ตามที่โพสต์ของ Pipatpong Sriwichai แจ้ง “ไม่ใช่ภาพ AI ที่ใส่ร้ายสำนักข่าว แต่เป็นภาพจริงๆ ในรายการอรุณอมรินทร์ ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๘” ขาดจริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชนอย่างจะแจ้ง เขาอธิบายถึง ข้อบังคับ
ว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพสื่อมวลชน ของสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๔ เข้ากับการขึ้นฉากหลังที่ว่า “อังคณาแม่พระเขมร แนวร่อมทยอยเคลื่อนไหว” เป็นการแพร่หลายเนื้อหาข่าว ที่ “เป็นการ 'บิดเบือน' ข้อเท็จจริงหรือไม่”
ตามหมวดที่ ๒ หลักจริยธรรมทั่วไป ซึ่งมีรายละเอียดบางตอนระบุ “ข้อ ๕ สื่อมวลชนต้องตรวจสอบและไม่แต่งเติมเนื้อหาสาระของข่าวจนคลาดเคลื่อน หรือเกินจากข้อเท็จจริง ข้อ ๖ สื่อมวลชนต้องละเว้นการเสนอข่าวด้วยความลำเอียงหรือมีอคติ”
แน่นอนว่าการขึ้นข้อความฉากหลังเช่นนั้น จงใจให้เนื้อหาที่ไม่เป็นความจริง โดยเจตนาลึกๆ ที่จะให้ร้าย ป้ายสี สว.อังคณา ที่ยึดมั่นหลักการเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งย่อมไม่ถูกจำกัดด้านเชื้อชาติ ศาสนา และ/หรือ ใครคือประมุข
เขาให้ข้อมูลเกี่ยวกับระเบียบแห่งจรรยาบรรณสื่อสารมวลชนต่อไปอีกเกือบ ๒๐ ข้อ รวมทั้ง “การนำเสนอโดยนำ อังคณา นีละไพจิตร ขึ้นปกพร้อมพาดหัวอันเป็นการใส่ร้ายว่าผู้อื่นในทำนองว่า เขาหรือเธอยืนเคียงข้างกัมพูชานั้น” ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ตกเป็นข่าว
หรือในประเด็นที่ว่า “ข้อ ๒๔ สื่อมวลชนต้องไม่สอดแทรกความคิดเห็นลงในข่าว เนื้อหาข่าว” เขาแนะกลายๆ ว่า “สมาคมนักข่าวฯ ก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อกำกับการทำหน้าที่ของสื่อให้อยู่ภายใต้จรรยาบรรณอย่างเข้มข้น”
# เรียกร้องให้กัมพูชาเคารพหลักมนุษยธรรม และยึดแนวทางสันติวิธี ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งชายแดน” นี่คือจุดยืนของเธอแรกเมื่อมีการ ‘รุก’ ทางการทหารจากกัมพูชา
(https://www.facebook.com/piputpong.sriwichai.71/posts/j9dpX33n42s และ https://www.facebook.com/sompop.ntv/posts/NJVEFr8Ee68a)