กรณีอันเป็นประวัติการณ์ เมื่อพวกเขาผู้ร้องทั้งสาม พลิกความพ่ายแพ้แห่งคดีที่ศาลปกครองยกฟ้อง (ขอให้สั่งทัพบกหยุดปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร) เป็นโอกาสอุทธรณ์ และเดินหน้าคัดค้านกระบวนการ ‘ไอโอ’ ต่อไป
สฤณี อาชวานันทกุล ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ และวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ เปิดแถลงการณ์หน้าศาลปกครองกลาง หลังฟังคำพิพากษา เมื่อ ๓๐ ตุลาคม ว่าถึงแม้ศาลจะยกฟ้องด้วยเหตุผลสุดท้ายว่า การใช้สื่อสังคมก่อกวน โจมตี และกลั่นแกล้งบัญชีส่วนบุคคล
นั้นอาจไม่ใช่ปฏิบัติการของหน่วยงานราชการก็ได้ หากแต่เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตนของเจ้าหน้าที่คนนั้นๆ แม้กระทั่งหลักฐานที่ศาลรับฟังว่า “มีข้อความไปหา @johnwinyu ว่า กูโคตรจะเกลียดมึงเลย เป็นดาราเสือกมายุ่งเรื่องการเมือง ไอ้ขยะ”
ซึ่งข้อความทางทวิตเตอร์จากบัญชีที่ มีความเชื่อมโยงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ดังกล่าว ศาลยอมรับว่าเป็นจริง รวมทั้งหลักฐานสำคัญที่ได้มาจาก การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหลายครั้ง โดย สส.หลายคน
“ได้แก่ วิโรจน์ ลักษขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล, ณัชชา บุญไชยอินสวัสดิ์ จากพรรคก้าวไกล และชยพล สท้อนดี จากพรรคประชาชน” ซึ่งได้รับ “มาจากบุคคลที่ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารภายในกองทัพนำมาให้” แม้นว่าผู้ถูกฟ้องจะปฏิเสธอย่างด้านๆ ในศาล
ตัวอย่างหลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่งเป็นเอกสารที่ระบุว่าผู้ประกอบการ ‘ทวิตเตอร์’ ได้สั่งปิดบัญชีอันเป็น “ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของรัฐในประเทศไทย” ถึง ๙๒๖ บัญชี ว่า “เชื่อมโยงไปยังกองทัพบกได้” และ “ล็อคเป้าหมาย บุคคลที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง”
เหล่านี้ ศาลปกครองกลางยอมรับว่าเป็นเอกสารจริง เท่ากับเป็นคำพิพากษาโดยนัยยะว่า กองทัพบกได้ดำเนินการ ‘ไอโอ’ จริง ซึ่งยิ่งชีพกล่าวในตอนหนึ่งว่า สามารถนำไปใช้ในการรณรงค์ต่อไปให้กองทัพบกยุติปฏิบัติการ
แม้ว่านั่นจะเป็นจุดหมายสูงสุดที่ทำได้ในขณะนี้ แต่ก็นำไปปรับใช้กับหน่วยงานไอโออื่นๆ ไม่ว่าของกองทัพอากาศ ทัพเรือ ตำรวจ กอ.รมน. หรืออื่นๆ ฯลฯ ทั้งหมด เขายังกล่าวขอบใจ ผู้ที่ส่งหลักฐานต่างๆ ให้ สส.อภิปรายในสภา แม้จนบัดนี้ไม่รู้ว่าเป็นใคร
แต่คุณูปการของเขาผู้นี้ได้ช่วยให้ประชาชนทั้งหลายที่ปราศจากอำนาจทัดทาน มีโอกาสรอดพ้นจากการเป็นเหยื่อทำร้ายและทำลายล้าง โดยหน่วยงานของรัฐและกองทัพได้ในภายภาคหน้า
(https://www.ilaw.or.th/articles/55470 และ https://www.facebook.com/watch/live/680686621765475=1761796909148548_video)
