่นแหละ เป็น 1 ในนายกร่วมของเขมรในทศวรรษที่ 1990s
...พรรคการเมืองที่มีฐานเสียงในจังหวัดติดกับเพื่อนบ้านก็ไม่มีความพยายามที่จะชงนโยบายส่งเสริมสันติภาพกับเพื่อนบ้านเหล่านั้น ในทางตรงข้าม กลับยั่วยุให้เกิดสงคราม แม้ว่ามันจะกระทบชีวิตความเป็นอยู่ของฐานเสียงตัวเอง ผู้นำระดับชาติขาดความรู้ทางการทูต ปล่อยให้อินฟลูตลาดล่างจับเอาเขมรเป็นตัวประกัน ปลุกปั่นความเกลียดชัง ทำให้งานการทูตโดยทูตมืออาชีพทำงานลำบากมากขึ้นไปอีก ประชาชนทั่วไปที่ไม่รู้เรื่อง IR ที่มองความสัมพันธ์กับเขมรผ่านเลนส์ประวัติศาสตร์ที่บิดเบี้ยว ก็จมอยู่กับชาตินิยมเพ้อฝัน ประเทศเราไม่เคยเป็นเมืองขึ้น ดังนั้นเราต้องไม่แพ้ ในความที่ต้องไม่แพ้ เราทำอะไรก็ได้ที่ลดอำนาจฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะต้องใช้รถดูดขี้หรือซีดีเพลงผีเป็นอาวุธก็ตาม
...ถึงเวลาแล้วหรือยังที่สังคมต้องตื่นรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มันไม่ไกลตัวคุณเลย มันจับต้องได้ ถ้าจะคุยว่าเราต้องเป็นศูนย์กลางโน่นนี่ ศูนย์กลางผลิตรถยนต์ ศูนย์กลางแฟชั่น ศูนย์กลางอาหารโลก ศูนย์กลาง soft power แก่นแตดอะไรนั่น เราต้องรู้เรื่องการเมืองต่างประเทศค่ะ เราต้องเข้าใจ world affairs และคนที่ต้องทำหน้าที่นี้คือภาครัฐ ที่ต้องสร้างกลไกในการให้ความรู้นี้ เพื่อที่ชาวบ้านจะไม่ตกเป็นเหยื่ออินฟลูตลาดล่าง จนยกยอปอปั้นว่าเหมาะที่จะเป็นนายกคนต่อไป กูจะอ้วกค่ะ
https://www.facebook.com/pavinchachavalpongpun/posts/24131285433213226
Atukkit Sawangsuk
17 hours ago
·
(มิตร)
มองจากดาวอังคารยังรู้ว่าการกระทำของกัน จอมพลัง รัฐบาลและกองทัพยินดีให้ทำ และออกใบอนุญาตพิเศษให้ เผลอๆ อาจจะช่วยกันคิด
ที่เปลี่ยนจากเสียงผี มาเป็นสารคดี รวมถึงเปลี่ยนคำอธิบายจากเปิดใส่ชาวกัมพูชา มาเป็นเปิดให้ทหารไทยดูเอง (เปลี่ยน paradigm จากมุ่งกวนพลเรือนฝั่งตรงข้ามเป็นเปิดดูเอง) นี่ก็ชัดเจนว่าพวกเขาปรับตามทิศทางลม หลังจากกัมพูชาฟ้อง UNHCR และเริ่มมีนักวิชาการกับนักสิทธิมนุษยชนออกมาทักท้วง
ที่ประกาศหยุด ก็ต้องมาจากคนที่ให้ใบอนุญาตนี่แหละที่เริ่มคิดได้ว่ากระแสมันมีเสียงแตก เลยสั่งให้หยุด แต่ที่เล่นบทกัน จอมพลัง น้อยใจ โยนให้เป็นเพราะนักสิทธิมนุษยชนออกมาพูดเลยหยุดแม่ง อันนี้ก็คือโยนให้กระแสไปรุมด่าอังคณาในฐานะ anti-hero แล้วก็เล่นบท hero น้อยใจให้เรื่องจบไป ไม่ต้องเสียหน้าว่ามีผู้ใหญ่สั่งหยุด
·
(มิตร)
มองจากดาวอังคารยังรู้ว่าการกระทำของกัน จอมพลัง รัฐบาลและกองทัพยินดีให้ทำ และออกใบอนุญาตพิเศษให้ เผลอๆ อาจจะช่วยกันคิด
ที่เปลี่ยนจากเสียงผี มาเป็นสารคดี รวมถึงเปลี่ยนคำอธิบายจากเปิดใส่ชาวกัมพูชา มาเป็นเปิดให้ทหารไทยดูเอง (เปลี่ยน paradigm จากมุ่งกวนพลเรือนฝั่งตรงข้ามเป็นเปิดดูเอง) นี่ก็ชัดเจนว่าพวกเขาปรับตามทิศทางลม หลังจากกัมพูชาฟ้อง UNHCR และเริ่มมีนักวิชาการกับนักสิทธิมนุษยชนออกมาทักท้วง
ที่ประกาศหยุด ก็ต้องมาจากคนที่ให้ใบอนุญาตนี่แหละที่เริ่มคิดได้ว่ากระแสมันมีเสียงแตก เลยสั่งให้หยุด แต่ที่เล่นบทกัน จอมพลัง น้อยใจ โยนให้เป็นเพราะนักสิทธิมนุษยชนออกมาพูดเลยหยุดแม่ง อันนี้ก็คือโยนให้กระแสไปรุมด่าอังคณาในฐานะ anti-hero แล้วก็เล่นบท hero น้อยใจให้เรื่องจบไป ไม่ต้องเสียหน้าว่ามีผู้ใหญ่สั่งหยุด